แม่ไม่ปลื้ม !! หนุ่มพิการทางสมอง แอบหนีออกจากบ้าน ถูกจับได้โอนเงินให้สาวนาน 4 ปี

นักข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ได้มีการรับแจ้งจาก นางอรอนงค์ อายุ 50 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านหมู่ 2 ตำบลดงอีจาน อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า หนุ่มพิการทางสมอง นายอนาวิน อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย ที่มีสติไม่ค่อยสมประกอบ ได้หายตัวออกจากบ้าน

หนุ่มพิการทางสมอง แอบหนีออกจากบ้าน

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้มีการนำกำลังออกค้นหาตามจุดที่คาดการณ์ว่า นายอนาวิน จะเดินทางไป ได้มีการเดินหน้ากระดานออกค้นหาตามบริเวณทุ่งนาหลายจุด แต่ก็ไม่พบตัว เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ทำการไลฟ์สด อีกทั้งยังได้ระบุว่า ใครที่พบเห็นบุคคลตามภาพให้ติดต่อกลับมายังหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์

ต่อมาได้มีคนติดต่อเข้ามาหาทางหน่วยกู้ภัยว่าพบชายที่ใบหน้าคล้ายกันกับที่ไลฟ์สด พบอยู่บริเวณทางไปสวนสัตว์นครราชสีมา ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้าน ประมาณ 70 กิโลเมตร ซึ่งได้ให้นางอรอนงค์มาดูภาพจึงได้พบว่าเป็นลูกชายของตนจริง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้มีการขอร้องให้ผู้ที่พบเห็นเฝ้าดูเอาไว้ก่อน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพร้อมด้วยญาติจึงได้เดินทางออกไปรับตัว

เมื่อไปถึงจุดดังกล่าว นายอนาวิน ก็ไม่ยอมที่จะกลับบ้าน บอกว่าจะเดินทางไปต่อ สุดท้ายเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องบอกว่าจะรับเข้าทำงานที่หน่วยกู้ภัย นายอนาวินจึงได้ยอมขึ้นรถ ระหว่างทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้มีการสอบถามนายอนาวิน ถึงสาเหตุที่หนีออกจากบ้าน ได้คำตอบว่านายอนาวินได้เดินเท้าออกจากบ้านมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เพื่อที่จะไปพูดคุยเจรจากับสาว ที่อาศัยอยู่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงสาเหตุที่บอกเลิก อีกทั้งแม่ยังไม่ให้เงินโอนไปให้หญิงสาว จึงน้อยใจหนีออกจากบ้านมา

นางอรอนงค์ เล่าว่า ลูกชายของตนเคยประสบอุบัติเหติ ส่งผลทำให้มีความผิดปกติทางด้านสมอง เขียนหนังสือได้ แต่จะมีอาการเบลอๆ อยู่ตลอดเวลา พูดไม่ค่อยชัด ครอบครัวก็ดูแลเป็นอย่างดี ได้มีการเอาเงินไว้ให้ใช้ครั้งละ 500 บาท

4 ปีที่ผ่านมา ลูกชายได้มีการเล่นไลน์ทางโทรศัพท์ จากนั้นก็มาขอตังค์แม่ทุกวัน แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจ เนื่องจากต้องการให้ลูกชายสบายใจอยากได้อะไรก็ให้ซื้อได้ โดยให้เงินครั้งละ 300 – 500 บาทเป็นประจำ

ระยะหลังๆได้มีการเล่นไลน์ที่ผิดปกติไป ตนจึงได้เข้าไปดูโทรศัพท์ของลูกชายพบว่า ลูกชายกำลังคุยอยู่กับสาวคนหนึ่ง อาศัยอยู่ที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่เคยเห็นหน้ากัน และได้ทราบว่าฝ่ายหญิงมีการขอเงินอยู่เป็นประจำ

กระทั่งตนได้ทราบว่าลูกชายจะให้เพื่อนบ้านโอนเงินให้ฝ่ายหญิง จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์ฝ่ายหญิงเป็นคนขอเงิน ตนจึงได้ทักไปหาว่าเป็นแม่ บอกว่าไม่อยากให้ขอเงินลูกชายแบบนี้อีก ตนเคยเตือนลูกชายแล้วแต่ก็ไม่ฟังเลย สุดท้ายฝ่ายหญิงจึงได้บอกเลิก หากไม่ยอมโอนเงินให้ กระทั่งลูกชายได้หายตัวไป โชคดีมากที่ลูกชายของตนไม่ได้รับอันตรายในขณะเดินทาง