ครูสาวหวังหนีความผิด กินน้ำยาล้างห้องน้ำ “ฆ่าตัวตาย” หลังเอาหมอนทับหน้าลูกออทิสติดดับ

ข่าวทั่วไทย ผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องสุดช็อกแม่ฆ่าลูกตัวเองวัย 5 ขวบ โดยครูสาวหวังหนีความผิด กินน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตายตามลูกที่เป็นออทิสติก ภายหลังจากที่เธอเอาหมอนทับหน้าลูกจนสิ้นใจคาเตียง แต่สุดท้ายเธอถูกช่วยเหลือเอาไว้ได้ ไม่ได้ตายสมใจนึกแต่อาการก็สาหัสกำลังรักษาตัว

ครูสาวใช้หมอนทับหน้าลูกออทิสติก 5 ขวบดับ ก่อนดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำหวังตายตาม แต่ไม่เหมือนคิดถูกช่วยเอาไว้ทัน อาการยังสาหัส!

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภหาดใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับกรณีที่ครูสาวที่สอนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในหาดใหญ่ ได้กินน้ำยาล้างห้องน้ำเพื่อหวังปลิดชีวิตตัวเองตายตามลูกที่ป่วยเป็นออคิดติกตั้งแต่เกิดวัย 5 ขวบ โดยเธอเป็นผู้ก่อเหตุนำหมอนทับหน้าลูกจนหายใจไม่ออกก่อนสิ้นใจคาเตียง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมหน่วยกู้ภัยและทีมแพทย์จากโรงพยาบาลหาดใหญ่

เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นห้องพักแห่งหนึ่งและเห็นว่ามีคนได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงวัย 39 ปี ประกอบอาชีพข้าราชการครูทำการสอนที่โรงเรียนชื่อดังของพื้นที่อำเภอเมืองหาดใหญ่ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่นิติบุคคลของตึกคอนโดมิเนียมที่เธออาศัยอยู่กำลังพยายามช่วยชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยเมื่อไปถึงก็รีบเข้าไปช่วยนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่ ทางนี้มีข้อมูลรายงานว่าครูสาวได้ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำไปจำนวน 1 แก้ว ทำให้เธอไม่สามารถพูดมีเสียงแถมยังมีแผลที่บริเวณปาก

ยังไงก็ตามขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยชีวิตครูสาวก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น มีร่างไร้วิญญาณของเด็กชายวัย 5 ขวบนอนเสียชีวิตสิ้นใจคาเตียงนอน สาเหตุการตายเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ก่อนที่จะได้รู้ว่าผู้ลงมือคือครูสาวที่กินยาฆ่าตัวตาย

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุ ได้คาดการณ์สถานการณ์ว่าครูสาวได้ใช้หมอนมากดทับใบหน้าผู้เป็นลูกชายซึ่งป่วยเป็นออทิสติกตั้งแต่เกิด จนกระทั่งลูกชายขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตค่ามือของเธอ จากนั้นด้วยความเสียใจหรืออาจจะน้อยใจในชีวิตจึงได้กินน้ำยาล้างห้องน้ำเพื่อหวังที่จะฆ่าตัวตายตามลูกชายที่เพิ่วตายด้วยน้ำมือเธอเอง อย่างไรก็ตามน้ำยาห้องน้ำเมื่อกินเข้าไปแล้วมันจะทำให้เจ็บปวดและทรมานอย่างมากท้ายที่สุดครูสาวก็ทนไม่ไหวและพยายามขอความช่วยเหลือจากช่างประจำคอนโดที่เธออาศัยอยู่

ผู้ที่มีความใกล้ชิดกับครูสาวได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลในเบื้องต้นว่า ครูสาวกำลังมีปัญหาเรื่องเงิน ซึ่งเธอได้ไปขอกู้เงินจากโรงเรียนที่ทำงาน พร้อมกับมีปัญหาสะสมกับครอบครัวมาเป็นระยะเวลายาวนาน นอกจากนี้ครูสาวและลูกชายก็อาศัยอยู่ตามลำพัง สำหรับข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับครอบครัวเจ้าหน้าที่จะเรียกญาติของครูสาวมาสอบถามข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง