ข่าวเด่นออนไลน์วันนี้ มูลนิธิกระจกเงา โพสต์แชร์เตือนเหตุการณ์ คดีการหายตัว “น้องจีจี้ จีรภัทร” เด็กยอดกตัญญูที่ช่วยแม่ขายพวงมาลัยในปั๊มน้ำมันที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี คดีที่เจ้าหน้าที่ สภ.แก่งคอย ไม่ให้การรับแจ้งเนื่องด้วยแม่น้องมาแจ้งความทั้งที่เด็กพึ่งหายไป 30 นาที ยังหายไม่ครบ 24 ชม. และ 18 กันยายนนี้ ครบรอบ 11 ปี การหายตัวไปอย่างลึกลับของน้องจีจี้
คดีเด็กหาย! ตำรวจไม่รับแจ้ง! อ้างหายไปยังไม่ครบ 24 ชม. “น้องจีจี้ จีรภัทร” ครบรอบ 11 ปี การหายตัวไปอย่างลึกลับ 18 กันยายนนี้ คดีความยังไม่มีความคืบหน้า
มูลนิธิกระจกเงา โพสต์แชร์เตือนเหตุการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กย้ำเตือนการเพิกเฉยของตร. กับคดีการหายตัว “น้องจีจี้ จีรภัทร” จนมาถึง ณ ปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร สังคมต่างพากันตั้งคำถามถ้าเหตุการเหล่านี้เกิดขึ้นกับลูกหลานคุณตำรวจ จะมีความเพิกเฉยแบบนี้ไหม? ถ้าน้องยังมีชีวิตอยู่คงมีอายุได้ 20 ปีแล้ว
ครบรอบ 11 ปี น้องจีจี้ หายไป
วันที่ 18 กันยายนนี้ จะเป็นวันครบรอบ 11 ปี ที่น้องจีจี้ หรือเด็กหญิงจีรภัทร ทองชุม อายุขณะนั้นเพียง 9 ขวบ หายตัวไปอย่างลึกลับ ขณะที่ช่วยแม่ขายพวงมาลัยในปั๊มน้ำมันที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ภาพสุดท้ายที่เราได้เห็นน้องจีจี้ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ทำให้เห็นอากัปกิริยาน้องจีจี้ที่กำลังขายพวงมาลัยโดยเดินผ่านหน้าร้านสะดวกซื้อไปทางถนนหน้าปั๊ม ก่อนที่หลังจากนั้นไม่มีใครได้พบเห็นน้องจีจี้อีกเลย
ตรวจสอบบริเวณทางเท้า ริมถนนหน้าปั๊มน้ำมัน พบรองเท้าที่น้องจีจี้สวมใส่ ตกอยู่ข้างหนึ่ง โดยไม่พบเศษพวงมาลัย หรือวัตถุพยานอื่นตกอยู่
หลังน้องจีจี้หายตัวไป ครอบครัวพยายามค้นหาบริเวณโดยรอบ เมื่อไม่พบตัว จึงรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรแก่งคอย ซึ่งน้องจีจี้เพิ่งหายไปเพียง 30 นาทีเท่านั้น แต่ตำรวจที่ทำหน้าที่ขณะนั้นไม่รับแจ้งความโดยอ้างว่า ยังหายตัวไม่ครบ 24 ชม.
2-3 วันแรกของการหายตัวไปของน้องจีจี้ แทบไม่มีใครรู้ กระทั่งมีนักข่าวท้องถิ่นไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเกิดเหตุ จึงรายงานเป็นข่าว กระทั่งเกิดเป็นกระแสข่าวดังในเวลาต่อมา
ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่มีคนพาน้องจีจี้ไป โดยมีบุคคลเป้าหมาย 2 กลุ่ม คือ บุคคลที่เด็กอาจรู้จักมาก่อน หรือเป็นคนที่มาใช้บริการปั๊มน้ำมัน หรือจอดรถอยู่หน้าปั๊มน้ำมันในช่วงเกิดเหตุ
ช่วงสองปีแรก ครอบครัวตระเวนไปทั่วประเทศ ตามเบาะแสที่มีคนให้ข้อมูลมา แต่ไม่พบตัว
เบาะแสที่ใกล้เคียงน้องจีจี้มากที่สุด คือ เด็กขายพวงมาลัยที่สี่แยกศรีอยุธยา และเด็กขายดอกไม้ที่บางแสน แต่ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดแล้ว เป็นเพียงเด็กหน้าคล้ายกัน
ครอบครัวน้องจีจี้ เคยเดินทางเข้าพบรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำกับดูแลงานด้านคนหาย เพื่อให้ช่วยติดตามคดี ซึ่งถือว่าได้พบผู้ใหญ่ระดับสูงของตำรวจแล้ว
ครอบครัวน้องจีจี้ ได้ยื่นหนังสือกับผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยติดตามปัญหาเด็กหาย และขอให้ตำรวจออกคำสั่งรับแจ้งความเด็กหายทันทีไม่ต้องรอหายครบ 24 ชม.
การเคลื่อนไหวติดตามคดีน้องจีจี้ของครอบครัว ต่อมาทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหนังสือเวียนหลายครั้งให้ตำรวจรับแจ้งความคนหายทันทีโดยไม่ต้องรอครบ 24 ชม.
ตลอดเวลาแม่น้องจีจี้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ชีวิตเช่นไร เธอพยายามติดตามหาลูกอยู่เสมอในทุกช่องทางที่พอจะทำได้
การหายตัวไปของน้องจีจี้ สะท้อนภาพปัญหาเด็กหาย เป็นปรากฏการณ์ที่วันหนึ่งจะเงียบหายไปและคนลืมเลือน กระทั่งตำรวจเองก็สลับสับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่ง คดีจึงไม่มีผู้ที่สานต่อสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังให้สิ้นสงสัย
กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว คดีน้องจีจี้ยังมีผู้ต้องสงสัยมากกว่าหนึ่งคน แต่การสืบสวนไปไม่สุด ด้วยเหตุผลขาดความเอาจริงเอาจังของผู้มีหน้าที่ตามกฎหมาย
การสืบสวนคนหาย ใช้เวลา ใช้คน ใช้งบประมาณ น่าเสียดายที่ไม่มีหน่วยใดสานต่อ แม้จะพยายามนำข้อมูลไปให้และสอบถามความคืบหน้าโดยตลอด นี่คือ สิ่งที่เราพยายามเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน่วยงานปฏิบัติกลาง ในภารกิจติดตามคนหายและศพนิรนาม เพื่อให้คนหายที่ยังไม่พบตัว ยังคงอยู่ในสารบบการสืบสวนติดตามหา ไม่ว่าจะเปลี่ยนบุคลากรไปแต่ฐานข้อมูลยังอยู่กับหน่วยงาน
ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา
กันยายน 2564
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : มูลนิธิกระจกเงา
ขอขอบคุณรูปภาพสเก็ตซ์จาก : พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ บูรณะ ผกก.2 บก.ทว.
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์ | Gclub | จีคลับ | Sbobet | Sbobet9