แนะนำ 15 ที่เที่ยวฟุกุโอกะ Fukuoka City สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลก

15 ที่เที่ยวฟุกุโอกะ Fukuoka City ขอเชิญพบกับจุดเช็กอินสุดฮอตยอดฮิต แห่งเมืองหลวงแห่งคิวชู สถานที่ท่องเที่ยว ยอดนิยมของคนทั่วโลก บอกเลยใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวไปพักผ่อนหย่อนใจนั้นต้องห้ามพลาดแวะเข้ามารับชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไหหยิบไปยกมาให้ทุกคนได้ดูในวันนี้พร้อมกันที่ด้านล่างก่อน

15 ที่เที่ยวฟุกุโอกะ จุดเช็กอินยอดฮิต เมืองหลวงแห่งคิวชู

Fukuoka City คือหนึ่งในเมืองน่าเที่ยวมากๆของ ญี่ปุ่น ที่กำลังฮอตมากๆ เพราะนอกจากจะเป็นที่รวบรวมทุกอย่างที่น่าเที่ยว Kyushu แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อย่าง 15 ที่เที่ยวฟุกุโอกะ ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกคนในวันนี้ บอกเลยว่าครบรสทุกสไตล์ มีเสน่ห์ทุกมุม ต้องไปเช็กอินให้ได้เลย

1. Fukuoka Castle Ruin and Maizuru Park ซากปราสาทฟูกุโอกะและสวนมาอิซูรุ

เศษปราสาท Fukuoka และสวน Maizuru เป็นที่อยู่ของปราสาท Fukuoka หรือตัวอย่างของสถาปัตยกรรมในสมัยศตวรรษที่ 17 ที่สมบูรณ์มากที่สุดอีกหนึ่งที่ในโลกใบนี้ ในอดีตเคยเป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค Kyushu แต่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงซากของกำแพง และหอคอยปราสาทเพียงเท่านั้น

ส่วนพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกันนั้นคือที่ตั้งของสวนมาอิซูรุ (Maizuru Park) สวนสาธารณะขนาดมหึมา ที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น ที่จะพร้อมใจกันเบ่งบายให้สวยงาม เปลี่ยนทั่วทั้งสวนให้กลายเป็นสีชมพูในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

2. Fukuoka Tower ฟุกุโอกะ ทาวเวอร์

ฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower 福岡タワー) Landmark แห่งฟุกุโอกะที่ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1989 ด้วยความสูง 234 เมตร ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวฮากะตะ (Hakata Bay) และสถานที่แห่งนี้นั้นคือตึกริมทะเลที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ด้านบนจะเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวเมือง Fukuoka และอ่าว Hakata จัดเต็มแบบ 360 องศา สวยสุดๆ โดยเฉพาะยามค่ำคืน

3. Kawachi Fuji Garden สวนคาวาชิ ฟูจิ

สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่เที่ยวกลางอุโมงค์ Wisteria สุดสวยชวนหลงไหลที่ สวนคาวาชิ ฟูจิ (Kawachi Fuji Garden 河内藤園) ซึ่งตั้งอยู่ใน เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka Prefecture) สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม

ซึ่งเป็นช่วงเวลาของ Wisteria Festival เทศกาลชม ดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ที่มีมากกว่า 150 ต้นและมากกว่า 20 สายพันธุ์ เบ่งบานสวยงามออกมาในพื้นที่ทั้งหมด 10,000 ตารางเมตร บอกเลยเป็นสถานที่เที่ยวที่สวยอลังการมาก เตรียมชุดสวยๆ ไปถ่ายรูปได้เลย

4. Uminonakamichi Seaside Park สวนริมทะเลอุมิโนะนาคามิจิ

ขอเชิญทุกคนไปชมความสดใสของดอกไม้มากสีที่ สวนริมทะเลอุมิโนะนาคามิจิ (Uminonakamichi Seaside Park 海の中道海浜公園) หนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในตัวเมืองฟุกุโอกะที่คนมาเยี่ยมเยือนมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะนอกจากจะได้ชมต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นออกดอกบานสะพรั่งแล้ว

