Saturday, 23 November 2024

เช็คให้ชัวร์ “เจ็บคอ” แบบไหน กินยาปฏิชีวนะได้

07 Nov 2022
295

เจ็บคอ แบบไหน ถึงควรกิน “ยาปฏิชีวนะ” เพื่อลดความเสี่ยงการปัญหาเชื้อ “ดื้อยา” เพราะงานวิจัยชี้ว่ามีคนมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ (ยาต้านแบคทีเรีย) ในการรักษา เพราะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาบอกว่านอกจากจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพและการรักษาแล้วยังอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาด้วย

สล็อต xo Slotxo

เจ็บคอ แบบไหน ถึงควรกิน “ยาปฏิชีวนะ” เพื่อลดความเสี่ยงการ “ดื้อยา”

เจ็บคอ แบบไหน-ถึงควรกิน “ยาปฏิชีวนะ”

การกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการเจ็บคอโดยที่ไม่จำเป็น เป็นหนึ่งในพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นเกิดปัญหาเชื้อดื้อยา เพราะเมื่อไม่นานนมานี้ทาง Faculty of Medicine Siriraj Hospital บอกเอาไว้ว่าผู้ป่วยส่วนมากประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ (ยาต้านแบคทีเรีย) ในการรักษา เพราะนอกจากจะไม่ส่งผลต่อการรักษาแล้วยังอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาด้วย

เจ็บคอแบบไหนกินยาปฏิชีวนะได้!!?

เจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส

  • ไม่จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะ เช่น
  • คอแดง
  • ทอนซิลบวมแดง

เพื่อลดความเสี่ยงการ “ดื้อยา”

พร้อมอาการร่วมที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่

  • มีไข้ต่ำๆ
  • ไอ
  • น้ำมูกไหล
  • เสียงแหบ
  • อ่อนเพลีย

อาการเจ็บคอที่มาจากเชื้อไวรัส สามารถพบเจอได้เป็นประจำจากการเจ็บคอเพราะเป็นไข้หวัดธรรมดา คำแนะนำในการพักผ่อยแนะนำว่าให้นอนพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำให้เยอะๆ สามารถกลั้วคอด้วยน้ำเกลือได้เพื่อบรรเทาอาการระคายคอ ถ้าไอหรือมีน้ำมูกมาก อาจกินยาแก้ไอหรือยาแก้แพ้ โดยทั่วไปมักหายเองได้ภายใน 7-14 วัน

เจ็บคอจากการติดเชื้อจากแบคทีเรีย

  • อาจต้องได้รับยาปฏิชีวนะ เช่น
  • คอแดง
  • มีจุดหนองที่ต่อมทอนซิล
  • ทอนซิลบวมแดง

เจ็บคอ แบบไหน ถึงควรกินยา

พร้อมอาการร่วมที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่

  • มีไข้มากกว่า 38 องศาเซลเซียส
  • ไม่มีอาการไอ
  • ต่อมน้ำเหลืองใต้ขากรรไกร
  • หน้าบวมโตขึ้นหรือกดเจ็บ

อาการเจ็บคอจากเชื้อ bacteria ไม่ค่อยพบเห็นมากสักเท่าไหร่เหมือนอาการเจ็บคอจากเชื้อไวรัส หากมีอาการแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร เพื่อประเมินความจำเป็นของการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้ ยาต้านจุลชีพ ได้แก่

  • ยาต้านแบคทีเรียหรือยาปฏิชีวนะ
  • ยาต้านไวรัส
  • ยาต้านเชื้อรา
  • ยาต้านปรสิต

เจ็บคอ แบบไหน-ไม่ควรกินยา

พวกเราทุกคนสามารถลดเชื้อดื้อยาได้ โดยหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะเสี่ยงทำให้เกิดเชื้อดื้อยา หรือซื้อAntimicrobials กินเอง เช่น

  • ยาต้านแบคทีเรียหรือยาปฏิชีวนะ
  • ซื้อยาต้านจุลชีพตามคนอื่น
  • รับประทานยาต้านจุลชีพไม่ครบขนาด
  • หรือระยะเวลาการรักษาไม่ครบขนาด
  • ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของการรับประทานยาต้านจุลชีพที่ถูกต้อง
  • อมยาอมที่ผสมยาฆ่าเชื้อ
  • เอายาต้านจุลชีพชนิดรับประทานมาโรยแผล
  • ใช้ยาต้านจุลชีพในปศุสัตว์

ดังนั้นหากสงสัยภาวะติดเชื้อ ควรปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลหรือเภสัชกรผู้จ่ายยา เพื่อดูอาการความจำเป็นของการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพ

คนมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