ตามง้อจนเมียยอมคืนดี แต่แม่ยายยังเคือง ลูกเขยยกขบวนขันหมากมาขอขมา

ข่าวเด่นออนไลน์ จากกรณี ผู้เฟซบุ๊กชื่อว่า สจ.เส็งชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอพร้อมทั้งระบุข้อความว่าภารกิจหลังแจกข้าวเสร็จ ชอบคำพูดที่ว่า #ลูกสาวยอมแต่แม่ยายไม่ยอม (ถ้ามีครั้งหน้าแกเคลียร์เองนะไอหมู) ตามง้อจนเมียยอมคืนดี แต่แม่ยายยังเคือง

ตามง้อจนเมียยอมคืนดี แต่แม่ยายยังเคือง ไม่ยอมให้ลูกเขยเข้าบ้าน

ซึ่งภายในคลิปนำเสนอเกี่ยวกับชายรายหนึ่งที่ได้มีการยกขบวนไปยังบ้านของแม่ยาย อีกทั้งยังได้มีการส่งเสียงโห่ร้องคล้ายกับการยกขบวนขันหมาก เมื่อเดินทางมาถึงยังบ้านของแม่ยาย ชายรายดังกล่าวก็โผเข้าไปกอด ในขณะที่แม่ยายพูดว่า (ให้อภัยตลอด รักลูกเขยอยู่แล้วไง ทำอะไรทำได้ ไปเที่ยวอะไรเที่ยวได้ แต่ถ้ามีเป็นตัวเป็นตน ลูกสาวยอมได้แต่แม่ยายไม่ยอม )

โดย นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชื่อดังภายในพื้นที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ตนได้มีการไปแจกข้าวสารให้กับชาวบ้านภายในพื้นที่ ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี

และได้พบกับนายธนเสฏฐ์ อายุ 48 ปี เข้ามาขอร้องตนให้ช่วยไปคุยกับแม่ยายให้หน่อย เนื่องจากแม่ยายไม่ยอมให้ตนเข้าบ้านมานานเกือบเดือนแล้ว ซึ่งภรรยาของนายธนเสฏฐ์ ก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรแล้ว แต่ทว่าแม่ยายไม่ยอม อีกทั้งยังไม่ให้เข้าบ้าน จึงได้มาปรึกษากับตน

หลังจากที่แจกข้าวเสร็จแล้วก็ได้มีการยกขบวนเข้าไปเพื่อที่จะไปขอขมา ถ้าโดนก็ต้องโดนด้วยกันหมด ซึ่งพอได้ยกขบวนเข้าไปแล้ว ทำให้แม่ยายเห็นถึงความตั้งใจ จึงยอมให้อภัยพร้อมกับนายธนเสฏฐ์สัญญาว่าจะไม่ทำตัวเหลวไหลอีก ซึ่งตนก็ที่ใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่ทำให้ครอบครัวนี้กับมาเป็นปกติและมีความสุข

นักข่าวได้มีการเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว หมู่ 8 ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อที่จะไปพบกับนางรัชนี หรือ แม่น้อย และ นางเขมณัฏฐ์ อายุ 33 ปี ลูกสาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายนายธนเสฏฐ์ เพื่อที่จะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร

นางรัชนี เล่าว่า วันที่เกิดเหตุตนได้ขายข้าวตามปกติ พบเห็นนายชัยทิพย์ตั้งขบวนขันหมากมา ซึ่งเราก็ได้มีการติดตามผลงานเขามาเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากเขาเป็นคนดีช่วยเหลือสังคม ตนจึงได้ออกมาดู ก็พบนายชัยทิพย์และลูกเขย ซึ่งตนไม่ให้ลูกเขยเข้าบ้าน เนื่องจากลูกเขยได้ไปติดผู้หญิงคนอื่น หากว่าวันนี้ลูกเขยเข้ามาคนเดียวตนก็คงต้องขอด่าสักหน่อย แต่ทว่านายชัยทิพย์ มาด้วยตนก็เลยลืม

หลังจากนั้นลูกเขยก็ได้เข้ามากราบตน พรอมกับนายชัยทิพย์ก็ได้พูดว่าขอโอกาสให้เขาหน่อย ตนจึงรู้ว่าเป็นเรื่องที่ตนไม่ยอมให้ลูกเขยเข้าบ้าน ทำให้ตนยอมใจอ่อนให้โอกาส ลูกเขยก็เข้าใจเลือกคนมาถูกเสียด้วย เพราะหากไม่ใช่นายชัยทิพย์ ก็คงไม่ได้ เนื่องจากตนคิดว่าตนมีลูกสาวเพียงคนเดียว ลูกเขยคนเดียว ก็ไม่อยากจะให้ไปเป็นของใคร

ทั้งนี้ หากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกก็ต้องขอบอกไว้เลยว่าตนคงจะไม่ยอมแล้ว อีกทั้งนายชัยทิพย์ ก็คงจะไม่กล้าเข้ามาช่วยอีกแล้ว