แถมว่ายังมี ดอกเนโมฟีลาสีฟ้า เบ่งบานตัดสีกันอย่างสุดใสสุดละลานตา นอกจากนี้ยังมีดอกทิวลิปหลากสีเพิ่มความมีชีวิตชีวามากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว จะมองไปทางไหนก็มีแต่ความสดชื่นสบายตา ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เตรียมเก็บกระเป๋าบินเที่ยวได้เลย

5. Dazaifu Tenmangu Shrine ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู

ใครที่มีโอกาสมาญี่ปุ่นต้องห้ามพลาดแวะมากราบไหว้ขอพรเทพเจ้าแห่งการศึกษาที่ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine 太宰府天満宮) เพราะเป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มากมายและนิยมไปขอพรอยู่เป็นประจำ บอกเลยทที่แห่งนี้สายเที่ยวต้องไปให้ได้ Sugawara no Michizane นักวิชาการนักการเมือง

และนักเขียนที่ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปี ค.ศ. 800 – 900 จึงได้รับการเชิดชูจากชาวญี่ปุ่นให้เป็น เทพเจ้าแห่งการศึกษา ภายในศาลเจ้า นอกจากจะมี สะพานไทโคบาชิ สะพานข้ามสระน้ำสีแดงรูปหัวใจท่ามกลางสวนญี่ปุ่นร่มรื่นแล้ว เป็นจุดชมดอกบ๊วยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วยค่ะ

6. Miyajidake Shrine ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ

พาทุกคนไปชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินที่แสนสวยงาม อยู่ที่หน้าศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine 宮地嶽神社) ศาลเจ้าเก่าแก่ของศาสนา Shinto ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าทั้งหมด 8 แห่ง บริเวณด้านหน้าของอาคารศาลเจ้าหลักจะมี

เชือกชิเมะนะวะ ขนาดใหญ่ประดับเอาไว้ ในยามเย็น และถ้าหากมองลงมาจากบันไดที่ด้านบนศาลเจ้า เราจะได้ฟิวมองเห็นพระอาทิตย์อัสดงสาด ที่สาดส่องแสงสีส้มลงบนอาคารบ้านเรือนในฟุกุโอกะ และท้องทะเล สวยจับใจราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด

7. Tochoji Temple วัดโทโชจิ

วัดโทโชจิ (Tochoji Temple 東長寺) ตั้งอยู่ในแถวเมืองเก่า Hakata เป็นหนึ่งในวัดที่อยู่มานานมากที่สุดในญี่ปุ่น ก่อตั้งในช่วงปี ค.ศ. 806 ภายในวัดมีอาคารเก่าแก่ ทั้งวิหาร และเจดีย์สูง รวมถึงเป็นที่ประดิษฐาน พระใหญ่แห่งฟูกุโอกะ (Fukuoka Daibutsu) พระพุทธรูปที่ทำจากไม้สนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความสูง 10.6 เมตร

8. Nanzoin Temple วัดนันโซอิน

วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple 南蔵院 篠栗四国霊場 第一番札所) เป็นหนึ่งในวัดยอดนิยมของผู้คนทั่วโลกที่เคยมาเยือนญี่ปุ่น แห่งจังหวัดฟุกุโอกะ ที่ยู่ไม่ไกลจากเมืองฟุกุโอกะประมาณ 15 กิโลเมตร เพราะว่าเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสวยงามและยิ่งใหญ่จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่าหนึ่งล้านคนต่อปีเลยทีเดียว

9. TeamLab Forest Fukuoka พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลทีมแล็บ ฟอเรสต์ ฟุกุโอกะ

เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ (TeamLab Forest Fukuoka) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่พาเราไปท้าทายและไปดูผืนป่าต้องมนต์ ที่เปล่งประกายด้วยจากเทคโนโลยีแสงสีเสียงสุดล้ำ ระเบิดจินตนาการให้เต็มที่ และสนุกสนานไปกับการถ่ายรูป และชมผลงานสร้างสรรค์การหมุนเวียนที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลของปี

