ความลับของ “ภารโรง” ในต่างแดน รายได้ต่อเดือนเกือบเป็นล้าน!!

ความลับของ ภารโรง ในต่างแดนที่ “แคลิฟอร์เนีย” มีเงินเดือนสูงเฉลี่ยกว่า 500,000 บาทต่อเดือน และในหนึ่งปีพวกเขาฟันเงินเดือนไปได้มากถึง 6 ล้านบาท!! ข่าวต่างประเทศ เชื่อว่าหลายๆคนนั้นคงเคยได้ยินมาบ้างแล้วละว่าต่างประเทศนั้นจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานสูงมากแค่ไหน และถ้าใครที่อยากรู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เงินเดือนที่สูงมากๆแบบนี้นั้นต้องตามมาดูห้ามพลาดเด็ดขาด

ความลับของ ภารโรง ที่ “แคลิฟอร์เนีย” มีเงินเดือนสูงเฉลี่ยกว่า 500,000 บาท

ถ้าใครเป็นคนที่ติดตามข่าวสารจากต่างประเทศหรือในความสนใจในเรื่องต่างประเทศจะทราบว่า อันตราการจ่ายเงินเดือนพนักงานของต่างประเทศนั้นสูงมากจริงๆ แต่การจ่ายเงินเดือนนั้นไม่ได้เยอะเหมือนกันหมด และค่าครองชีพในแต่ละรัที่ มันก็ต่างกันยังกะคนละประเทศ ซึ่งรัฐที่ลือกันว่าค่าครองชีพของเขานั้นแพงแสนแพงที่สุดนั้นก็คือ “California” โดยในรัฐนี้บาง “county” มีคนที่รายได้ปีละ 2,400,000 บาท หรือเดือนละประมาณ 200,000 บาท

ก็ยังถือว่าเป็นคนกลุ่มล่างที่ได้ เพราะค่าครองชีพมันสูงมากจริงๆ แต่อีกหนึ่งมุมของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้นั้นกลับมีรายได้สูง เพราะคนบางกลุ่มนั้นขยันทำงานอย่างบ้าคลั่ง ชนิดที่ว่าทำจนมีสิทธิ์ที่จะรวยได้อย่างง่ายๆ ไม่ว่าอาชีพของพวกเขานั้นจะอยู่จุดที่ต่ำสุดก็ตาม เพราะว่าอาชีพของพวกเขานั้นก็จะได้เงินสูงขึ้นตามค่าครองชีพ แน่นอนว่าอาชีพที่เรากำลังกล่าวถึงนั้นก็คืออาชีพ “เก็บกวาด” หรือที่คนไทยเราเรียกว่า “ภารโรง”

เมื่อประมาณปี 2016 มีข่าวรายงานว่ามีภารโรงอยู่คนหนึ่งที่มาจากเมือง San Francisco  California ทำรายได้ได้ถึงปีละ 6,000,000 บาทต่อปีหรือเขานั้นได้เงินเดือนประมาณเดือนละ 550,000 บาท แน่นอนว่ายอดเงินจำนวนี้นั้นมันเป็นเงินจำนวนมหาศาลในมาตรฐานอเมริกา

เพราะว่าความเป็นจริงแล้วเงินเดือนของพนักงานเก็บกวดนี้นั้นอยู่ที่เดือนละห้าหมื่นบาทเท่านั้น แม้ว่าตัวเลขนี้มันดูว่ามากเกินกว่าที่อาชีพนี้จะได้รับ แต่ในความเป็นจริงแล้วคนในอเมริกา คนที่มีรายได้ประมาณเดือนละ 250,000 บาท ก็สามารถอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีค่าครองชีพสูงนี้ได้แล้วไม่ว่าจะอยู่ในรัฐไหน แต่นี่คือภารโรงคนที่ว่า เขาได้เงินเป็น 2 เท่า

เมื่อเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกจนมันกลายเป็นข่าวดังนักข่าวเลยได้ไปสอบถามความจริงจากทางบริษัทต้นสังกัด Bay Area Rapid Transit ว่ามันจริงเท็จยังไง? และต้นสังกัดก็ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องจริง จากการสอบถามข้อมูลมานั้นพบว่า พนักงานคนนี้นั้นเขารับงานแบบล่วงเกินเวลารับงานแบบเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว

ซึ่งตาม labor law ทั่วไปการทำงานเกินเวลา คือจะต้องได้ค่าแรงที่เยอะกว่าการทำงานในเวลาทำงานที่เรานั้นทำตาม Limit ของ labor law (Western wage law standards การจ่ายค่าแรงของเขาคือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 8 ชั่วโมง ในวันทำงาน 5 วัน) ซึ่งอาจได้เยอะกว่าปกติถึง 2-3 เท่าก็ได้

ซึ่งว่าพนักงานคนนี้นั้นเขาบ้าคลั่งในการทำงานมากๆ เพราะเขานั้นได้ไปลงชื่อทำงานเกินเวลาทุกครั้งที่เขานั้นได้รับหน้าที่ และนั้นคือเหตุผลที่ทำให้เขาได้เงินเดือนจำนวนมาก เพราะเพื่อนร่วมงานของเขานั้นทำงานทั้งปีอยู่ที่สองพันชั่วโมง (ทำงานประมาณห้าวันต่อหนึ่งอาทิตย์วันละแปดชั่วโมง) แต่พนักงานคนนี้นั้นเขาทำงานไปมากถึงสี่พันชั่วโมง หรือเวลานั้นนับเป็นเท่าตัวของพนักงานคนอื่น

และค่าตอบแทนต่อชั่วโมงทำงานที่มากกว่า คือค่าตอบแทนแบบล่วงเวลาที่เขานั้นได้รับมาทั้งนั้น และถ้าหากว่าเรานั้นเอามาคิดรวมๆเล่นๆ เราจะเห็นเลยว่า การทำงานอย่างบ้าคลั่งแบบนั้น มันคือการทำงานวันละ 11 ชั่วโมง ตลอดทั้งปี และเขานั้นต้องทำมันทุกวันแบบไม่หยุดพักเลย เรียกได้ว่าเป็นการทำงานที่โหดมากจริงๆ

แต่นี้มันก็คือที่ไปที่มาของรายรายได้ปีละ 6,000,000 บาท หรือคิดเป็นเดือนละ 550,000 บาท ที่หลายๆคนนั้นบอกว่าไม่จริงหรอกที่พนักงานภารโรงจะได้เงินนมากมายขนาดนี้ แต่มันก็เป็นไปแล้วตามเรื่องราวที่เราเล่ามาให้ฟังเมื่อตอนต้น

เผื่อมีคนสงสัยจะอธิบายให้ฟังเพิ่มเติม ว่า “ฐานเงินเดือน” ของพนักงานคนนี้ต่อเดือนตามปกตินั้นอยู่ที่ 150,000 บาท อยู่แล้ว แน่นอนว่าเงินจำนวนนี้ก็ไม่ได้น้อยเกินไป แต่ในมาตรฐานเขตที่มีค่าครองชีพแพงแสนแพงมันไม่ใช่รายได้ที่มากมายอะไร คือไม่ได้รวยแต่ก็ไม่ได้จน แต่ส่วนที่ทำให้เราได้เงินจำนวนมหาศาลนั้นมันมาจากการทำงานเกินเลาที่หนักและบ้าคลั่งสุดๆ แต่ก็คุ้มที่ได้ค่าแรงตอบแทนแพงแสนแพงแบบนี้