รู้ไหมว่า!? วัยรุ่นเสี่ยงหูหนวก และปัญหาสุขภาพมากมายมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก จากการใช้อุปกรณ์การฟังส่วนตัวเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่เราเรียกกันว่า “หูฟัง” ท่ามกลางสถานที่ที่มีเสียงดังกระหึ่ม บอกเลยงานนี้ใครที่ไม่อยากหูหนวกก่อนวัยอันควรนั้นต้องไม่พลาดแวะเข้ามารับกันก่อน
วัยรุ่นเสี่ยงหูหนวก มากกว่า1 พันล้านคนทั่วโลก เพราะใส่หูฟัง-ไปคอนเสิร์ต งานนี้ BMJ Global Health ต้องออกมาเตือนว่าเบาได้เบา!
ในยุคสมัยนี้เชื่อว่าหลายๆคนนั้นคงเคยเห็นวัยรุ่นหนุ่มสาวติดสมาร์ทโฟนชนิดที่ว่าถือไม่ออกห่างจากตาห่างจากตัว นอกว่าสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือแล้วก็ยังมีอีกหนึ่งอุกรณ์ที่วัยรุ่นชื่นชอบมากที่สุด “หูฟัง” ต้องบอกว่าเจ้ายนี่คือหนึ่งในสิ่งที่วัยรุ่นขาดไม่ได้หากลืมต้องหลับไปเอา โดยที่ไม่สนใจเลยว่ามันจะทำให้สูญเสียการได้ยินได้ในอนาคต เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีผลการศึกษาจากกลุ่มนักวิจัยที่ร่วมจัดทำโดย World Health Organization ถูกเผยแพร่ลงในวารสารวิชาการ BMJ Global Health เตือนว่าในตอนนี้ทางการจากทั่วทุกมุมโลกนั้นมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการ เรื่องที่ว่านั้นก็คือต้องสร้างพฤติกรรมการฟังอย่างปลอดภัยให้กับคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น
จากข้อมูลของ World Health Organization พบว่าในตอนนี้มีประชากรมากกกว่า 430 ล้านคน หรือกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกที่สูญเสียการได้ยินไปแล้ว โดยประเมินว่าคนกลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 700 ล้านคนภายในปี 2050 โดยวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมากเป็นพิเศษ เพราะพวกเขานั้นคือกลุ่มที่ใช้อุปกรณ์การฟังส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือ และการฟังเพลงท่ามกลางสถานที่ที่มีเสียงดังกระหึ่มมากที่สุดในทุกหลุ่มทุกช่วงวัย เพราะก่อนหน้านี้นักวิจัยมีการรวบรวมผลการศึกษา 33 ชิ้น ตั้งแต่ปี 2000-2021 ซึ่งสำรวจจากผู้คนที่มีอายุ 12-34 ปี จำนวน 19,000 คน
ผลการศึกษานั้นอธิบายให้เข้าใจว่าอาสาสมัครกลุ่มดังกล่าวนั้นมีพฤติกรรมการฟังทุกอย่างในระดับเสียงที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพหู โดยการฟังเพลงจากโทรศัพท์มือถือผ่านหูฟัง อาสาสมัครนิยมฟังเสียงในระดับเสียงที่สูงมากกว่า 105 เดซิเบล และสถานที่จัดงานหรือสถานบันเทิงอย่างคอนเสิร์ต มักมีระดับเสียงตั้งแต่ 104-112 เดซิเบล ดังนั้นเมื่อทำสังเกตและสรุปผลการทดลองแล้วอาจสรุปได้ว่ากลุ่มของวัยรุ่นหนุ่มสาวประมาณ 0.67 ไปจนถึง 1.35 พันล้านคน มีพฤติกรรมการฟังเสียงที่ไม่ปลอดภัย และมีความเสี่ยงที่จะประสบพบเจอกับ “ภาวะสูญเสียการได้ยิน” หรือมีปัญหาเรื่องสุขภาพหูได้ในอนาคต
ดังนั้นเมื่อทำสังเกตและสรุปผลการทดลองแล้วอาจสรุปได้ว่ากลุ่มของวัยรุ่นหนุ่มสาวประมาณ 0.67 ไปจนถึง 1.35 พันล้านคน มีพฤติกรรมการฟังเสียงที่ไม่ปลอดภัย และมีความเสี่ยงที่จะประสบพบเจอกับ “ภาวะสูญเสียการได้ยิน” หรือมีปัญหาเรื่องสุขภาพหูได้ในอนาคต Lauren Dillard ตำแหน่ง Advisor and Head ทีมวิจัยจาก World Health Organization อธิบายเรื่องนี้ให้เราเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมว่า ถ้าหากว่าเรารับฟังเสียงที่ดังมากจนเกินไป อาจจะทำให้เซลล์รับรู้ความรู้สึกและโครงสร้างในหูอ่อนแอได้ถ้าหากได้รับฟังเสียงดังในระยะเวลาที่ยาวนานมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้หูอื้อและเกิดความเสียหายถาวรจนสูญเสียการได้ยิน
และขอแนะนำเพิ่มเติมว่าขอให้ประชาชนคนที่ชอบฟังเสียงดังๆนั้นให้ฟังเสียงในระดับไม่เกิน 85 เดซิเบล แล้วก็ควรฟังเสียงนั้นรวมแล้วระยะเวลาไม่ควรเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถ้าหากฟังระดับเสียงเดียวกันหรือมากกว่านี้เป็นเวลานานเกินไปถือเป็นอันตรายต่อระบบการได้ยินและเสี่ยงปัญหาต่างๆ และขอแนะนำอีกอย่างว่าควรเปลี่ยนมาใช้หูฟังที่มี function ตัดเสียงรบกวนได้ดี เพราะมันจะช่วยลดการเพิ่มระดับเสียงในการใช้หูฟังได้โดยไม่จำเป็นได้ นอกจากนี้ยังแนะนำให้คนส่วนใหญ่หาเวลาเปิดฟังเพลงจากลำโพงที่บ้านกันให้มากขึ้น และเริ่มใช้ที่อุดหูหากต้องอยู่ในที่ที่มีเสียงดังเกินไป เพราะจะช่วยให้หูได้พักผ่อนจากการใช้งานอย่างหนักได้
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์