10. Fukuoka Art Museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟุกุโอกะ

ใครที่อยากได้แรงบันดาลใจใหม่ๆดีๆนั้นขอแนะนำให้เดินทางมาเที่ยวที่  (Fukuoka Art Museum) Museum ที่รวบรวมผลงานศิลปะแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรม งานฝีมือ ตลอดไปจนถึงภาพพิมพ์ทั้งสมัยเก่าและสมัยใหม่ จากญี่ปุ่น เกาหลี จีน และทางตะวันตก

โดยมีจุดเด่นจุดดึงนักท่องเที่ยวที่เป็นผลงานจาก Salvador Dalí และ Andy Warhol รวมถึง ฟักทองลาย polka dots ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ Yayoi Kusama หนึ่งในศิลปินสมัยใหม่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดแห่งยุค บอกเลยใครที่ชอบอะไรแบบนี้ต้องห้ามพลาดมาเที่ยวที่นี่ให้ได้

11. Ohori Park สวนโอโฮริ

สวนโอโฮริ (Ohori Park 大濠公園) ตั้งอยู่ใกล้ๆ Fukuoka Art Museum หนึ่งในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงบรรยากาศแสนสดใสห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และพรรณไม้นานาชนิด สวยร่มรื่นตลอดทุกฤดูกาล โดดเด่นด้วยศาลาชมวิวสีแดงที่ยื่นออกไปยังกลางน้ำ นั่งพักผ่อนเพลินๆ หรือจะไปเดินเล่น ออกกำลังกายรอบสวนสาธารณะก็ได้เช่นกัน

12. Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA เที่ยวญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ Lalaport shopping center

Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA (ららぽーと福岡) สถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหาร และโซนกิจกรรมม่วนๆ เอาไว้มากมาย ที่สำคัญยังมีรูปปั้น RX-93ffν Gundam ขนาดใหญ่เท่าตัวจริงตั้งโดดเด่นอยู่ด้านหน้า ใครที่เป็นแฟนกันดั้มต้องไม่พลาด เพราะที่นี่รวมของสะสมเกี่ยวกับกันดั้มรุ่นหายากเอาไว้หมดแล้ว

13. Kyushu National Museum พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู

Museum แห่งชาติคิวชู (Kyushu National Museum 九州国立博物館) เปิดให้เข้าชมเมื่อปี ค.ศ. 2005 มีจุดเด่นด้ที่รูปแบบสถาปัตยกรรมทันสมัย ภายในอาคารเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะและโบราณวัตถุเก่าแก่ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของเกาะคิวชู นอกจากโซนนิทรรศการแล้ว ยังมีโซนคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกด้วยเช่นกัน

14. Sakurai Futamigaura หินคู่แต่งงาน ซากุระอิ ฟุตะมิกะอุระ

มาต่อกันที่จุดเช็คอินยอดนิยมของคนที่มีความรัก ซากุระอิ ฟุตะมิกะอุระ (Sakurai Futamigaura 桜井二見ヶ浦 夫婦岩) ใครที่มาญี่ปุ่นบอกว่าไม่ควรพลาด โดยเฉพาะทิวทัศน์ในยามเย็น ที่ดวงอาทิตย์จะตกลงมาอยู่ระหว่างหินคู่สามีภรรยา ซึ่งมีลักษณะเป็นหินสองก้อนผูกติดกันด้วยเชือก ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าหากได้มาขอพรเรื่องความรักกับหินคู่นี้แล้ว ก็จะได้สละโสดเด่อ

15. Ainoshima Island เกาะแมว อาอิโนะชิมะ

ใครที่เป็นทาสแมวบอกเลยว่าต้องแวะมาเที่ยว Ainoshima Island (相島) เกาะเล็กๆ ในจังหวัดฟุกุโอกะ ที่มีรูปร่างเหมือนกับรูปหัวใจ ที่กลุ่มของเจ้าแมวเหมียวมากกว่าหนึ่งร้อยตัว! เพียงแค่เดินลงมาจากท่าเรือ เราก็จะเห็นเจ้าเหมียวเดินไปเดินมา หรือนั่งอยู่ตามจุดต่างๆ รอบเมือง

บอกเลยงานนี้ถูกใจทาสแมวมากมายอย่างแน่นอน แถมยังมีคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกให้เราได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย นับเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และน่ารักมากๆ แห่งหนึ่งเลยค่ะ