“แมทภีรนีย์” ยอมรับนอยมาก ปมดราม่าถูกโยงเป็นมื้อที่ 3 “อั้ม-พก” ยืนยันความสัมพันธ์ฝ่ายชาย..เป็นมากกว่าเพื่อน!

ข่าวบันเทิง รายงานเปิดเผยล่าสุด นางเอกสาวหน้าเหวี่ยง แมทภีรนีย์ ยอมรับนอยมาก ภายหลังจากได้รับไปเป็นแขกรับเชิญในรายการดัง พร้อมเล่าเรื่องราวความเป็นมาและความสัมพันธ์กับไฮโซดัง ภายหลังจากที่ถูกโยงเป็นมือที่สามจนลือสนั่นโซเชียลกลายเป็นดราม่าร้อนที่หลายคนจับจ้อง

“แมทภีรนีย์” ยอมรับน้อยมาก ปมดราม่าถูกโยงเป็นมือที่สาม “อั้ม-พก” ยืนยันว่ารู้จักฝ่ายชายก่อน “สงกรานต์” เผยความสัมพันธ์เป็นมากกว่าเพื่อน

แมท-ภีรนีย์ คงไทย ดารานักแสดง ผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “นางเอกหน้าเหวี่ยง” เนื่องจากเคยให้สัมภาษณ์และตอบแบบห้วนๆตามสไตล์ ย้อนกลับไปเมื่อเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้ นางเอกสาวได้ถูกโยงว่าเป็นมือที่สามกล่าวหาว่าเป็นคนที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักซุปตาร์ต้องเลิกลา “อั้มพัชราภา” และ “ไฮโซพก” หรือ ประธานวงศ์ พรประภา จนแฟนคลับและคนใกล้ชิดต้องออกมาปกป้องด้วยความสงสาร ไม่ว่าจะเรื่องอะไรดาราสาวก็ถูกโยงไปกันให้หมด

ภายในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา “แมทภีรนีย์” ได้ไปออกรายการ “แฉ” และมีบางช่วงบางตอนที่เจ้าตัวได้ย้อนเล่ามรสุมชีวิตที่ปะเดปะดังเข้ามาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หรือ ช่วงประมาณปลายปี 2018 ซึ่งปรมดราม่าครั้งนั้นเกี่ยวกับแฟนหนุ่ม “สงกรานต์” เจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึกโชคดีและต้องขอบคุณพวกเขาที่ครอบครัวได้ออกมาปกป้องเธอ ในส่วนของการเลิกราข่าวลือที่ออกมานั้น ไม่เป็นความจริง…แต่เธอก็ไม่ได้เป็นกังวลเนื่องจากสงกรานต์ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้

ในส่วนของ ความสัมพันธ์ ของ “แมทภีรนีย์” กับ “ไฮโซพก” นางเอกสาวยืนยันว่าเธอได้รู้จักกับไฮโซพกก่อนที่จะมารู้จักกับสงกรานต์ที่เป็นแฟนของตัวเองในปัจจุบันนี้ พร้อมกับเปิดเผยว่าเธอได้ไปกินข้าวกับไฮโซพกและแฟนสาวคนก่อนของเขาเป็นประจำ ความสนิทสนมของเธอกับไฮโซพกสามารถใช้คำว่า “แก๊งเดียวกัน”

อย่างไรก็ตามดราม่าที่เกิดขึ้นเจ้าตัวถูกโยงเป็นมื้อที่ 3 เธอก็ได้รับผลกระทบเยอะเหมือนกัน เป็นกังวลใจเรื่องความรู้สึกของฝ่ายหญิง และก็รู้สึกผิดและอยากขอโทษคนรอบข้างที่ต้องมาเดือดร้อนด้วยในความคิดน้อยของเธอ นอกจากนี้เธอสามารถยืนยันและพูดได้ว่า แมทและพี่พก ความสัมพันธ์ของเราสองคนเป็นมากกว่าเพื่อน เพราะพวกเราคือ “พี่น้องกัน” ซึ่งพี่พกจะเรียกเธอว่า “XXแมท” สิ่งที่เธอพูดหรือปัญหาทุกอย่างได้อธิบายไปหมดแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆช่วงที่เป็นข่าวก็รู้สึกน้อยใจและน้อยมาก