โจรสายชิลล์ ใส่เสื้อยืดขาว “กูติดยังวะ” บุกปล้นร้านสะดวกมือเปล่า กวาดเงินจากเก๊ะไปกว่า 2 พันบาท

ข่าววันนี้รายงานเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่ผ่านมานี้ กรณี โจรเสื้อยืด “กูติดยังวะ” บุกปล้นร้านสะดวกมือเปล่า ทำตัวชิลล์เดินไปเปิดเก๊ะหยิบเงินหน้าตาเฉย หลังทำเนียนเดินดูสินค้าในร้าน

แม่อายลูกชายเป็นโจร บุกปล้นร้านสะดวกมือเปล่า ลั่นทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมได้

สำหรับเรื่องราวของโจรสายชิลล์ที่ใส่เสื้อยืดขาว “กูติดยังวะ” บุกปล้นร้านสะดวกมือเปล่า จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับกุมไว้ได้ในที่สุด แม่ผู้ก่อเหตุทำใจไม่ได้อายที่ลูกชายเป็นโจร ลั่นทำผิดก็ต้องยอมรับผิดต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย แล้วปิดปากเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์อะไรอีกเลย

ทางด้านร.ต.อ.ศิริ คารศรี สวส.สภ.ท่าตูม อำเภอตูม จังหวัดสุรินทร์ ผู้รับแจ้งเหตุจากพนักงานของทางร้านสะดวกซื้อที่ได้โทรมาแจ้งความว่ามีผู้ร้ายบุกปล้นร้านสะดวกซื้อที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อสาขาที่ 8179 ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้กันกับแม่น้ำมูล เขตเทศบาลของตำบลท่าตูม อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ พนักงานได้ให้ข้อมูลมาว่าคนร้ายที่มาก่อเหตุมีลักษณะรูปร่างเป็นคนอ้วน และได้มากวาดเงินในเก๊ะไปได้กว่า 2,267 บาท โจรไม่มีอาการเร่งรีบได้เงินแล้วเดินออกจากร้านไปดื้อๆ โดยคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน คันสีม่วง-ขาว ขับหลบหนีไป หลังจากที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยได้ไปประสานงานกับวิทยุของทางสายตรวจ เพื่อจะได้ช่วยกันออกตามจับกุมคนร้ายพร้อมจับมือกันออกตรวจติดตามในเส้นทางในตำบลท่าตูมไปจอมพระ เส้นท่าตูมไปสุวรรณภูมิ และเส้นทางตูมไปรัตนบุรี ทั้งหมดเป็นเส้นทางที่คนร้ายจะสามารถขับขี่รถหลบหนีไปได้

เมื่อเจ้าหน้าที่บางส่วนได้เดินทางลงไปในพื้นที่เกิดเหตุ ร้านสะดวกซื้อดังกล่าวและได้มีการสอบถามกับพนักงานจากทางด้าน ทราบว่า คืนนี้ที่เกิดเหตุมีพนักงานเข้าเวรทำงานเป็นจำนวน 3 คน พนักงานทั้งหมดได้ให้ความร่วมมือในการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ฟังพร้อมกับได้เปิดภาพากกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญให้เจ้าหน้าที่ดูประกอบ

ขณะที่พนักงานเข้าทำงานกะดึก 3 คน กำลังปฏิบัติหน้าที่ยืนประจำเคาน์เตอร์เพื่อให้บริการลูกค้าอยู่นั้น ก็มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้าน และตอนที่ผู้ร้ายก่อเหตุก็สังเกตเห็นลูกค้าที่อยู่ในร้านอีก 2 คน วิ่งออกไปนอกร้าน ในส่วนของคนร้ายที่มีลักษณะการแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาว “กูติดยังวะ” พร้อมกับสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ใส่หน้ากากที่ขาว คาดว่ามีอายุได้ประมาณ 25 ไปถึง 30 ปี เดินเข้ามาวนดูสินค้าในร้านสักพักหนึ่ง แล้วจากนั้นพอรู้ตัวอีกที่คนร้ายดังกล่างได้เดินตรงมาที่พนักงานที่เคาน์เตอร์ที่พนักงานอยู่พร้อมกับพูดขึ้นขู่ว่า “เปิดเก๊ะ ถ้าไม่ทำตามที่บอกจะทำร้าย” เมื่อพนักงานเปิดเก๊ะแล้วคนร้ายก็ได้ใช้มือเปล่าหยิบเอาเงินจำนวน 2,267 บาท หลังจากนั้นก็เดินออกจากร้านไปหน้าตาเฉยด้วยความใจเย็น พนักงานได้สังเกตว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุด้วยมือเปล่าไม่มีการนำอาวุธมาด้วย เมื่อพนักงานรู้สติก็ได้รีบโทรเข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ ได้ตรวจพบเห็นรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่มาก่อเหตุต้องเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากเมื่อย้อนดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ตรวจพบว่าคนร้ายได้มาแอบดูร้านไว้ก่อนจะมาลงมือก่อเหตุ และเวลาที่ตัดสินใจก่อเหตุไม่ค่อยมีคน จากนั้นเจ้าหน้าที่เลยได้รีบเร่งส่งภาพจากกล้องวงจรผิดที่เป็นหลักฐานที่ได้มาส่งแชร์ต่อไปให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนของ สภ.ท่าตูม ทั้งนี้ยังได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ สภ.ใกล้เคียงกับเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนได้รู้ว่าคนร้ายได้หลบหนีไปบนเส้นทาง ทางแยกหลักกิโลศูนย์ขาไปอำเภอรัตนบุรี และขณะนั้นก็ทราบตัวคนร้ายแล้วว่าคือใครโดยได้ติดตามจากพฤติกรรมการก่อเหตุในคดีลักทรัพย์และการเสพยาเสพติด จึงแน่ใจได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่

เวลา 14.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 64 ทีมเจ้าหน้าที่ของ สภ.ท่าตูม ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งจากทางร้านสะดวกซื้อและกล้องวงจรปิดที่ติดตามถนน สุดท้ายได้นำภาพมาประกอบกันจนรู้ว่าคนร้ายคือ นายสมรักษ์ วัย 25 ปี  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตูม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ สวป.ท่าตูม ได้เดินทางไปยังบ้านผู้ก่อเหตุโดยทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านนายสมรักษ์ ผู้ก่อเหตุ ปรากฏว่าในตอนนั้นคนได้ได้กำลังนั่งเสพยาอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่เลยเข้าไปจับกุมแต่คนร้ายก็ได้ขัดขืนโดยการนำก้อนหินที่หยิบจับได้จากบริเวณนั้นขว้างใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมได้นำมีดขึ้นมาจ่อจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้มีการเจรจากับคนร้ายอยู่นาน 5 ชั่วโมง กว่าคนร้ายจะยอมมอบตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการใช้เหล็กง่ามในการบุกจับกุมจึงจะสามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ เนื่องจากคนร้ายเป็นคนอ้วนและมีกำลังเยอะ เมื่อจับกุมได้แล้วเจ้าหน้าที่จึงได้นำนายสมรักษไปสอบสวนและได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อความแน่ใจต่อที่โรงพยาบาลท่าตูม ผลตรวจเป็นสีม่วง

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งข้อหาต่อนายสมรักษ์ว่า เสพสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนให้โทษชนิดหนึ่ง และอีกหนึ่งข้อหา คือ ก่อเหตุชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่จะมีการสอบสวนคนร้ายและตั้งอีกหลายข้อหา เนื่องจากมีการตรวจสอบพบประวัติว่านายสมรักษ์ ได้เคยก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์ในร้านขายโทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ในตลาดของอำเภอท่าตูม ที่ผ่านมาได้ไม่นานนี้เองจนล่าสุดได้มาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง

พ่อของคนร้ายบอกอายไม่ยอมพูดอะไร และในส่วนของแม่คนร้ายก็ได้บอกไว้ว่า ถ้าลูกของตนทำผิดก็ต้องยอมรับผิดต้องได้รับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ ขณะที่แม่คนร้ายออกมาเผยอยู่นั้นก็ได้มีเพื่อนบ้านต่างมามุงดูเหตุการณ์ เพราะหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่คิดว่าลูกหลานคนในหมู่บ้านตนเองจะเป็นคนร้ายที่ไปก่อเหตุ