กรณี ไลฟ์สดใส่บาตร “พระพะยอม” ออกชี้! ไม่ผิดและไม่เสียหาย ขึ้นอยู่กับจิตที่เป็นกุศล

ข่าวเด่นออนไลน์ รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดราม่าการไลฟ์สดใส่บาตร ล่าสุด “พระพยอม” ได้ออกมาพูดว่าขึ้นอยู่กับจิตที่เป็นกุศล เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลายคนอาจจะไม่สะดวกที่จะเดินทางไปทำบุญที่วัด แต่ต้องไม่ใช่การทำบุญพระวนเวียน

ดราม่าไลฟ์สดใส่บาตร พระพะยอมมองว่าเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับจิตที่เป็นกุศล และ 2 อย่าง คือ พระที่เป็นเนื้อนาบุญ แม่ค้าที่มีใจเป็นกลาง

สืบเนื่องมาจากเมื่อไม่นานนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งออกมาโพสต์ระบุสาเหตุเกิดดราม่าวิจารณ์สนั่น มิติใหม่แห่งการทำบุญที่ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาจากที่นอน การใส่บาตรพระตอนเช้าที่ไม่จำเป็นต้องไปให้ถึงที่วัด เพียง คือเจ้าของโพสต์เล่าว่าขณะที่กำลังเลื่อนดูสินค้าในติ๊กต็อกเพราะยังไม่ได้นอน แล้วก็มาเจอกับเรื่องนี้ตอน6โมงเช้า เรื่องมันมีอยู่ว่า…

มีไลฟ์สดขายของสำหรับใส่บาตรพระ โดยให้เขียนชื่อและนามสกุล ก่อนพ่อค้าจะเตรียมใส่บาตรให้ เพียงลูกค้านั้นโอนเงินมาจ่ายก็ได้ใส่บาตรแล้ว ต้องบอกว่าไอเดียดังกล่าวก็ดีมากสำหรับคนในยุคปัจจุบัน และใครที่ไม่ปรับตัวก็จะอยู่ไม่รอด ร้านค้าใส่บาตรออนไลน์ขายดีจนรู้สึกสงสารพระ เมื่อมีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวสู่โลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตและคนในสังคมถกเถียงกันอีกครั้ง

ล่าสุดวันที่ 20 กันยายนนี้ สื่อมวลชนได้เดินทางไปที่วัดสวนแก้ว-นนทบุรี เพื่อสอบถามความคิดเห็นของพระพยอม หรือ พระพยอม กัลยาโณ ซึ่งท่านได้เปิดเผยมันเป็นความเจริญก้าวหน้าของยุคสมัย กรใส่บาตรออนไลน์เกิดจากการที่ไม่ว่างไปวัด ทำขึ้นจากจิตที่เป็นกุศล

หลายคนอาจจะอายุมากไม่มีลูกหลานว่างพาไปวัด ก็ไม่สามารถไปใส่บาตรได้ ทุกวันนี้โลกพัฒนาไปไกลแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยส่วนเรื่องการทำบุญนั้นขึ้นอยู่กับพระที่มาทำการบิณฑบาตรนั้นท่านเป็นเนื้อนาบุญหรือไม่ ส่วนเงินที่ญาติโยมทำการโอนมาให้พ่อค้าด้วยความบริสุทธิ์ไหม(ไม่ได้โดนหลอกให้โอน) หากทั้ง 2 อย่างเกิดขึ้นด้วยความบริสุทธิ์ใจเรื่องที่ทำทั้งหมดก็จะเกิดบุญ

สำหรับวิธีการให้พรของพระได้ยินเสียงแบบเดียวกัน แค่ได้เห็นใกล้ เนื่องจากมีการถ่ายทอดสด(ไลฟ์สด)ให้ดู นี่เป็นการทำบุญแห่งยุคสมัยใหม่ที่แท้จริง หากีการยึดติดกับรูปแบบเดิมที่ผ่านมา ต่อไปคงไม่ได้ทำบุญอย่างแน่นอน หากมีโอกาสไปทำบุญก็ทำ แต่ให้สังเกตดูพระที่เป็นเนื้อนาบุญ ซึ่งไม่ใช่พระที่วนเวียนที่อยู่แถวนั้น อีกอย่างแม่ค้าก็ควรทำจิตใจให้เป็นกลางด้วย ใช่ว่าจะเลือกใส่บาตรแต่พระองค์ที่ตัวเองชอบเท่านั้น หรือเลือกที่จะใส่บาตรให้เฉพาะพระที่เป็นเครือญาติกัน หากทำเฉลี่ยนเป็นหัวสามารถเรียกว่า “สงฆ์หมู่สงฆ์”

หากยึดติดแต่การใส่บาตรแบบเดิม กรณี การใส่บาตรออนไลน์ จากที่จะมีโอกาสทำบุญ 10 ครั้งจะเหลือเพียง 1 เท่านั้น มองว่าเป็นสิ่งที่ดีทำให้เห็นหลากมุมมอง แม้ไม่ได้ดีที่สุดมันอาจจะ ดี ดีเยี่ยม ดียอด ไปหาดีที่สุด หากจะว่าดีที่สุดก็ต้องคนทำบุญมาที่วัดวาอารามด้วยตัวเอง มาสัมผัสเองมันย่อมต่างจากการทำบุญอยู่บ้าน หรือ การใส่บาตรรอนไลน์ สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับญาติโยมสะดวกที่จะถนุบำรุงศาสนาแบบไหน

หากการทำบุญเกิดขึ้นจากจิตที่เป็นกุศลมีความตั้งใจที่จะบริจาคทาน มันจะไม่ได้บุญได้อย่างไร เพราะใส่บาตรเสร็จมีการเอ่ยชื่ออย่างคนที่โอนมาใส่บาตรทุกคน บุญเกิดจากความปิติสุขในใจ การที่เราใส่บาตรในแต่ละเช้า มันเป็นการแกล้งตัวกิเลสที่มันมีความงก เนื่องจากปัจจุบันนี้มีการหลอกลวงกันเกิดขึ้นเยอะ เบียดเบียนกันไป ก่อนที่จะจบบทสัมภาษณ์พระพยอมท่านบอกว่าสุดท้ายแล้วการทำบุญที่ไปทำด้วยตัวเองคือเป็นการดีที่สุด