หมอจ่ายยาผิด ทารก 1 เดือนเข้า ICU แม่ป้อนยาแก้คัน รพ.บอกไม่เกี่ยวกับยา แต่โอนเงินให้หลายหมื่น

ผู้ใช้ facebook รายหนึ่ง ออกมาเล่าข่าวเป็นที่สลดใจแก่บรรดาแม่ลูกอ่อน หมอจ่ายยาผิด ทารกน้อยต้องนอน ICU นานหลายวัน ต่อมาทางโรงพยาบาลได้ออกมาโต้เหตุการณ์ดังกล่าว ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการที่แพทย์จ่ายยาผิด

หมอจ่ายยาผิด แม่ป้อนยาแก้คัน ทารก 1 เดือน ต้องนอนโทรมใน ICU รพ.โต้ไม่เกี่ยวกับยาที่กินผิด!! แต่โอนเงินเข้าบัญชี 70,000 บาท พร้อมให้เงินสดติดตัว 5,000 บาท

จากกรณีที่ผู้ใช้ facebook รายหนึ่งออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ทำให้ งานนี้ไม่ได้เพียงแค่เล่าแต่มีภาพประกอบเป็นขวดยา ซึ่งได้ระบุชื่อของโรงพยาบาลประจำอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีภาพของเด็กทารกวัย 1 เดือนกับอีก 12 วัน ทารกเป็นเพศชายและก็เป็นลูกชายของเจ้าของโพสต์ โดยได้กล่าวเอาไว้ว่า จำนวน 4 วัน 3 คืน ภายหลังจากมีอาการป่วยเป็นไวรัสผิวหนัง หมอได้สั่งให้ลูกชายนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลพร้อมกับให้น้ำเกลือ-ยาฆ่าเชื้อ เมื่ออาการดีขึ้นและหายจากการป่วยหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 เธอก็ได้พาลูกกลับบ้านตามปกติ

เมื่อพาลูกกลับถึงบ้านเป็นเวลา 13:20 น. ลูกได้นอนหลับและก็ตื่นมาเวลา 15:00 น. เธอได้ให้ลูกกินนมและอาบน้ำตามปกติ ก่อนที่จะนำยามาให้ลูกกิน ซึ่งก่อนที่จะป้อนยาให้ลูกเธอก็ได้อ่านฉลากยาอย่างถี่ถ้วนมีการระบุว่าเป็นแคลเซียม ให้กินครั้งละ 1 เม็ด (1 ซีซีหากเป็นในส่วนของยาน้ำ) ภายหลังจากอ่านข้อมูลของยาครบทุกอย่างเธอก็ได้นำยาไปใส่หลอดแล้วมาฉีดใส่ปากลูกครั้งที่ 1 ลูกชายกินตามปกติ ส่วนครั้งที่ 2 ลูกของเธอใครอย่าออกมาแล้วร้องไห้อย่างหนัก ตอนนั้นเธอรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงเรียกพ่อของลูกมาดูและลองกินยา ทำให้ได้รู้ว่ายาที่ป้อนลูกเข้าไปนั้นคือคาลาไมน์ เมื่อ search ดูข้อมูลใน google พบว่ายานี้สำหรับทาเท่านั้น “ห้ามรับประทาน”

หลังจากนั้นไม่นานลูกชายตัวน้อยก็อาเจียนพร้อมกับอุจจาระออกมาเป็นน้ำ แม่ตัดสินใจเร่งพาลูกกลับไปที่โรงพยาบาล น้องนอนดูอาการยังนับว่าโชคดีที่ไม่มีไข้ยังนับว่าโชคดีที่ไม่มีอาการของไข้ ก็ขับถ่ายออกมาไม่หยุด โรงพยาบาลต้นเรื่องได้ส่งต่อน้องไปรักษาโรงพยาบาลในตัวจังหวัดกระบี่ ซึ่งน้องได้เข้าไปรักษาตัวภายในห้อง ICU ที่คุณแม่ออกมาโพสต์ครั้งนี้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากลูกของเธออยู่โรงพยาบาลรักษามา 20 กว่าวันแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แค่ว่าลูกกินคารามายหมอบอกว่าไม่มีผลอะไร แต่ทำไมบริเวณลำไส้ถึงมีอาการบวม มันเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่?

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่คุณแม่ได้นำเรื่องราวออกมาโพสต์แชร์บนโซเชียล ชาวเน็ตส่วนใหญ่ก็ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า อาการป่วยของทารกน้อยเกิดจากการกินยาผิดประเภท ซึ่งสาเหตุทั้งหมดเกิดจากที่แพทย์จ่ายยามาผิด..

