ข่าวล่าสุดมีการโต้งกันเดือด! เกิดขึ้นต่อเนื่องปมดราม่าใส่สูทถือกล้องในการชุมนุมม็อบโดย ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” เมื่อ 24 สิงหาคม 2564 ลูกนัทแหย่พี่อี้แทนคุณพร้อมแท็กหาในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก เล่น clubhouse ยังไงพูดคนเดียวเป็นชั่วโมงไม่แบ่งคนอื่นพูด
เดือดต่อเนื่อง ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” โต้งเดือด ปมดราม่าร่วมม็อบใส่สูทถือกล้อง ลูกนัทแหย่ พี่อี้เดือดทวงบุญคุณ ทำไมไม่รู้จักเปิดพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงอีกด้าน
ลูกนัท VS อี้ “แทนคุณ” เริ่มจากที่คุณลูกนัทได้มีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยได้กล่าวถึงคุณแทนคุณเรื่องการคุยสื่อสารใน clubhouse ปมดราม่าใส่สูทถือกล้องเข้าม็อบ
ลูกนัท: โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแท็กหาพี่อี้ “ถ้า อี้ Tankhun Jitt-itsara ยังจะเล่น clubhouse แบบ พูดไม่ยอมหยุดเป็นชั่วโมงๆแบบไม่แบ่งคนอื่นพูดเลย แล้วไปทุกห้องแบบนี้ ผมว่าผมจะเลิกเล่น clubhouse ละ รำคาน”
เมื่อโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไปบรรดาแฟนคลับลูกนัทต่างแห่กันมาเม้นต์เดือดเหน็บแรงไปตามๆกัน อาทิเช่น “ประเทศไทยในมุมมองของสลิ่มมันช่างสุกสกาววาววับสวยงามไปหมด อะไรๆก็ดีจะด่าจะทะเลาะกันทำไม แต่ความเป็นจริงแม่งก็แค่ผักชีโรยหน้าสวยแต่เปลือกปัญหาซุกไว้เต็มพรม ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าผู้มีอำนาจไม่เคยคิดจะฟังเสียงประชาชน ประเทศที่หนุนนายทุนเป็นใหญ่กดหัวประชาชนคนจ่ายภาษีให้เป็นทาสแรงงาน”
“ถ้าคนพูดแบบไม่เปิดโอกาศให้คนอื่นพูด คนแบบนี้ คือ คนขี้ขลาด กลัวคนอื่นพูดความจริงมาตัดหน้ามัน เพราะฉะนั้น มันไม่เกรงใจและฉวยโอกาสของมัน เรา ก็ต้องพูดตัดหน้ามันและ พูดตัดมันเลย ถึงเวลาshut up แล้ว หยุด ให้โอกาสคนอื่นออกความเห็นบ้าง ถ้ามันไม่หยุด ใส่หนักเลย คนแบบนี้มันใช้โอกาสที่เราเกรงใจมันไงคะ.”
“หลายๆ คนคงพอจะจำกันได้กับบทบาทลูกคุณหนูไฮโซ ตัวโกง หน้าตี๋ ดูโฉดๆ เลวๆ ในละครเรื่อง “ทอฝันกับมาวิน” เมื่อ 13 ปีก่อน ที่ทำให้เค้ามีชื่อเสียง หนุ่มที่ว่านั้น คือหนุ่ม “อี้ เอกชัย บูรณผานิต” ที่ตอนหลังมาเปลี่ยนชื่อ เป็น “แทนคุณ จิตต์อิสระ” นั่นเอง”
พี่อี้: โต้งกลับออกเม้นต์ใต้โพสต์ “ผมไม่ได้พูดคนเดียวนะครับ มีกติกาและเคารพกติกา มีการควบคุมเวลาและเนื้อหา ไม่ให้พูดแทรกซึ่งผมไม่เคยพูดแทรก และไม่ใช้คำหยาบคายซึ่งถือเป็นความรุนแรงชนิดหนึ่งหลังๆบางคนใช้พวกมากปิดปาก ปิดกั้นเสรีภาพของคนเห็นต่างไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอย่างที่เขากล่าวไว้ และกลับไม่เปิดพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงอีกด้าน รวมทั้งปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของคนอื่นครับ ถ้าจะเป็นผู้นำม็อบต้องเริ่มจากการมีหลักการที่มุ่งประโยชน์เพื่อส่วนรวมจริงๆและมีกัลยาณมิตรที่คอยเตือน การเมืองคือสงคราม ที่ไม่นองเลือดเท่าสงครามจริงๆ”
ลูกนัท: ไม่รอช้าตอบกลับใต้เม้นต์เช่นกัน “ทุกคนพอครับ จบแล้ว ผมคุยไลนกับพี่อี้แล้ว ต้องขอโทษพี่ด้วยที่โพสต์ Status อาจจะฟังดูไม่ค่อยสุภาพ ส่วนทุกๆคนครับความเห็นต่างยังไงก็จะเกิดขึ้นเราไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ทุกคนคิดเหมือนเราได้ ถึงทำได้การกระทำแบบนั้นก็ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นคนเห็นต่างไม่ใช่ศัตรูของเรา ศัตรูของเราคือเผด็จการเท่านั้น เลิกเสียเวลามานั่งเสวนาโวยวายจับคนเห็นต่างเถอะครับเค้าไม่ผิด ผิดที่เผด็จการ”
ล่าสุดเช้าวันนี้ที่ 25 สิงหาคม 2564 พี่อี้ของคุณลูกนัท หรือ แทนคุณ จิตต์อิสระ ได้ออกมาแชร์โพสต์ที่ลูกนัทแท็กหาและได้เขียนโพสต์พร้อมรูปภาพยืนยันในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อ Tankhun Jitt-itsara เพื่อแท็กกลับหาลูกนัทแบบมารยาทผู้ดีด้วยว่า
ได้ไปคอมเม้นท์ตอบนัท Nat Thanakitamnuay
(ขออภัยต้นสกุล เพราะยังไม่สรุปว่าที่กำลังหานามสกุลใหม่ คืออะไร)
กรณีบางคนบิดเบือนข้อเท็จจริงในการใช้ Clubhouse ของผมจึงขอชี้แจงรวมๆ ดังนี้
1.ผมไม่ได้พูดคนเดียวเป็นชั่วโมงๆแต่มีคน (Moderator)ที่ใจกว้างให้โอกาส แลกเปลี่ยนและมีการกำหนดกติกาที่ชัดเจน และมีคำถามถามมาตลอดผมก็ตอบบนจุดยืนของผมในเวลาจำกัดสั้นกระชับ ตรงประเด็นแต่สังเกตว่าพอตอบอะไรที่เป็นความจริง ทำให้แนวร่วมพวกเขาอาจจะเริ่มเข้าใจและเปิดใจในมุมมองที่แตกต่างจนมีวุฒิภาวะมากขึ้น รับฟัง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ อยู่ร่วมอย่างสันติ ไม่บิดเบือนให้ร้าย ด่าทอหยาบคายแบบปวิน และสาวก (บางคน)
2.สิทธิเสรีภาพเป็นของทุกคนในการพูดอะไรก็ต้องคู่ไปกับความรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง ครอบครัวและสังคมทั้งไม่ใช้เสรีภาพในการบิดเบือนโจมตีให้ร้าย สร้างความแตกแยกกับสังคม ซ้ำเติมสถานการณ์โรคระบาด การเปิดดวทีรับฟังกันในทุกเรื่องจะทำให้หาทางออกที่ดีได้ด้วย
3.การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและเปิดพื้นที่ให้คนคิดต่างแสดงออกคือ ความงดงามของ ประชาคม Clubhouse ที่มีวุฒิภาวะแม้จะเห็นต่างกัน แต่จะมีบ้างที่ยัง บูลลี่ เหน็บแนม ก้าวร้าว ซึ่งเป็นธรรมดาของคนที่มีปมขาดความมั่นใจอันเกิดจากการกลัวการสูญเสียตัวตนจากความเชื่อที่ถูกหว่านล้อมโดยสายอวย หรือขาดความรักความอบอุ่นขั้นพื้นฐานในวัยเด็ก
4.สุดท้ายผมไม่ได้หิวแสง ผมมีแสงของผมอยู่แล้วเป็นแสงสว่างที่เกิดจากการอยู่ท่ามกลางคนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน ที่เพียงพอต่อการสร้างความอบอุ่นให้เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และพร้อมแลกเปลี่ยนและอยู่ร่วมกับคนที่ไม่รัก หรือไม่ต้องการให้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเหล่านี้
เพราะผมไม่อยากให้เกิดสงครามกลางเมืองแบบหลายๆประเทศที่ถูกปลุกปั่นด้วยวิธีการและข้ออ้างว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบประเทศนั้นๆเท่านั้น
(ทั้งที่ประเทศนั้นยังมีการเหยียดผิว เหยียดชาติพันธุ์ และรุกรานชาติอื่นอยู่
ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว)
สุดท้าย ผมอยากฝากนัทในฐานะ “เพื่อน” คนหนึ่งที่เคยพูดคุยเหมือนพี่เหมือนน้อง
“อย่าขับเคลื่อนชีวิตด้วยความเกลียดชัง สุดท้ายพอมันพังเราจะไม่เหลือใครที่จริงใจกับเรา”
ผมเป็นคนเชื่อในกฎแห่งกรรม คือ จิตเจตนาที่เล็งเห็นผลในการกระทำเชิงวิทยาศาสตร์ คือเป็นเหตุเป็นผลเชื่อในกุศลจิตและอกุศลจิตของคน ว่ามันจะกำหนดให้กำเนิดใหม่ให้ตัวเราต้องประสบกับสิ่งใดๆก็ตามล้วนแต่จากสำนึกของเราเองและหลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา มันเป็นสิ่งที่สั่งสมมานับภพชาติไม่ถ้วน นัทมีบุญวาสนาดี ที่เกิดมาดี ร่ำรวยกว่าคนนับล้านคนในประเทศ (ไม่เท่าเทียม??? )ที่ดีที่สุดคือ มีพ่อแม่ที่รักนัทมากๆ โดยเฉพาะคุณพ่อ ตอนที่นัทลงสมัครส.ส. ปชป. เขตมีนบุรี ถึงขนาดนัดผมทานกาแฟ เพื่อขอให้ช่วยเป็นพี่เลี้ยง ช่วยแนะนำ ช่วยดูแลนัทให้หน่อย ผมก็สัมผัสได้ถึงความรักและปราถนาดีของท่านต่อนัท อยากให้นัทได้รับรู้ไว้บ้าง
ผมรู้ว่านัทเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นมีอุดมการณ์ มีศักยภาพและกำลังฮึกเหิมเลยพาลฟาดงวงฟาดงาไปกับทุกคน ผมแค่ยังอยากใช้โอกาสในฐานะเป็นกัลยาณมิตรให้สติ อย่าหักหาญน้ำใจพ่อแม่ไปมากกว่านี้ การเมืองเป็นเรื่องผันแปรร้อยแปดตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรื่องระยะสั้นจะเอาชนะในวันสองวันได้ ยิ่งรุนแรงยิ่งพ่ายแพ้
บางทีนัทอาจเครียดไป อินมากไปและยิ่งมีคนมาอวยเราเยอะ ทำให้หลงตัวเองไป จากคนที่เงียบเหงามานานได้มีตัวตนต่อสาธารณชนเป็นข่าว อย่างที่นัทอยากได้แต่มันไม่ยั่งยืน
เดี๋ยวก็ผ่านไป ผ่อนคลายบ้าง อย่าเครียดเกินไป
ผมได้แต่หวังว่าในสนามรบครั้งหน้า เราจะไม่ต้องเผชิญหน้ากันแบบคนที่คิดร้ายต่อกันเพียงเพราะความเห็นต่างและยังสามารถพูดคุยกันได้ในฐานะคนไทยด้วยกัน อะไรที่สุดโต่งมักทำลายตัวเราเอง โดยเฉพาะอย่าล้อเล่นกับความรักความศรัทธาที่บริสุทธิ์ของคนไทยจำนวนมากเพียงเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือคึกคะนอง เพราะเชื่อเพื่อนชั่วเป็นปาปมิตร โดยเฉพาะคนอย่าง”ปวิน” ผมไม่อยากให้นัทต้องมีจุดจบแบบเขา คือลี้ภัยไปต่างประเทศ
ปล เสียใจด้วยอีกครั้งเรื่องการเสียดวงตาขวา ดังนั้นมีสติอย่าประมาทเด็ดขาด คิดในแง่ดี ทำบุญทำกุศลให้มากๆครับ
ทั้งนี้เพื่อคุณแทนคุณก็ได้เม้นต์แสดงความคิดเห็นด้วยเช่นกันว่า ไม่แพ้หน้าเหล่าบรรดาแฟนคลับคุณลูกนัท โดยได้ระบุว่า “คุณอี้ เขียนให้ปัญญากับอีกฝ่ายมากๆ นับเป็นกัลยาณมิตรที่มีความหวังดี และจริงใจ ? หวังว่าจะพอสามารถเตือนสติได้บ้าง ? แต่ช่วงนี้ดูแล้วกำลังหลงในคำอวยจากพวกฉวยเอาผลประโยชน์ให้ตัวเอง น่าสงสารพ่อแม่นะ ?”
“ผมก็เข้าไปฟังในห้อง Clubhouse ในช่วงที่ชุลมุนกันครับ ผมชื่นชมคุณอี้ที่ทนฟังและตอบคำถามด้วยความอดทนมีเหตุผลและใจเย็น ชื่นชมคุณอี้ครับ และให้กำลังใจคนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติด้วยความจริงใจ”
เรียกว่าเดือดต่อเนื่อง เรียกบรรดาแฟนคลับขาเผือกมีเรื่องเม้าท์กันยาวๆ
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์