นักศึกษาปริญญาเอกพบว่า แมวอาจเป็นหลักฐานช่วย เจ้าหน้าที่ สืบ “คดี” ฆาตกรรมจาก “ที่เกิดเหตุ” ให้สำเร็จได้ หากแมวสัตว์น่ารักพวกนั้นอยู่ในที่เกิดเหตุกับมนุษย์ด้วย งานวิจัยชิ้นนี้ถูกเผยแพร่ผ่านใน Forensic Science International ฉบับตุลาคม 2022 ที่ผ่านมาเมื่อล่าสุดนี้
แมวอาจเป็นหลักฐานช่วย สืบ “คดี” ฆาตกรรมจาก “ที่เกิดเหตุ” ได้ หากพวกมันนั้นอยู่ในที่เกิดเหตุกับมนุษย์ด้วย
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนทั่วโลกเพราะน่องมีความน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก แถมบางครั้งแมวมันก็อาจจะมีประโยชน์ในการช่วยจับสัตว์บางชนิดที่เราไม่ชอบได้ด้วย เช่น หนู แมลง แต่รู้ไหมว่าแมวมันอาจมีประโยชน์มากกว่านั้นเพราะเมื่อไม่นานที่ผ่านมามีนักศึกษาปริญญาเอก ได้เผยแพร่งานวิจัยชิ้นดังกล่าวที่เราเกริ่นมาเมื่อตอนต้นลงในสื่อสิ่งพิมพ์ Forensic Science International ฉบับเดือนตุลาคม 2022 โดยมีเนื้อหาเขียนเอาไว้ว่าแมวอาจถูกเอามาใช้เป็นหลักฐานจากที่เกิดเหตุได้
ความคิดสร้างสรรค์งานวิจัยดังกล่าวนี้มันเริ่มต้นมาจากเวลาเราเก็บตัวอย่าง DNA จากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะเก็บจากวัตถุสิ่งของและพยานบุคคล แต่เลือกที่จะมองข้ามสัตว์เลี้ยงไป ซึ่งโจทย์วิจัยก็คือว่า สัตว์เลี้ยงอาจจะมีตัวอย่าง DNA ของคนที่อาศัยอยู่กับมันติดอยู่กับตัวหรือไม่ แน่นอนว่าอาจจะคาดคะเนผลวิจัยอธิบายเอาไว้ว่ามี 3 ใน 4 ครั้งของการเก็บตัวอย่างในงานวิจัย พบว่ามีตัวอย่าง DNA มากเพียงพอจะนำไปใช้วิเคราะห์ระบุหาเอกลักษณ์ทางพันธุกรรมได้
แต่การค้นพบนี้มันสำคัญยังไง?
จริงๆ แล้วมันสำคัญมากเพราะความคิดสร้างสรรค์นี้มันบอกว่า DNA จะเหลืออยู่ในจุดที่เกิดเหตุได้อย่างไรในตำราบอกว่า ถ้าคนเคยอ่านข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้จะทราบวิธีกำจัด DNA ออกจากที่เกิดเหตุหมด ที่บอกก็คือไม่ใช่แค่ตำรวจและนักนิติวิทยาศาสตร์จะอ่านตำรานี้อาชญากรก็อ่าน ดังนั้นอาชญากรหรือคนร้ายที่ฉลาดๆเลยไม่เหลือ DNA ไว้ในจุดเกิดเหตุง่ายๆ เพราะพวกมันนั้นทราบดีอยู่แล้วว่าเจ้าหน้าที่จะเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุที่พวกมันก่อเอาไว้อย่างไรเนื่องจากองค์ความรู้หรือตำรับตำราก็ไม่ดีหรือด้อยกว่ากันเท่าไหร่
ทีนี้มาว่ากันต่อเรื่องการเก็บ DNA จากสัตว์เลี้ยงเป็นวิธีแบบที่ไม่มีในตำรา มันก็คือพวกโจรหรือผู้ก่อการร้ายก็จะไม่ระวังสัตว์เลี้ยง เพราะพวกมันนั้นทราบดีอยู่แล้วว่าเจ้าหน้าที่จะไม่เก็บหลักฐานจำพวกนี้ หรือในทางกลับกัน การกำจัด DNA จากน้องแมวนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆหมูๆ
เพราะถ้าไปทำอะไรแมวมันข่วนหรือกัด แบบนั้นก็จะยิ่งเหลือ DNA ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุจำนวนมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงถ้าเชื่อในงานวิจัยชิ้นที่เรานำมาให้ดูนี้ มันก็แปลว่าถ้าสมมติว่าเจ้าเหมียวนั้นอยู่ที่พื้นที่ที่มีเหตุฆ่ากันตาย และมันดันไปอยู่ใกล้คนร้ายมันก็จะมี DNA ของคนร้ายติดอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งจะรู้ว่า DNA ไหนคือของคนร้ายก็คือเก็บ DNA มนุษย์ที่ติดตัวแมวมาให้หมด แล้วอันไหนไม่ใช่ดีเอ็นเอของผู้ตาย ก็คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นของคนร้าย เป็นต้น
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในข้อเสนอที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่ ซึ่งเบื้องต้นก็คงจะต้องทำวิจัยต่อยอดกันไปอีกนานแสนนาน และวิจัยแรกๆ ที่น่าจะต้องทำก็อย่างเช่น นอกจากแมวแล้ว หมาล่ะ จะมี DNA ของคนที่อยู่กับมันหรือสัมผัสมันติดค้างอยู่กับตัวหรือไม่?
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์