การทำ IF สามารถลดน้ำหนักได้จริงหรือ

แม้ว่าปัจจุบันการลดน้ำหนักมีหลากหลายวิธีให้ผู้คนได้เลือกปฏิบัติตามความเหมาะสม ความชอบ และความสะดวก มากมายหลากหลายวิธีแล้ว แต่การทำ IF ( Intermittent Fasting ) นั้นถือว่าเป็นวิธีที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้คนในปัจจุบันนี้โดยเฉพาะสาวๆ

เพราะเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ และดาราสวยๆ หุ่นดีๆ ส่วนใหญ่ก็ชอบใช้วิธีนี้กัน ยกตัวอย่างเช่น ใหม่ ดาวิกา เป็นต้น นอกจากนี้ การลดน้ำหนักแบบ IF ( Intermittent Fasting ) ยังเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและได้มีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง รวมถึงสามารถลดปริมาณไขมันในร่างกายได้อีกด้วย

มาทำความรู้จักกับการทำ IF ( Intermittent Fasting ) ที่ถูกต้องกันค่ะ

การลดน้ำหนักแบบ IF ( Intermittent Fasting ) คือการลดน้ำหนักโดยวิธีการเลือกช่วงเวลารับประทานอาหาร หรือจำกัดช่วงเวลาการกินนั้นเอง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ Feeding คือช่วงเวลาที่เราสามารถทานอาหารได้ กับ Fasting คือช่วงเวลาที่เราจะไม่ทานอะไรเลย
โดยการลดน้ำหนักแบบ IF ( Intermittent Fasting ) นั้นจะแบ่งออกเป็น 6 รูปแบบ แต่ช่วงเวลาที่เป็นที่นิยมคงหนีไม่พ้นช่วงเวลา 16/8 หรือช่วงเวลาเริ่มต้นรับประทานอาหารตั้งแต่เวลา 12:00-20:00 นั้นเอง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการฝึกเพื่อเริ่มลดน้ำหนัก สามารถทำได้ง่าย ซึ่งในช่วงเวลาระหว่างอดอาหารนั้นผู้ลดสามารถที่จะจิบน้ำดื่ม หรือกาแฟดำหวาน 0 % ได้

แล้วทำไมเราถึงต้องมีช่วงที่อดอาหารละ ?

ก็เพราะเพื่อให้ร่างกายของเราได้มีเวลาเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายนั้นเอง เนื่องจากหลังจากที่เรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายจำเป็นต้องใช้เวลาในการย่อยนานถึง 3-5 ชั่วโมง ซึ่งหากเรารับประทานอาหารเข้าไปเรื่อยๆ ไม่มีช่วงเวลาให้ร่างกายได้ย่อยเลยสารอาหารที่อยู่ในร่างกายจะถูกนำไปสะสมเป็นไขมัน โดยเฉพาะ อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตนั้นเอง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอ้วน นั้นเอง

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการลดน้ำหนักแบบ IF

การลดน้ำหนักแบบ IF ( Intermittent Fasting ) จะเหมาะกับกลุ่มคนที่ ไม่ได้ใช้พลังงานหนักระหว่างวัน มีช่วงเวลาการใช้ชีวิตที่ชัดเจน สามารถควบคุมช่วงเวลาการรับประทานอาหารได้เป็นอย่างดีถึงจะเห็นผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ข้อดีของการลดน้ำหนักแบบ IF
1 สามารถลดน้ำหนักได้ง่ายๆ และยั่งยืน
2 ช่วยชะลอวัยได้ และทำให้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
3 ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ โดยเฉพาะ โรคอ้วน เบาหวาน
4 ลดไขมันได้ดี
5 ระบบการทำงานสมองช่วยให้สามารถจดจำได้ดียิ่งขึ้น

ข้อเสียของการลดน้ำหนักแบบ IF
อาจส่งผลให้ร่างกายของผู้ลดเกิดอาการอ่อนเพลีย หมดแรง อารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่าย น้ำตาลในเลือดต่ำ หรืออาจถึงขั้นเป็นลมได้

สรุป การทำ IF

หากใครเคยหาวิธีลดน้ำหนักมาหลากหลายวิธีแล้วยังไม่เห็นผล ก็ต้องล้มเลิกกลางคัน ผู้เขียนขอแนะนำวิธีการลดน้ำหนักแบบ IF ( Intermittent Fasting ) เนื่องจากทำได้ง่ายไม่ต้องควบคุมแคลอรี ในแต่ละมื้อให้ยุ่งยาก ไม่ต้องออกกำลังกายหนัก หรือแทบไม่ต้องออกเลยก็สามารถลดน้ำหนักได้ แต่การลดของน้ำหนัดนั้นก็ขึ้นอยู่กับระบบเผาผลาญของแต่ละบุคคลด้วย ทางที่ดีควรรับประทานให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายเสริมควบคู่เมื่อน้ำหนักอยู่ในจุดที่คงที่ค่ะ