ผลสแกนสมองชี้การเล่นกับ “หมา” คือกิจกรรมเกี่ยวกับ “สังคม” เหมือนกันกับการทำกิจกรรมร่วมกันคนหมู่มาก!!

สุขภาพ ผลสแกนสมองบอกว่าการ เล่นกับหมาคือกิจกรรม เกี่ยวกับ “สังคม” ที่ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมากนักจากการทำกิจกรรมต่างๆกับมวน “มนุษย์” ด้วยกัน เพราะนักวิจัยชี้ว่าหมาคือสัตว์น่ารักที่เป็นเพื่อนดีที่สุดของมนุษย์ที่มีสายสัมพันธ์กันมายานนานมากกว่าสองหมื่นปี

เล่นกับหมาคือกิจกรรม ทาง “สังคม” ไม่แตกต่างจากการสังสรรค์กับ “มนุษย์”

สุนัขคือหนึ่งในสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของมนุษย์โลกและมันก็เป็นสัตว์สายพันธุ์แรกที่พวกเรานั้นเลือกเลี้ยงมาเป็นเพื่อน จนสามารถบอกได้ว่ามันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมมนุษย์และมันก็ยังมีสายสัมพันธ์กันกับพวกเรามายาวนานมากกว่าสองหมื่นปี จนพวกมันได้ชื่อว่าเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” ด้วยความที่สุนัขนั้นครอบครองตำแหน่งเพื่อนที่ดีที่สุดจากพวกเราได้

พวกมันเลยกลายเป็นนสัตว์ที่มีหน้าที่ประจำในการช่วย “บำบัด” ให้มนุษย์ ซึ่งนักบำบัด (ที่เป็นคน) จำนวนมากก็เห็นว่ามนุษย์นั้นมีสุขภาพกายและใจดีขึ้นจริงๆ เมื่ออยู่กับนักบำบัดสี่ขาที่เป็นเพื่อนสนิทของเรา แต่ถ้าว่าปัญหานั้นมันก็ยังไม่หมดไม่สิ้นสักที เพราะว่าพวกเรานั้นยังไม่มีหลักฐานใดๆเลยทางชีววิทยาที่สามารถเอามายืนยันได้ว่าสุนัขนั้นสามารถช่วยบำบัดจิตใจของมนุษย์ได้จริง เพราะในตอนนี้นั้นมีเพียงแค่คำอธิบายเชิงพฤติกรรมและจิตวิทยาเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานเพิ่มเติม

ปัญหาที่ว่ามานั้นก็เลยไปทำให้นักวิจัยกลุ่มหนึ่งนั้นตั้งคำถามก่อนจะไปทดลองด้วยการ “ Scan สมอง”  ของมนุษย์ที่ไปทำกิจกรรมเล่นกับสุนัขด้วยการไปนั่งพิงสุนัขและลูบสุนัขที่อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองไม่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อนด้วย คือเรียกได้ว่ามันคือสุนัขแบบ “แปลกหน้า” โดยสมบูรณ์ (แต่ไม่ดุ) แล้วนำมาเทียบกับสมองของมนุษย์เวลาไปเล่นพวกของเล่นต่างๆ เช่นลูบตุ๊กตาสุนัข และผลการทดลองของงานวิจัยนี้ก็ได้บอกว่า การสานสัมพันธ์ของมนุษย์กับสุนัข

เพราะมันได้ผลออกมาอย่างดีและพิเศษมากจริงๆด้วย เพราะผลการทดลองที่ออกมานั้นมันไม่เหมือนกับการที่พวกเรานั้นเล่นอยู่กับของเล่น เพราะการเล่นของเล่นสมองของพวกเราส่วนที่ใช้ประมวลผลทางสังคมและอารมณ์จะไม่ทำหน้าที่ ส่วนการที่พวกเรานั้นเล่นกับสุนัข สมองส่วนนี้มันกลับทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แถมมันยังทำงานต่อหลังจากเล่นกับสุนัขเสร็จอีกด้วย

แม้ว่าในยุคนี้ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยออกมาช่วยให้วงการแพทย์และงานวิจัยสามารถทำการทดลองและทำการรักษาผู้ป่วยได้สะดวกสะสบาย แต่ถ้าว่าก็ยังไม่มีอุปกรณ์ไหนเลยที่สามารถทำความเข้าใจกับสมองของมนุษย์ได้เลยสักชิ้น และการสแกนสมองก็ไม่ได้แปลว่าสามารถประมวลผลได้ออกมาอย่างละเอียด

แต่ผลวิจัยชิ้นนี้ก็สามารถอธิบายได้ว่าอย่างน้อยที่สุด การสานสัมพันธ์กับสุนัขโดยไม่มีพิษไม่มีภัย แม้จะเป็นสุนัขที่ไม่รู้จักกันเป็นสุนัขแปลกหน้านั้นทำให้สมองมนุษย์สามารถทำงานเหมือนกำลังทำกิจกรรมทางสังคมกับเพื่อนมนุษย์ร่วมกันอยู่ มันแตกต่างจากการปฏิสัมพันธ์กับวัตถุสิ่งของ

และนี่คือเหตุผล support เกื้อกูลและสามารถอธิบายที่ทำให้เชื่อว่าการใช้สุนัขในการบำบัดความเจ็บป่วยทางจิตและทางใจไปจนถึงความผิดเพี้ยนทางสังคมของมนุษย์น่าจะได้ประสิทธิผล เรียกได้ว่าไม่เสียแรงที่เจ้าสุนัขนั้นจะมีวิวัฒนาการร่วมกับมนุษย์มากว่า 20,000 ปี