รู้ไหมว่าเด็กจีนทำ “การบ้าน” เยอะที่สุดในโลก

รู้ไหมว่า เด็กจีนทำการบ้านเยอะ จนมีเด็กบางคนนั้นบอกกับผู้ปกครองของว่าพวกเขาว่า “แพ้การบ้าน” ข่าวต่างประเทศ เรื่องราวดังกล่าวโด่งดังจนกลายเป็นไวรัลที่ประเทศจีนเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยในสัปดาห์นั้นบอกว่าเด็กๆชาวจีนจะต้องนั่งทำการบ้านนานถึง 14 ชั่วโมง

เด็กจีนทำการบ้านเยอะ จนมีเด็กอ้างกับผู้ปกครองว่าพวกเขา “แพ้การบ้าน” โดยเฉลี่ยในอาทิตย์หนึ่ง เด็กๆชาวจีนจะต้องทำการบ้านหนักถึง 14 ชั่วโมง

เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมานประเทศจีนนั้นได้มีไวรับสุดฮาสุดน่ารักแชร์ออกมาบนโลกออนไลน์ เป็นคลิปวิดีโอของคุณแม่และลูกขายตัวแสบที่คนเป็นแม่นั้นสามารถบันทึกเอาไวได้ ตอนที่ลูกชายตัวแสบที่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมนั้นไม่สบาย ซึ่งเด็กน้อยนั้นมีอาการน้ำมูกไหลน้ำตาไหล และคุณแม่ก็ได้สอบถามกับเจ้าลูกชายตัวแสบไปว่าลูกเป็นอะไร ก่อนที่ลูกชายตัวแสบนั้นจะตอบกลับคุณแม่ว่าเขานั้นแพ้กลิ่นของหนังสือ ทำการบ้านไม่ได้คุณแม่เลยสอบถามลูกชายตัวแสบกลับไปอีกว่า แล้วทำไมลูกของแม่นั้นสามารถทำการบ้านมาได้นานถึง 5 ปี แล้วไม่มีอาการใดๆ ก่อนที่ลูกชายตัวแสบจะตอบกลับแม่มาอย่างตลกสุดๆว่า “นั่นมันคือระยะฟักตัวครับแม่” 55555

คุณแม่เลยได้นำคลิปวีดีโอที่อัดเอาไว้มาเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ พร้อมกับบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกชายตัวแสบของเธอนั้นหาข้ออ้างแปลกประหลาดมาบอกเธอ เพื่อที่เขานั้นจะได้หยุดทำการบ้านแต่ถ้าว่าครั้งนี้ที่ลูกชายตัวแสบของเธอทำนั้นมันตลกจริงๆ เธอเลยเอาเรื่องราวนี้ออกมาแชร์ให้เพื่อนๆบนโลกออนไลน์ดูด้วย ซึ่งคนจีนก็แชร์ต่อไปอย่างรวดเร็วเพราะมันถูกใจคนจีนมากจริงๆ เนื่องจากว่าสังคมของเด็กจีนในตอนนี้มีแต่คำว่า “การบ้าน”

ก่อนหน้านี้เคยมีการสำรวจหลายครั้งเรื่องการทำ “การบ้าน” ของเด็กๆ จากทั่วโลกและก็ไม่ต้องไปสืบเลยว่าทำไมประเทศจีนนั้นถึงเป็นเจ้าของรางวัลเรื่องนี่อยู่เสมอตลอดมา เพราะว่าประเทศเขานั้นคือสังคมที่ระบบการศึกษาให้เด็กได้ทำการบ้านจำนวนมหาศาลมากจริงๆ โดยเฉลี่ยในหนึ่งสัปดาห์เด็กๆชาวจีนต้องทำการบ้านอย่างน้อย 14 ชั่วโมง ส่วนประเทศที่ให้การบ้านดุเดือดเป็นสองรองลงมาจากจีนก็คือ “รัสเซียและสิงคโปร์” สิงประเทศนี้ให้การบ้านเด็กทำประมาณ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เลย

หากมีข้อสงสัยเพิ่มว่าถ้านำมาเปรียบเทียบกับประเทศไทยแล้วนั้นนคือ เด็กไทยจะต้องนั่งทำการบ้านตกแล้วประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งต่อหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งถ้าแยกเป็นวันเด็กไทยจะทำการบ้านประมาณวันละ 1 ชั่วโมง แน่นอนถ้านำเวลาไปเทียบกับ South Korea และ Finland ที่เด็กๆบ้านเขาทำการบ้านทั้งสัปดาห์ไม่เกิน 3 ชั่วโมง เด็กไทยเราอาจรู้สึกว่ามันมากเกินไป แต่ถ้าไปเทียบกับเด็กจีนที่วันๆ ต้องนั่งทำการบ้านกันเกือบ 3 ชั่วโมงแล้วล่ะก็ ไม่มีประเทศไทยเทียบได้แน่นอน

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายๆคนนั้นมองว่าประเทศจีนนั้นน่าจะสั่งให้เด็กทำการบ้านเยอะมากเกินไปหรือเปล่า แต่ถ้าหากมองดูดีๆจะทราบว่า ผลการทดสอบความรู้ของเด็กจากทั่วโลก Programme for International Student Assessment นั้นเด็กจีนคืออันดับหนึ่ง ซึ่งนี้มันน่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมประเทศเขาถึงสั่งการบ้านเด็กมากแบบนั้น ถ้าหากว่าเรานั้นลองไปสังเกตดูสถิติรวมๆเราก็จะเห็นเช่นกันว่า จำนวนเวลาที่เด็กทำการบ้าน กับอันดับ Programme for International Student Assessment ที่วัดความฉลาดรู้ด้านการอ่าน mathematics และ science) ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเสมอไป

เพราะ Japan, South Korea และ Finland ที่เด็กทำการบ้านไม่เกิน 4 ชั่วโมงต่อหนึ่งอาทิตย์ ก็ล้วนแล้วแต่สอบ Programme for International Student Assessment ด้าน science ได้ระดับ Top 10 ของโลกเหมือนกัน หรือจะพูดง่ายๆนั้นมันก็คือเรื่องจำนวนชั่วโมงการนั่งทำการบ้านของเด็กๆในแต่ละวันนั้นอาจไม่จำเป็นมากสักเท่านไหร่ เพราะว่าความเป็นจริงแล้วคุณภาพของการศึกษาการเรียนนี่นมันอยาที่ “การศึกษาในห้องเรียน” มากกว่า

แม้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรแต่เรื่องตลกๆของเด็กที่บอกว่า “แพ้การบ้าน” ที่กล่าวมาเมื่อตอนต้นนั้นก็น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เรานั้นเห็นว่า สังคมการศึกษาของประเทศจีนนั้นเป็นอย่างไร เพราะความเคร่งขัดในการเป็นหนึ่งด้านการศึกษาในสังคมจีนนั้น ก็อาจส่งผลให้บรรดา Asian Parent ในชาติตะวันตกที่ไม่พอใจ เวลาลูกเรียนไม่ได้เกรด A นั้นดูน่ารักไปเลยถ้าเทียบกับระบบการศึกษาของจีน