ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ออกเผย ปรับขึ้นราคาค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก

ข่าวเศรษฐกิจ ข่าววันนี้ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี ปรับขึ้นราคาค่าทางด่วน โดย นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าฯ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองว่าจะมีผลเริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป

ตั้งแต่ 15 ธ.ค. 64 ปรับขึ้นราคาค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก 65-150 บาท  ตามสัญญาสัมปทาน ปรับทุก 5 ปี

รายงาน รายละเอียด ปรับขึ้นราคาค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทั้งนี้เป็นการลงมติจาก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด มหาชน (BEM) ให้มีการปรับขึ้นราคา และการปรับนั้นจะมีทุกๆ 5 ปี ตามใบสัญญาที่ทำไว้กับสัมปทาน และปีนี้จะเริ่มเก็บราคาใหม่ในวันที่ 15 ธ.ค. 64

อัตราการปรับขึ้นราคาของรถแต่ละชนิด

1.รถ 4 ล้อ จากเดิมราคา 50 บาท เปลี่ยนเป็นราคา 65 บาท ปรับขึ้นมา 15 บาท

2.รถบรรทุก 6-10 ล้อ จากเดิมราคา 80 บาท เปลี่ยนราคาเป็น 105 บาท ซึ่งจะมีราคาเพิ่มขึ้นมาอีก 25 บาท

3.รถบรรทุกพ่วงหรือรถที่มีมากกว่า 10 ล้อ เดิมราคา 115 บาท เปลี่ยนราคาเป็น 150 บาท ขึ้นมา 35 บาท

ทั้งนี้ ทางด้านกระทรวงคมนาคมได้รับรู้การปรับราคาค่าทางด่วนพิเศษดังกล่าว จึงได้มีความห่วงใยถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เนื่องจากเกรงว่าการปรับราคาเก็บค่าทางด่วนที่ว่าจะไปเพิ่มความเดือดร้อนแก่ประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 จึงได้มีการประสานงานไปที่ฝ่ายบริหารของ กทพ. ให้รีบดำเนินการเข้าไปปรึกษาหารือกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด มหาชน เพื่อหาทางออกในการช่วยประชาชนบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบของการปรับราคาค่าทางในครั้งนี้

นายสุรเชษฐ ผู้ว่าการ กทพ. ได้เข้าร่วมพูดคุยกับทาง บริษัท (BEM) เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 64 และทาง (BEM) ก็ได้ให้ความร่วมมือและคิดนโยบายจัดเคมเปญสำหรับค่าผ่านทางในราคาพิเศษ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเยียวยาประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และในสัปดาห์ที่จะถึงจะมีการนัดคุยหารือกันอีกครั้ง และคาดว่าในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ถึงจะได้ผลสรุป

15 ธันวาคม 2564 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อย่างไรก็ตามก็คงต้องมีการปรับขึ้นราคาค่าผ่านทาง เนื่องจากเราเคยมีบทเรียนมาก่อนแล้ว เพราะรัฐบาลจะต้องแข็งขืนไม่ยอมทำตามที่เคยลงสัญญากับสัมปทานจนถูกฟ้องร้องเป็นค่าความโง่ ทั้งนี้ หนักใจมากที่จะต้องมีการพูดคุยและขอให้ทางเอกชนได้รับผลกระทบด้วยจากโควิด และบริษัท BEM ก็ได้ชี้ว่าได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะเมื่อคิดเป็นรายวัน มีรถขึ้นผ่านทางราว 5 หมื่นคัน จากปกติเดิมทีมีการผ่านทาง 8 หมื่นคัน BEM ได้ส่งรายละเอียดการขึ้นราคามาแล้ว กทพ.ก็พูดคุยช่วยได้แค่ให้ BEM มีการจัดราคาเคมเปญ เพราะเข้าใจว่าทางเอกชนก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกันกับประชาชน พร้อมกันนี้ BEM ได้เสนอจ่ายเงินชดเชยจำนวน 50% หลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ร้องต่อ กทพ.ควรให้การเยียวยากับภาคเอกชนเหมือนกับหน่วยงานอื่นด้วย