ทนายอนันต์ชัยโพสต์ ไม่ได้เป้นคนชอบความรุนแรง แต่กรณีนี้! พร้อมดูแลคดีให้ “วีรวิทย์”

ข่าวเด่นออนไลน์ ล่าสุดหลังเกิดเรื่องการตบสั่งสอน “ศรีสุวรรณ” หลังจากนั้นไม่นานก็กลายเป็นข่าวดังทั่วประเทศ ต่อมาทนายอนันต์ชัยโพสต์ เพื่อที่จะเสนอต้นเข้าไปเป็นทนายในการดูแลคดีความให้กับชายที่บุกไปเตะตอยศรีสุวรรณ ก่อนบอกว่าเขาเองก็ไม่ได้ชอบความรุนแรง

ทนายอนันต์ชัยโพสต์ ภายหลังการบุกปะทะ “ตบสั่งสอน” ระหว่าง “วีรวิทย์” และ “ศรีสุวรรณ” ยื่นข้อเสนอรับดูแลคดีให้ แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่ชอบความรุนแรง

ทนายอนันต์ชัยโพสต์ บอกเล่าว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ชอบใช้ความรุนแรง แต่สำหรับกรณีที่มีการบุกไปเตะตอย “ศรีสุวรรณ” เขาพร้อมที่จะดูแลคดีความให้กับลุงคนที่ฝ่ากลางวงสัมภาษณ์ไปตบเป็นการสั่งสอน และได้มีการย้ำอีกว่าใจคุณได้มาก แต่ก็สงสัยว่าที่ร้องเรียนไปแล้วนั้นเรื่องคืบหน้าไปถึงไหนบ้างแล้ว

ในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 “ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช” ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กลั่นเสนอตัว พร้อมเป็นทนายความให้กับนายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริ ลุงที่ก่อเหตุบุกดเข้าไปกลางวงสัมภาษณ์รัวชกและเตะนายศรีสุวรรณ จรรยา เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตกใจให้แก่ผู้สื่อข่าวที่กำลังทำการสอบสัมภาษณ์ในเวลานั้นเป็นอย่างมาก ทนายอนันต์ชัยกล่าวว่าตัวเขาเองไม่ชอบใช้ความรุนแรง และจากโพสต์นี้ของทนายอนันต์ชัยทำให้โซเซียลแห่เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ทนายอนันต์ชัย ได้บอกว่าเขาเองไม่ได้ชอบการใช้ความรุนแรง เพียงแต่อยากเป็นทนายให้เท่านั้น เพราะหลังจากที่เขาดูข่าวของ “นายศรีสุวรรณ จรรยา” ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องเรียนแห่งชาติ เขาได้โดน “นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริ” บุกเข้าต่อยกลางวงสัมภาษณ์ที่ ปอท. สำหรับเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าคุณวีรวิทย์ทำไปอย่างไม่ถูกต้องตากฎหมาย อยากที่ทราบกันดีว่ามันเป็นการใช้ความรุนแรง ทนายอนันต์ชัยบอกว่านักกฎหมายอย่างเขาไม่ชอบการกระทำแบบนี้อยู่แล้ว เนื่องจากมันผิดต่อกฎหมาย

แต่ทนายอนันต์ชัยได้กล่าว่าเขาไม่ชอบความรุนแรงก็จริง แต่ยกเว้นในกรณีของนายศรีสุวรรณ จรรยา และใจลึกๆของเขาก็อยากเป็นทนายให้กับ “นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริ” เนื่องจากชอบเป็นการส่วนตัว เพราะใจเขาได้มากไม่มีใครเหมือนอีกแล้วในปฐพีนี้

ทั้งนี้ยังมีการติดแฮชแท็ก #หมายเหตุ ระบุทิ้งท้ายว่าเขาได้ถูกถามมาเยอะเหมือนกันว่า ทนายอนันต์ชัยนั้นปิดองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยของนายศรีสุวรรณ ณ กรมการปกครอง ทางทนายอนันต์ชัยบอกว่าคำถามนี้เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องมันไปถึงไหนแล้ว ก่อนที่จะบอกว่าให้ประชาชนช่วยกันถามแทนเขาด้วย