Friday, 22 November 2024

“ชมรมแพทย์ชนบท” โร่แจ้ง!! ผู้ใหญ่อย่าได้คิดแย่งวัคซีนเด็ก สำหรับ “ไฟเซอร์” ล็อตเดือนตุลาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวล่าสุดวันที่ 13 กันยายน 2564 ถึงกรณี เพจเฟซบุ๊ก “ชมรมแพทย์ชนบท” รีบออกมาโพสต์เพื่อแสดงการปกป้องวัคซีน “ไฟเซอร์” ล็อตของเดือนตุลาคมที่จะมาถึง ขอวอนผู้ใหญ่อย่าใช้เหตุผลใดก็ตามเพื่อมาเอาวัคซีนที่จะฉีดให้กับเด็กๆไปใช้เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง

สล็อต xo Slotxo

ทนไม่ไหวกับความหน้าไม่อาย “ชมรมแพทย์ชนบท” โร่แจ้ง!! ผู้ใหญ่อย่าได้แย่งวัคซีนเด็ก อย่ามาอ้างไม่ว่าจะเหตุผลอะไร สำหรับ “ไฟเซอร์” ล็อตเดือนตุลาคม เพื่อเด็กจะได้คืนสู่ห้องเรียน

ทนไม่ไหวกับความหน้าไม่อาย “ชมรมแพทย์ชนบท” โร่แจ้ง!! ผู้ใหญ่อย่าได้แย่งวัคซีนเด็ก อย่ามาอ้างไม่ว่าจะเหตุผลอะไร สำหรับ “ไฟเซอร์” ล็อตเดือนตุลาคม เพื่อเด็กจะได้คืนสู่ห้องเรียน

เมื่อเวลา 10.26 น. ของวันที่ 12 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “ชมรมแพทย์ชนบท” ทนไม่ไหวสำหรับความน่าไม่อายของผู้ใหญ่ ออกโพสต์ปกป้องวัคซีนเพื่อเด็กล็อตเดือนตุลาคมอย่างดุเดือดไว้ดังนี้

ก้าวสู่ยุคการอยู่ร่วมกันกับโควิด  ตอนที่ 1

คืนชีวิตให้นักเรียนนักศึกษา ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ล็อตตุลาคม

โควิดไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เรื่องสุขภาพเท่านั้น ผลกระทบใหญ่กว้างขวาง รวมทั้งการเรียนรู้และการศึกษาของเยาวชนด้วย เรียนออนไลน์กันจนปวดหลังปวดตาไปหมด สูญเสียโอกาสในการเรียนรู้ในมิติอื่น ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลและสังคมไทยจะร่วมกันคืนชีวิตให้นักเรียนนักศึกษา

เด็กนักเรียนนักศึกษาอายุ 12-18 ปีในประเทศไทยมี 4.8 ล้านคน สำหรับเด็กกลุ่มนี้ วัคซีนที่เหมาะสมที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกคือวัคซีนไฟเซอร์ และสำหรับ อย.ไทยเองก็รับรองเพียงตัวเดียวก็คือไฟเซอร์เช่นกัน

กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศออกมาว่า ในเดือนตุลาคมจะมีไฟเซอร์นำเข้ามาได้ 8 ล้านโด๊ส และอีก 2 ล้านโด๊สที่จะมาสิ้นเดือนกันยายน ทำให้ไทยมีวัคซีนไฟเซอร์อย่างเดียวราว 10 ล้านโด๊ส หากเด็กกลุ่มนี้ทุกคนได้รับไฟเซอร์คนละ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ ก็ต้องใช้วัคซีน 9.6 ล้านโด๊ส ซึ่งแทบจะพอดิบพอดี ดังนั้นในเดือนตุลาคม ขอบรรดาผู้ใหญ่อย่ามาแย่งไฟเซอร์ของหนูๆนะ เพราะหนูๆจะได้เปิดเทอมกับเขาสักที ก้าวออกจากการเรียนทางหน้าจอไปสู่การเรียนรู้ในห้องเรียนและชีวิตจริง

สำหรับครูในโรงเรียน แม่ครัว ภารโรง และแม่ค้าในโรงเรียนทุกคน ก็ต้องได้รับสิทธิ์ในการฉีดวัคซีน 2 เข็มด้วย โดยใช้สูตร ซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้า ซึ่งจะจบใน 3 สัปดาห์ เช่นกัน เดือนพฤศจิกายนก็จะพร้อมสำหรับการเปิดเทอม2 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและช่วงเวลาแห่งการกลับไปเรียนรู้ของนักเรียนมัธยมและอาชีวะรวทั้งนักศึกษาในมหาวิทยาลัย

ที่สำคัญ การเปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะตามมาด้วยพลังการบริโภคที่ค่อยๆกลับคืน เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น ผู้คนที่หน้าแห้งจากเศรษฐกิจที่ชะงักงัน จะได้พอจะยิ้มและมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป

ส่วนเด็กประถมนั้น ต้องรอถกกันอย่างหนักอีกรอบ เพราะวัคซีนหลายยี่ห้อ กำลังศึกษาวิจัยความปลอดภัยในเด็กต่ำกว่า 12 ปี แต่ผลการศึกษายังไม่เสร็จ ซึ่งแปลว่า การเปิดเทอมสำหรับนักเรียนประถมยังจะต้องเลื่อนออกไป

แม้กระทรวงสาธารณสุขจะได้ประกาศไปแล้วว่า เด็ก 12-18 ปีคือหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของไฟเซอร์ในเดือนตุลาคม  แต่บรรดาบุคคลที่ได้ฉีดซิโนแวคสองเข็มหลายล้านคน ต่างก็คาดหวังที่จะได้รับไฟเซอร์เข็มสามเหมือนกัน ในนี้มีบรรดาวีไอพีน้อยด้วยที่ได้สิทธิ์ฉีดซิโนแวคสองเข็มไปก่อนใครจำนวนมากด้วย

จึงถึงเวลาที่รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ จะประกาศวาระแห่งชาติดังๆชัดๆร่วมกันว่า “จะคืนชีวิตให้นักเรียนนักศึกษา ด้วยไฟเซอร์ล็อตตุลาคม”