Saturday, 23 November 2024

งานวิจัยชี้!! มหาเศรษฐีทำให้ “โลกร้อน” ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะธุรกิจและวิถีชีวิตอันร่ำรวยของพวกเขา

ข่าวต่างประเทศ นักวิจัยชี้!? มหาเศรษฐีทำให้โลกร้อน มากกว่าคนธรรมดาถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทั่วโลก เพราะธุรกิจและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการปล่อยก๊าซ carbon dioxide ของพวกเขาที่มากกว่าการใช้ชีวิตของคนธรรมดาทั่วไปถึง 2 ล้านเท่า จากรายงานสถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกประจำปี 2022

สล็อต xo Slotxo

มหาเศรษฐีทำให้โลกร้อน มากกว่าคนธรรมดาถึง 90% ทั่วโลก เพราะธุรกิจและไลฟ์สไตล์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าการใช้ชีวิตของคนทั่วไปกว่า 2 ล้านเท่า

มหาเศรษฐีทำให้โลกร้อน-มากกว่าคนธรรมดา

จากสถิติสถานการณ์การปล่อย Greenhouse Gases ประจำปี 2022 ของ international organisation/organization นั้นบอกว่าว่าเศรษฐีผู้มั่งมีเงินทองและข้าวของหรูหราประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด โดยพวกเขาเป็นหนึ่งในต้นตอที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน พวกเขานั้นทำให้โลกร้อนมากกว่าคนยากจนและคนฐานะปานกลาง คนที่เหลือทั่วโลกประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะธุรกิจและวิถีชีวิตของคนคนรวยนั้นได้การปล่อยก๊าซ carbon dioxide ออกมามากกว่าการใช้ชีวิตของคนปกติทั่วไปมากกว่า 2 ล้านเท่า

ข้อมูลในจาก Oxfam เขียนเอาไว้ว่า คนรวยหรือนักลงทุนที่มีชีวิตหรูหรามีเงินมากมายในกลุ่ม “super rich” ทั่วโลกและคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์คนที่อยู่บนโลกใบนี้ เชื่อมโยงกันกับการใช้ชีวิตประจำวันที่ไฮโซและสิ้นเปลืองพลังงาน อย่างเช่นเรื่องง่านๆคือเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว การครอบครองและใช้รถหรูแบบ super car รวมไปถึงการเดินทางไปพักผ่อนหาความสุขทางใจด้วยเรือยอชต์หรูหรา ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วแต่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงต่อเที่ยวและต่อผู้โดยสารเฉลี่ยแล้วมันมากกว่ายานพาหนะที่เป็นขนส่งมวลชนที่คนธรรมดาทั่วไปนั้นใช้งาน

คนรวยทำให้โลกร้อน

ส่วนคนร่ำรวยเงินทองที่มีเงินทำธุรกิจสร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั่วโลกตอนนี้มีประมาณ 183 บริษัททั่วโลก ก็เป็นอีกหนึ่งต้นเหตุใหญ่หลักๆที่ปล่อย carbon dioxide ออกมาเป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีการยกตัวอย่างชัดเจนถึงธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิงและปูนซีเมนต์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายด้าน  ถ้าเปรียบเทียบกับคนธรรมดาที่มีเงินเดือนปานกลางไปจนถึงยากจนในแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นคนส่วนมากของโลก เพราะรวมกันแล้วคิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนที่อาศัยอยู่บนโลก แต่คนกลุ่มนี้นั้นกลับใช้ชีวิตวันหนึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เฉลี่ยแค่ 2.6 เมตริกตันต่อคนต่อปีเท่านั้น ในขณะที่คนรวยคนมีเงินที่เป็นส่วนน้อยของประชากรโลกปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณเฉลี่ย 3 ล้านเมตริกตันต่อคนต่อปี

และถ้าหากเอาผลมีเทียบกันปริมาณการปล่อยก๊าซ carbon dioxide ของคนร่ำรวยเงินทองกลุ่ม super rich รวมกัน รายงานนี้ประเมินเอาไว้ว่าคนมีเงินแค่เพียง 1 คนใช้ชีวิตและเป็นเจ้าของธุรกิจที่น่าจะปล่อย carbon dioxide เทียบเท่ากับที่คน ‘ทั้งประเทศ’ ใน Egypt หรือไม่ก็ France หรือ Argentinaปล่อยออกมารวมกันเสียอีก Danny Sriskandarajah ประธานผู้บริหาร Oxfam ใน United Kingdom อธิบายเพิ่มเติมว่าคนร่ำรวยระดับโลกกลุ่มนี้ถูกปล่อยให้ลอยหน้าลอยตามานานโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อการปล่อย carbon dioxide ในปริมาณที่มากกว่าคนอื่นๆ นับล้านเท่า

งานวิจัยชี้!! มหาเศรษฐีทำให้ “โลกร้อน” ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์

ด้วยเหตุผลนี้ Oxfam จึงยื่นข้อเสนอในที่ประชุมว่าด้วยการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนเดิม (COP27) ที่ถูกจัดขึ้นที่อียิปต์ตั้งแต่วันที่ 6-18 พฤศจิกายน 2022 ให้เรียกร้องความรับผิดชอบจากคนร่ำรวย super rich ทั่วโลกโดยแนวทางหนึ่งคือการที่รัฐบาลแต่ละประเทศต้องมีมาตรการที่เข้มงวด ในการกดดันให้กลุ่มคนที่มีเงินพวกนั้นลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งในชีวิตประจำวันและการดำเนินธุรกิจของพวกเขาและคนที่ไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็สมควรถูกเก็บภาษีเพิ่มหนักๆ เพื่อที่รัฐจะได้มีรายได้ไปศึกษาวิจัยและพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนเดิม

รวมถึงเอาเงินไปตั้งกองทุนหรือจัดสรรงบประมาณสำหรับช่วยเหลือประชาชนและประเทศยากจน ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะที่คนรวยและประเทศร่ำรวยสร้างขึ้น โดยเฉพาะประเทศหมู่เกาะที่มีเงินน้อย เพราะประเทศกลุ่มนี้กำลังเดือดร้อนจากปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นเรื่อยๆ