ต่อมาทราบชื่อว่าคุณแม่รายนี้ คือ นางสาวขนิษฐาวัย 24 ปี เจ้าตัวออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขวดยาเจ้าปัญหามีการระบุภาษาอังกฤษไว้อีกด้าน แต่อีกด้านกับเขียนระบุเอาไว้ว่าเป็น “แคลเซียม” ภายหลังจากที่ลูกมีอาการแพ้เธอก็ได้ให้เพื่อนบ้านช่วยอ่านภาษาอังกฤษอีกด้านว่าคือยาอะไร จนทำให้ได้รู้และยืนยันข้อมูลอีกว่า มันคือ “คาลาไมน์” ยาที่ใช้กับโรคผิวหนัง และใช้ทาภายนอกเท่านั้น

หลังจากที่ลูกมีอาการแพ้เธอก็พาลูกกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเดิม โรงพยาบาลเดียวกันกับไปรักษาไวรัสผิวหนัง แล้วเป็นโรงพยาบาลเดียวกันที่จ่ายยาให้มาทาน แพทย์ได้สั่งให้ลูกชายของเธอนอนรักษาตัวเป็นจำนวน 6 คืน ถ้าว่าอาการป่วยของลูกชายก็ไม่ดีขึ้น เมื่อสอบถามเกี่ยวกับอาการป่วยโรงพยาบาลก็ไม่ยอมบอกข้อมูลให้แน่ชัด ว่าสาเหตุของอาการป่วยนี้เกิดจากอะไร พวกเขาบอกแต่เพียงว่า นอกจากนี้ยังบอกว่าอาการป่วยไม่เกี่ยวกับที่กินคาลาไมน์

ต่อมาในวันที่ 7 ธันวาคม 2565 น้าสาวของเธอได้มาเยี่ยมหลานชายเมื่อมาเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น น้าสาวก็โวยวายและขอให้โรงพยาบาลที่ตัวอำเภอ ส่งหลานชายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกระบี่

วันที่ 11 ธันวาคม 2565 หมอได้อนุญาตให้ลูกชายกลับบ้าน โดยมีบอกอาการป่วยทั้งหมดระบุเอาไว้ในใบรับรองแพทย์ เด็กชายมีอาการของผิวหนังอักเสบเกิดขึ้นตรงบริเวณถุงอัณฑะ เธอคิดว่าลูกคงจะดีขึ้นและต่อไปคงไม่เป็นไรแล้ว ถ้าว่าหลังจากกลับมาอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 2 วัน รูปถ่ายขับถ่ายเป็นของเหลวตลอดเวลา

จนกระทั่งวันที่ 14 ธันวาคม 2565 หมอของโรงพยาบาลกระบี่ ได้มีการนัดหมายให้ลูกชายมาตรวจร่างกายอีกครั้งทำให้ต้องแอดมิดนอนอยู่ที่โรงพยาบาล โดยนอนรักษาตัวภายในห้องรวมคนไข้ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565  คุณแม่เริ่มรู้สึกกังวลใจเพราะนี่มันหมายความว่ามีอาการป่วยขั้นหนัก แต่หมอก็ยังไม่อธิบายสาเหตุอาการป่วยที่แน่ชัด และยังบอกอีกว่าจะช่วยดำเนินการส่งต่อไปรักษาโรงพยาบาลที่ดีและเครื่องมือครบกว่านี้

อย่างไรก็ตามผู้เป็นแม่เธอก็ปากใจเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ลูกชายป่วยและมีอาการหนักมากขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลในตัวอำเภอใจสั่งยารักษามาผิดตัว ทำให้เธอป้อนยารักษาผิดวิธีให้กับลูกชาย ถ้าว่าจากการที่พาลูกชายไปรักษาจาก 2 โรงพยาบาลทั้งในตัวอำเภอ และโรงพยาบาลประจำจังหวัด แพทย์ทั้ง 2 แห่งก็ต่างยืนยันและปฏิเสธว่าอาการป่วยของลูกชายไม่เกี่ยวข้องกับการจ่ายยา

คุณแม่ยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า เธอรู้สึกสงสัยหนักมากภายหลังจากที่โรงพยาบาลประจำอำเภอปฏิเสธว่ายาที่จ่ายผิดไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาการป่วย แต่เธอได้รับเงินโอนเข้าบัญชีซึ่งมาจากโรงพยาบาลต้นเรื่องจำนวน 70,000 บาท นอกจากนี้ยังให้เป็นเงินสดติดตัวอีกจำนวน 5,000 บาท โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในวันที่ส่งตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลกระบี่ ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงอาการป่วยของลูกชายมาก เพียงอยากให้ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบ แล้วเธออยากรู้ความรุนแรงของอาการป่วยของลูกด้วยเช่นเดียวกัน อยากรู้ข้อมูลที่เป็นความจริง ซึ่งตอนนี้แพทย์ได้แต่บ่ายเบี่ยงไม่บอกสาเหตุสักที