ย้อนดูคดี “ลัทธิประหลาด” ที่พร้อมจะสร้างหรือดลบันดาลอะไรก็ได้ให้เกิดขึ้นมา จนกลายเป็นเรื่องชวนอี๋และชวนสยองขวัญ

ย้อนดูคดีลัทธิประหลาด ในประวัติศาสตร์ชาติไทยต้องจากลึก ที่ถูกเชื่อแบบไม่มีลิมิต ความเชื่อบังตา ความศรัทธาบังเกิด ความปรารถนาก็ปรากฏ พร้อมจะสร้างหรือดลบันดาลอะไรก็ได้ให้เกิดขึ้นมา จนกลายเป็นเรื่องชวนอี๋และชวนสยองขวัญและทำให้ผู้คนนั้นสูญทั้งทรัพย์และชีวิต

ย้อนดูคดีลัทธิประหลาด เชื่อไม่มีลิมิต ความเชื่อบังตา ศรัทธา ความปรารถนาปรากฏ

ทุกคนรู้ไหมว่า “ความเชื่อ” นั้นเป็นหนึ่งในนสิ่งที่ไม่ควรเอามาล้อเล่นเป็นอย่างมาก เพราะว่าความเชื่อนั้นอาจจะทำให้ใครบางคนนั้นหลงงมงายจนไม่สามารถอดตัวขึ้นได้ แถมว่ามันยัง กลายเป็นแรงปรารถนา ที่พร้อมจะสร้างหรือดลบันดาลอะไรก็ได้ให้เกิดขึ้นมาโดยที่เรานั้นคาดไม่ถึง อย่างเช่น “ลัทธิประหลาด” ที่ออกข่าวมาอย่างโด่งดังเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ลัทธิประหลาดที่เราว่ามานั้นเชื่อว่าหลายๆคนนั้นคงเคยเห็นและรับรู้เรื่องราวมาบ้างแล้ว

ว่ามันเกิดขึ้นจากความศรัทธาของประชาชนทั้งหลาย แม้คำสอนจะดูผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ถ้าอยู่ในภวังค์ อยู่ในส่วนหนึ่งของพิธีกรรม คำว่าเป็นไปไม่ได้ไม่มีอยู่จริงก็สามารถเกิดขึ้นได้ภายในหัวของพวกเขาได้ทั้งสิ้น ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาทุกคนนั้น ย้อนเวลากลับไปดูลัทธิประหลาดที่กอ่กำเนิดขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมันก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนนั้นหวาดกลัวและชวนอี๋ไม่น้อย ว่าแต่จะมีลัทธิประหลาดแบบไหนบ้างเดี่ยวตามมาดูพร้อมกันได้เลยที่ด้านล่างนี้

1.ลัทธิล้างสมอง เอาน้ำร้อนราดตัวเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือเหยื่อจำนวน 3 คน ที่เมื่อก่อนเหยื่อจำนวนนี้เคยปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่พวกเขานั้นต้องลาออกและมาทำธุรกิจร่วมกับนายทุนคนที่คลั่งลัทธิมากมาย โดยเจ้าลัทธิจะบีบบังคับโยนหนี้ให้กับเหยื่อทั้ง 3 คน เป็นจำนวนมากถึง 140 ล้านบาท

โดยที่พวกเขานั้นไม่ได้มีหนี้อะไรเลย แถมยังโชคร้ายถูกเจ้าลัทธินั้นหลอกเอาเงินไปมากกว่า 5,000,000 บาท โดยเจ้าลัทธิจะใช้จิตวิทยาขั้นสูงสุดในทางจิตเวช จนทำให้พวกเขาทั้งหมดมีความรู้สึกว่าพวกเขานั้นศรัทธา รู้สึกชื่นชอบเป้าหมาย รู้สึกว่าพวกเขานั้นเป็นคนที่ผิดจริงๆและพวกเขานั้นก็สมควรแล้วที่ถูกกระทำและต้องรับโทษ

เหยื่อทั้งหมดที่ตกมาอยู่กับเจ้าลัทธิบ้าบอนี้มี 5 คน เป็นเด็ก 2 คน และผู้ใหญ่ 3 คน ซึ่งผู้ใหญ่ทั้ง 3 คนทั้งหมดถูกสั่งให้โกนหัว และย้อมผมสีเขียว ร่างกายตรงจุดใบหน้าถูกทำร้าย และก็มีเหยื่อ 2 คนถูกน้ำร้อนลวก ที่เกิดจากการเอาน้ำร้อนสาดมาทำร้ายร่างกายตัวเอง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมเจ้าลัทธิทั้ง 2 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

