โผล่อีกราย! ลูกจ้างสุดเหี้ยมบุกข่มขืนเด็กหญิง 11 ลูกสาวนายจ้าง เพราะไว้ใจให้อยู่อาศัยกันแบบครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 กรณี ลูกจ้างสุดเหี้ยมบุกข่มขืนเด็กหญิง 11 นายจ้างสุดช้ำอุตส่าห์ไว้ใจและให้ลูกจ้างเข้ามาพักอาศัยด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ถูกตำรวจจับกุมลูกจ้างก็ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

นายจ้างพ้อผิดที่ไว้ใจ ลูกจ้างสุดเหี้ยมบุกข่มขืนเด็กหญิง 11  คนร้ายยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะคำ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุ ลูกจ้างสุดเหี้ยมบุกข่มขืนเด็กหญิง 11 เนื่องจากเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาแม่วัย 40 แจ้งว่าลูกสาวได้ถูกลูกจ้างในบ้านวัย 43 ข่มขืนลูกสาววัย 11 ก่อนลูกจ้างจะหลบหนีไป

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยกันจับกุมลูกจ้างคนดังกล่าวได้เป็นที่เรียบร้อย เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวน ลูกจ้างผู้ก่อเหตุก็ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมอ้างว่าตนและเด็กมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำอย่างที่แม่เด็กได้มากล่าวหา ตนก็มีลูกสาวเหมือนกันตอนนี้ 2 ขวบแล้ว ตนก็รักเด็กหญิงเหมือนกับลูกตัวเอง ตนจึงคิดว่าแม่เด็กคงคิดไปเองและคงจะคิดแกล้งตน เนื่องจากกลัวว่าตนจะแย้งความรักจากเด็กไปจากนายจ้าง

ผู้เป็นยาย ได้ออกมาเล่าว่า ตนอยู่บ้านกับหลาน 3 คน คือ มีหลานชายวัย 18 ปี หลานสาววัย 11 ปี และหลานวัย 8 ขวบ และยังมีลูกจ้างจากร้านขายต้นไม้ผู้ก่อเหตุ ได้มาอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน แต่พักกันคนละหลัง โดยปกติแม่ของเด็กจะมาอยู่เป็นเพื่อนลูกจนถึงเวลา 5 ทุ่ม แล้วจึงกลับไปนอนอยู่ที่บ้านอีกหลัง ครอบครัวและหลานๆจะสนิทละคุ้นเคยกับลูกจ้างจากร้านขายต้นไม้ผู้ก่อเหตุเป็นอย่างดี ครอบครัวของตนจะเรียกลูกจ้างคนดังกล่าวมากินข้าวกับครอบครัวในวงเดียวกัน เมื่อช่วงวันที่ 15 ก.ย. 64 ที่ผ่านมานี้ ยายต้องเดินทางไปเฝ้าคนป่วยที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 คืน และคืนนี้เป็นคืนที่ผู้ก่อเหตุมาชวนหลานทั้ง 3 คนไปนอนด้วย ซึ่งเวลานั้นก็เลย 5 ทุ่มมาแล้วแม่ของเด็กก็ได้กลับไปนอนที่บ้านอีกหลัง พอยายกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะหลานสาววัย 11 ขวบ ปกติที่ชอบพูดคุยกับลูกจ้างก็ปิดตัวเงียบไม่ยอมออกมาคุยเล่นเหมือนเช่นเคยทั้งกลัวที่จะเจอหน้าลูกจ้างคนนี้ ยายจึงได้พยายามถามหลาน สุดท้ายหลานจึงได้เล่าให้ฟังว่า ลูกจ้างชวนตนและน้อง 8 ขวบ เข้าไปนอนที่บ้านหลังที่ลูกจากอยู่ตนจึงไปด้วย เวลานั้นพี่ชายวัย 18 ก็ได้นอนหลับไปแล้ว พอเวลาผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 04.000 น. ลูกจ้างที่ตนนับถือและไว้ใจก็ได้เอามือมาปิดปากก่อนข่มขืน พร้อมกระซิบบอกห้ามบอกใคร เมื่อรู้ดังนั้นยายจึงรีบบอกแม่เด้กให้ไปแจ้งความที่ สภ.ปะคำ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึง ลูกจ้างที่ก่อเหตุก็ได้มากล่าวขอโทษพร้อมทั้งกราบไหว้อ้อนวอนไม่ให้ทางครอบครัวเข้าแจ้งความตำรวจ

ในส่วนของคุณแม่ของเด็กหญิง ได้กล่าวว่า ตนยอมรับว่าในคืนตนก็มีส่วนผิดที่ไม่พาลูกไปนอนด้วยทั้งที่ยายก็ไม่อยู่บ้าน ทั้งตนยังมาคิดว่าไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว เลยปล่อยให้ลูกนอนตามลำพัง ไม่คิดเลยลูกจ้างที่ไว้ใจและเลี้ยงเป็นอย่างดีจะคิดมทำร้ายลูกอันเป็นที่รักได้ลง ตนรู้สึกห่วงสภาพของจิตใจลูกสาวมากๆเพราะเมื่อเป็นคดีความก็ยต้องมีเจ้ากหน้าที่เข้ามาสอบปากคำลูกสาว และในเวลาเดียวกันนั้นก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการสอบปากคำก็เป็นการตอกย้ำเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเด็กด้วย

ล่าสุดนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งเด็กหญิงเข้าไปตรวจร่างกาย และยังอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตั้งข้อหาต่อลูกจ้างข้อหาอนาจารเด็ก ถ้าผลตรวจของเด็กหญิงวัย 11 ขวบออกมาชัดเจนเมื่อไร เจ้าหน้าที่จะมีการตั้งข้อหาผู้ร้ายเพิ่มอีกหลายข้อหา และจะมีการดำเนินการเอาผิดและลงโทษทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป