รวบ CEO และพวก 11 คน เครือข่ายพรีมายา ยังคงยืนยัน! แผนธุรกิจนี้ใช้ได้จริง

ข่าวล่าสุด รายงานความคืบหน้าการจับกุม CEO และพวก 11 คน เครือข่ายพรีมายา โดยข้อหาโฆษณาชวนเชื่อหลังจากที่ลูกหายโพสต์ลงทุน 6,000 บาทได้กำไรมา 15 ล้าน ด้วยการขายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เผยข้อมูลเท็จ ทนายอัฉริยะโผล่ฟ้องต่อ บ.พรีมายา เข้าข่ายอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

ความคืบหน้าล่าสุด รวบ CEO และพวก 11 คน เครือข่ายพรีมายา จับกุมข้อหาโฆษณาชวนเชื่อ ยังคงยืนยันแผนธุรกิจทำจริงได้จริง

ผบช.ตร.สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ออกมาเปิดเผยรายงานโดย พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ภายหลังจากที่สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด 11 คน ทั้งหมดยังคงยืนยันถึงแผนธุรกิจที่ ลงทุนด้วยเงิน 6,000 บาทและได้กำไร 15 ล้านใน 3 เดือน แผนนี้ทำจริงได้จริง

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ปักใจเชื่อการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีผู้เสียหายคนไหนที่มาแจ้งเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับกรณีนี้ ทางตำรวจจึงไม่สามารถที่จะแจ้งความจับในข้อหาฉ้อโกงได้

สำหรับคำถามที่ว่ากรณีนี้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ไหม? ขณะนี้กำลังอยู่ในการตรวจสอบ โดยเบื้องต้นได้เก็บรวบรวมโพสต์ของ “เม-พรีมายา” ที่ได้นำลงไปแชร์บนโลกออนไลน์ ที่ลงข้อมูลไปจะต้องมีการชี้แจง ถ้าหากผู้ต้องหาไม่สามารถอธิบายได้ อาจจะเป็นหลักฐานที่สามารถมัดตัวผู้ต้องหา ให้เวลาต่อมา “ทนายอัจฉริยะ” ได้นำเอารายชื่อของผู้ต้องหาในคดีโฆษณาชวนเชื่อของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทั้งหมด 12 คนรวมถึงผู้บริหาร เอาไปยื่นเรื่องต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปราบปรามการกระทำความผิดว่ากระบวนการทั้งหมดเข้าข่าย “อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ”

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลว่าบริษัทอาหารเสริมพรีมายา มีการหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีหลังจากมีการจำหน่ายสินค้า ด้วยการไม่โอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีหลักของบริษัท แต่กลับโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวแทน ซึ่งในกรณีนี้สามารถชี้ได้ว่าเป็นการหลบเลี่ยงและตั้งใจไม่จ่ายภาษี นอกจากนี้เห็นได้ชัดเจนว่าทั้งรายได้และกำไรมีจำนวนไม่สอดคล้องกัน รวมไปถึงภาษีที่ได้ยื่นเรื่องไปก่อนหน้า

นอกจากนี้ในส่วนของการเปิดคลินิกเสริมความงาม ซึ่งมีการตรวจสอบข้อมูลเผยว่ามีการจดทะเบียนด้วยเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ร่วมหุ้นเป็น “ใบเตย อาร์สยาม” ยิ่งทำให้เห็นว่าเป็นการฟอกเงิน แต่เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง forex 3D หรือไม่ ต้องให้ทางนักร้องคนดังออกมาชี้แจงอีกครั้ง

ทนายอัจฉริยะ ได้กล่าวปฏิเสธภายหลังจากที่กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ซึ่งมีคนกล่าวหาว่าเขาต้องการที่จะตบทรัพย์ไม่เป็นความจริง และถ้าเขาต้องการที่จะหาเงินคงไม่มาแจ้งความดำเนินคดีบริษัทอาหารเสริมนี้อย่างแน่นอน จากนี้เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรได้มีการตรวจสอบบริษัทพรีมายา จนทำให้พบเข้ากับหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าบริษัทอาหารเสริมนี้มีการเลี่ยงภาษีจริง โดยมูลค่านั้นหลายร้อยล้านบาท ในส่วนนี้ทนายอัจฉริยะได้แนะนำให้ตำรวจ ปอศ. ต้องเรียกให้ทางกรมสรรพากรเข้ามายื่นเรื่องร้องทุกข์ในกรณีเครือข่ายพรีมายา โดยตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี