ครูหื่นหัวใส ออกอุบายให้นักเรียนหญิงมานวด ภายในห้องพัก ก่อนวางยาข่มขืนสนองตัณหา!

ข่าวทั่วไทย ล่าสุดรายงานทำให้โลกออนไลน์ร้อนระอุอีกครั้ง เรื่องราวในรั้วโรงเรียน พฤติกรรมสุดเอือมระอาของครูหื่นหัวใสสอนวิชาสุขศึกษา วางอุบายหลอกเด็กหญิงที่เป็นลูกศิษย์มาหาที่ห้องพัก เพื่อทำการนวดตามตัวให้ แต่ก็คิดร้ายวางยาก่อนที่จะข่มขืนตอนเด็กนอนหลับแล้ว

ผอ.โรงเรียนดังกาฬสินธุ์ ด่วนตั้งสอบสวน กรณี ครูหื่นหัวใส ออกอุบายล่วงเด็กหญิงมานวด ก่อนวางยานอนหลับ ข่มขืนในห้องพัก

ภายในวันที่ 24 ตุลาคม 2565 รายงานจะผู้สื่อข่าวเปิดเผยข้อความในโลกโซเชียล ลักษณะการพูดคุยของนักเรียนและครู เด็กหญิงฉันม. 1 อายุ 13 ปี และเป็นนักกีฬาวิ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์  เด็กหญิงได้ถูกครูชายสอนประจำวิชาสุขศึกษา เขาได้เรียกนักเรียนที่เป็นลูกศิษย์ให้ไปหาที่ห้องพักเพื่อมาช่วยนวดผ่อนคลาย เมื่อเด็กหญิงมาถึงครูชายได้หลอกให้เธอกินน้ำผสมยานอนหลับหรือยาสลบ พอได้ยินตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแต่รู้สึกเจ็บตรงอวัยวะเพศ ทำให้คาดเดาไปได้ว่าเธอถูกครูข่มขืน หลังจากนั้นผู้ปกครองได้พาเด็กหญิงเข้าไปแจ้งความ สภ.กุฉินารายรณ์ แต่ถึงตอนนี้คดีความก็ยังไม่คืบหน้า

ผู้โพสต์ได้มีการระบุเพิ่มเติมว่า นักเรียนหญิงได้ถูกชายข่มขืนแบบสิ้นคิด และเป็นที่น่าตกใจเพราะเธอไม่ได้โดนเพียงแค่คนเดียว หลายคนที่เคยโดนต้องยอมความเนื่องจากครูคนนี้มีเส้นสายที่ใหญ่โต ภายหลังจากผู้โพสต์ได้แชร์ลงสู่โลกออนไลน์เช่าในจำนวนมากได้เข้ามาคอมเมนต์และวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะกดแชร์จนกลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเปิดเผยจากปากญาติของผู้เสียหาย โดยเขาเป็นตาของเด็กหญิงหรือนักเรียนชั้นม 1 วัย 13 ปี คุณตากล่าวว่าหลานสาวของเขาเพิ่งไปเรียนต่อชั้นม 1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในอำเภอกุฉินารายณ์  ปกติแล้วหลานจะเข้าหอพักตั้งแต่ไปเรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนั้น เนื่องจากหลานสาวเป็นนักวิ่งและได้เข้าชมรมกีฬาของโรงเรียน จากเหตุนี้จึงทำให้ต้องไปนอนที่หอพัก และช่วงเย็นของทุกวันต้องเข้าไปซ้อมกีฬา เขาเองไม่อยากให้เดินทางไกล.. อย่างไรก็ตามเขามาทราบทีหลังว่าหอพักดังกล่าวนั้นอยู่ห่างจากโรงเรียนราว 2 กิโลเมตร ครูชาที่ก่อเหตุข่มขืนหลานสาวยังเป็นคนที่ดูแลชมรมการวิ่ง

ตาของเด็กหญิงยังได้กล่าวบอกอีกว่าสำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมานี้เอง เพื่อนของหลานสาวได้นำเอาโทรศัพท์ของหลานโทรมาบอกที่บ้าน บอกว่าผู้ชายที่สอนวิชาสุขศึกษาและยังเป็นคนที่ดูแลหอพักได้ขืนใจหลานสาว เพื่อนของหลานสาวบอกให้มารับ อย่างไรก็ตามคุณตาและแม่ของเด็กหญิงได้พยายามเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถพูดคุยหรือถามไถอะไรได้เลยเนื่องจากหลานสาวเอาแต่ร้องไห้และไม่ยอมเล่าและเกิดความเครียดอย่างมาก

เวลาต่อมาหลานสาวยอมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ระบุว่าครูชายคนดังกล่าวได้เรียกไปหาที่ห้อง แล้วบอกให้เธอช่วยนวดให้ ไม่นานนักครูชาได้เอาน้ำบางอย่างมาให้เธอดื่ม น้ำดังกล่าวนั้นคาดว่ามีการผสมยาสลบหรือไม่ก็ยานอนหลับ เนื่องจากหลานสาวได้นอนหลับไปแต่พอตื่นขึ้นมาก็ให้พบว่าร่างกายไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น และรู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณอวัยวะเพศ

เมื่อคุณตาได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มีความมั่นใจและเชื่อมั่นว่าเกิดขึ้นจริง สอนแม่เด็กและญาติๆได้พาเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ภายหลังจากที่ตรวจร่างกายเสร็จแล้วแพทย์ได้แจ้งว่าบริเวณอวัยวะเพศของหลานสาวรวมถึงปากมดลูกมีร่องรอยการฉีกขาด เมื่อผลตรวจออกมาแล้วจึงพาหลานสาวไปแจ้งความดำเนินคดีครูชาย ณ สภ.กุฉินารายณ์ ยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเขาจะดำเนินคดีถึงขั้นที่สุด อย่างไรก็ตามเวลาผ่านมาคดีไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลย ภายหลังจากเกิดเหตุครูชายและผู้อำนวยการโรงเรียนพยายามเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยกับทางครอบครัวเด็กหญิง ถ้าว่าแม่เด็กหญิงพร้อมกับญาติคนอื่นๆไม่ต้องการคุยและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปสอบถามกับผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังของอำเภอกุฉินารายณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบอกว่าได้รับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมกับได้ทำหนังสือรายงานชี้แจงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีการส่งหนังสือผ่านนายอำเภอกุฉินารายณ์ เพื่อให้มีการรายงานต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากเป็นผู้ทำการว่าจ้างครูชายผู้ก่อเหตุ พร้อมกับจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อมาตรวจสอบค้นหาข้อเท็จจริง และสำหรับขั้นตอนทางดำเนินคดีทางกฎหมายขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