ข่าวเด่นออนไลน์ มาตามนัด อดีตนักการเมืองชื่อดัง “ชูวิทย์” พาหนุ่มสิงคโปร์ที่รับให้อยู่ในการคุ้มครอง ตั้งโต๊ะแถลงข่าว 14:00 น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เปิดความจริงจากปากพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่มาทั้งหมด
ชูวิทย์ พาพยานเปิดความจริง ปมตำรวจรีดเงิน ชี้ว่าเป็น “เงินสินบน” นทท.ซื้อมาจากห้วยขวาง ไม่คิดว่าผิดกฎหมาย เพราะกัญชาเสรี เรื่องเงินโดนบังคับให้จ่าย
“ชูวิทย์” ได้พาพยานปากเอก นักท่องเที่ยวหนุ่มสิงคโปร์ “สกาย” ที่เป็นคนควักเงิน 27,000 บาทให้กับตำรวจที่มารีดไถ่เงิน เขาที่เป็นเพื่อนกับดาราสาวไต้หวัน “อันยู๋ชิง” ย้อนไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566 “สกาย” หนุ่มชาวสิงคโปร์ได้เคยแถลง ทางด้านชูวิทย์ก็ได้นำเอาปี๊ปมาประกอบและได้นำเอามาเปิดคลิปภาพต่อห้องที่ชายแถลงข่าว สิ่งที่ปรากฏคือภาพของพลตำรวจตรีสำเริง สวนทอง ร.บช.ตร.นครบาล ซึ่งได้ออกแถลงข่าวก่อนหน้านี้ว่าไม่ได้มีการรีดไถเงินจากนักท่องเที่ยว หรือ ดาราสาวไต้หวัน
ซึ่งได้มีการกล่าวอีกว่าคนที่โดนรีดไถเงินจะต้องเอาปี๊ปมาด้วย เนื่องจากเวลาชาวต่างชาติเขามาไทยแล้วกลัวตำรวจ กรณี “บุหรี่ไฟฟ้า” ซื้อมาจากตลาดที่อยู่ในไทย แต่ถูกรีดไถเงินและดิสเครดิตไปแบบหน้าไม่อาย
ทางนี้หนุ่มสิงคโปร์ได้พูดเป็นภาษาไทยต่อหน้าสื่อมวลชนว่า “ถ้าไม่ไหวใจชูวิทย์ก็คงไม่มาที่นี่” ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวการเดินทางว่ามาที่ประเทศไทยเนื่องในโอกาสวันเกิดของเพื่อน และถูกจัดงานวันเกิดที่ร้านอาหารแถวสุขุมวิท เขาได้เรียกรถจาก application มาและมีจดหมายไปที่ห้วยขวาง เขาเดินทางมาพร้อมกับเพื่อนทั้งหมด 4 คน หนึ่งในนั้นคือ “อันยู๋ชิง” หรือ ดาราสาวไต้หวัน ต่างจากที่เขาเจอด่านตรวจหน้าสถานทูต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจพาสปอร์ตซึ่งเขาเองตอนนั้นไม่ได้พบมาด้วย แต่สิ่งที่มีคือพาสปอร์ต voa จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขอดูวีซ่าของเขา ซึ่งสิ่งที่ปรากฏเขาก็ได้เดินทางมาที่ประเทศไทยหลายครั้งแล้ว ซึ่งเขาก็รู้ว่าการเดินทางมาที่นี่ไม่ต้องใช้วีซ่าแล้ว แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าเขาได้พบบุหรี่ไฟฟ้ามาด้วย 3 อัน ซึ่งดาราสาวไต้หวันเธอไม่ได้มีบุหรี่ไฟฟ้า
สิ่งแรกเมื่อตำรวจรู้ก็ได้ยึดบุหรี่ไฟฟ้าไป จากนั้นตำรวจที่ใส่เครื่องแบบเต็มยศก็เข้ามาเรียกถ่ายเงินกับเขา ในข้อหาที่เขาไม่มีวีซ่าแถมยังพกบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจยังบอกกับเขาว่าถ้าไม่จ่ายเงินก็ต้องติดคุก 2 วัน
ในสถานการณ์ตอนนั้นเขารู้สึกเครียดมาก เขาอยากกลับไปเร็วที่สุด เพราะรู้สึกกลัวตำรวจและก็ไม่อยากติดคุกเขาจึงเอาเงินออกมาจ่ายซึ่งตอนนั้นเขามี 30,000 บาทไทย จึงได้เอาเงินจำนวน 27,000 บาทให้กับตำรวจไปได้ถ่ายรูปของบุหรี่ไฟฟ้าและถ่ายรูปไว้
เขายืนยันว่า “ซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาจากตลาดที่ห้วยขวาง เขาไม่รู้หรอกว่าบุหรี่ไฟฟ้ามันผิดกฎหมายของประเทศไทย เพราะเขาก็เห็นวางขายตามทั่วไป จึงเข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้ามันถูกกฎหมายเหมือนกับกัญชา เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมบุหรี่ไฟฟ้าถึงผิดกฎหมาย!?”
ตอนนั้นเขารู้สึกเครียดมากแม้ว่าที่สิงคโปร์การให้เงินกับตำรวจนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่อะไร การที่เขามาที่นี่ไม่ต้องการที่จะเอาเรื่องราวอะไร เขาแค่ต้องการที่จะออกมาพูดความจริง แม่ผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปเขาก็ยังอยากที่จะมาเที่ยวประเทศไทย แต่เขาก็ยังรู้สึกกลัวตำรวจไทยเหมือนกัน
ทางด้านอดีตนักการเมืองดัง “ชูวิทย์” เขาได้ยืนขึ้นและก้มหัวเพื่อขอโทษในฐานะที่ตัวเองก็เป็นคนไทย รู้สึกเสียใจที่นักท่องเที่ยวได้มารับประสบการณ์ที่ไม่ดีในประเทศของตัวเอง และยังคงยืนยันว่าเขาจะยืนอยู่เคียงข้างนายสกายหนุ่มชาวสิงคโปร์ จนกว่านายสกายจะได้รับความยุติธรรม
นอกจากนี้อดีตนักการเมืองดังยังได้มีการเรียกร้องฝากไปถึง สตช.ให้มีการยกเลิกการตั้งด่าน เพราะมันเป็นโอกาสเปิดช่องทางให้เจ้าหน้าที่รับเงินสินบน และเรียกร้องนายกรัฐมนตรีในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เข้ามาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ชูวิทย์ยังบอกอีกว่าเขาจะประสานงานดำเนินคดีผ่านทางผู้บัญชาการตำรวจ เนื่องจาก บช.น. ยังคงมองว่าประเด็นนี้มันเล็กกว่าเรื่องของ “บุหรี่ไฟฟ้า” ทั้งที่ความจริงควรจะให้ความสำคัญกับการรับเงินสินบนของเจ้าหน้าที่ เขาเองก็ยืนยันที่จะเปิดโปงกระบวนการเรียกเก็บเงินหรือการรีดไถเงินในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ภายหลังจากที่อดีตนักการเมืองดังและพยานปากเอกชาวสิงคโปร์ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนเสร็จแล้ว ก็ได้พา sky ไปให้ปากคำกับตำรวจที่ชั้น 2 ในโรงแรม david กรุงเทพมหานคร
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์