• นายฮารุ อายุ 39 ปี
• นายตรีอายุ 20 ปี

2.ลัทธิพระบิดา กินฉี่ อึ เสมหะ ขี้ไคล รักษาโรค

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่ามีชายชรารูปร่างท่วมมีผมสีขาวยาวหงอกบอกว่าตัวเองนั้นคือ “พระบิดา” ที่ทุกศาสนานั้นต้องให้ความเคารพนับถือ แถมว่าร่างกายของชายชรานั้นยังไม่ถูกน้ำมาหลายเดือน ก่อนที่จะสั่งให้ลูกศิษย์ดื่มปัสสาวะ กินเสมหะ กินอุจจาระ รวมถึงขี้ไคล โดยอ้างว่าเป็นยารักษาโรค และที่แย่ไปมากกว่านั้นก็คือเจ้าหน้าที่นั้นได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณลัทธิประหลาดนี้ แล้วพบเจอร่างของคนตายมากถึง 11 ร่าง โดยคนในลัทธินั้นอ้างว่า เป็นร่างผู้เสียชีวิตที่รอการไปขึ้นสวรรค์

ทั้งนี้พระบิดายังสอนให้ลูกศิษย์ที่มีจิตศรัทธาเขานั้นให้มีความเอื้อเฟื้อแพร่เพื่อนๆมนุษย์ และใช้ชีวิตไม่ต้องหรูหรา อีกทั้งยังมีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ด้วยสมุนไพรนาๆชนิด ซึ่งเรื่องที่คนจะกินขี้ไคลหรือปัสสาวะของพระบิดานั้น ก็อยู่ที่ความสมัครใจและเขาก็ไม่ได้บังคับ ส่วนศพที่เก็บไว้ในอาศรม ก็เพื่อรอการขึ้นสวรรค์ เพราะพระบิดาบอกเอาว่าห้ามทำพิธีเผาร่าง ซึ่งทุกคนก็เห็นตามอย่างที่พระบิดาพูดเอาไว้ แถมพวกเขายังบอกว่าศพก็ไม่เน่าเหม็น ลูกศิษย์บางคนก็รู้สึกว่าศพมีกลิ่นหอมลอยออกมา บางคนก็ก้มลงไปดมลงไปดื่มปัสสาวะจากหลุม พร้อมทั้งใช้ช้อนตักขึ้นมาทาหน้าทาตัวอีกด้วย

3.ลัทธิบูชาพระอินทร์ แม่ฆ่าลูก

“เสียสละชีวิตลูกให้แม่เถอะนะลูก และเสียงเหยื่อก็ดังตอบสนองกลับมาว่า แม่ทำหนูทำไม อย่าทำหนูเลย ก่อนจะเงียบไป จึงเชื่อว่าเด็กหญิงอาจถูกสังหารทันทีที่พูดจบ”นี้คือการพูดคุยครั้งสุดท้ายที่คาดว่าเป็นเสียงข้อร้องจากหนูน้อยที่ถูกแม่และญาติฆ่าเพื่อ “บูชาพระอินทร์” ตามความเชื่อ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2547 ในพื้นที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพบเจอกับร่างของเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ได้นอนอยู่พื้นที่มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก โดยบริเวณลำคอของเด็กนั้นมีบาดแผลจากของมีคมปาดซ้ำไปมาหลายครั้งจนหลอดลมขาด ก่อนจะพบมีดอีโต้เปื้อนเลือดวางอยู่ใกล้ๆศพของเด็กหญิงคนดังกล่าว โดยข้างๆเด็กหญิงคนดังกล่าวยังมีโต๊ะที่มีกะละมังใส่น้ำที่แช่เส้นผมจำนวนหนึ่ง เมื่อมองดูเหมือนกับว่ามันคือการทำ“พิธีทางไสยศาสตร์” ที่เป็นเหตุการณ์สุดน่าสะเทือนใจ ที่ทำให้หลายๆคนนั้นหวาดกลัว และผู้ต้องหาไม่ใช้ใครที่ไหนและไม่ได้อยู่ไกลตัวของเด็กหญิงเลย เพราะคนร้ายที่ทำการฆ่าเธอนั้นคือญาติและแม่แท้ๆของเธอจำนวน 4 คน โดยประกอบไปด้วย

• นางกาญจนา อายุ 50 ปี (แม่ของเด็ก)
• นางบัว อายุ 68 ปี (ยายของเด็ก)
• นางอนงค์ อายุ 45 ปี (น้าของเด็ก)
• น.ส.จรินทร์ อายุ 32 ปี (น้าของเด็ก)

ส่วนผลการตรวจสภาพจิตใจของคนร้ายที่กอ่เหตุนั้นพบว่าทั้ง 4 คนนั้นมีอาการป่วยเป็นโรคทางจิตและโรคทางประสาท เพราะแต่ละคนนั้นเชื่อว่าพวกเขานั้นคือ “คนทรงเจ้า” ของ “พระอินทร์-พระอาทิตย์และพระจันทร์” พวกเขานั้นเลยได้ลงมือฆ่าเพื่อเอาชีวิตของเด็กหญิงคนดังกล่าวที่เป็นลูกสาวของนางกาญจนา เพราะเชื่อว่าเด็กหญิงคนนี้มีสิ่งที่ไม่ดีตามติดมาตั้งแต่เกิด และต้องสังหารเธอเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณของเธอให้ไปอยู่กับ “พระอินทร์”