ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานการกลับมาของ “ยันตระ” อดีตพระชื่อดัง พระรูปงามที่ชอบสวมใส่จีวรสีเขียว หลังจากบินตรงจากอเมริกาเพื่อกลับมาฉลองวันเกิดที่ประเทศไทย
“ยันตระ” อดีตพระชื่อดัง พระรูปงาม บินตรงจากอเมริกากลับฉลองวันเกิด 70 ปี พส.และลูกศิษย์ ร่วมกราบไหว้
“ยันตระ” อดีตพระชื่อดัง กลับมาแล้วหลังเคยเป็นข่าวดังเสพเมถุนกับสีกาจนท้องแล้วถูกจับสึก ก่อนจะหนีหายไปอยู่อเมริกา ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว2” ออกมาโพสต์เผยว่า “อดีตพระยันตระทำพิธีครบรอบอายุ 70 ปี มีเหล่า พส ที่เลื่อมใสเข้าร่วมงานกันคับคั่งก่อนกลับได้ก้มกราบขอพรและถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก แปลกดีเรื่องแบบนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับเพิกเฉยไม่วิ่งหาแสง”
ทั้งนี้ ได้มีการเผยภาพอดีตพระยันตระที่กำลังนั่งเป็นประธานในพิธีและมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งก้มกราบไหว้ พร้อมร่วมกันถ่ายรูป จากโพสต์ดังกล่าวทำให้เกิดมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ ซึ่งออกแนวโจมตีไปทางสำนักพุทธทำนองว่า สมควรแล้วเหรอพอมีเหตุแบบนี้ทำไหมสำนักพุทธไม่ไปจัดการหรือจ่อแต่จับผิด 2 พส.มหาคนดังเท่านั้น
“ตาย ๆๆๆ จนป่านนี้ยังมีคนนับถือมันอีกหรือเนี่ย เมื่อราวๆ สามสิบปีก่อน สมัยที่มันโด่งดังถึงขีดสุด มีแต่คนเลื่อมใสงมงาย เราเคยเดินไปส่งคนพิการให้ไปนั่งด้านหน้า ใกล้ๆ กับที่มันกำลังสวดมนต์อยู่ในงานอะไรสักอย่าง แอบหันไปมองมัน เพราะมีโอกาสได้เห็นใกล้ๆ ปรากฎว่าสบตากันอย่างจังเลยจ้าา มันกำลังจ้องเราตาเป็นมัน เรางี้สะดุ้งเฮือก.. ได้แต่ร้องในใจ เฮ้ย นั่นพระนะโว้ย ทำไมมองเราเหมือนอยากจะฟันได้ขนาดนั้น คือผู้หญิงจะมีสัญชาตญาณนะ เวลาโดนผู้ชายมองแบบหื่นๆ”
“สำนักพุทธว่าไง หรือจะเล่นงานแค่พระหัวเราะ”
“ทีพส.ไลฟ์สดเข้าหาอุบาสก อุบาสิกา เรียกหาได้ดี๊ดี หาช่องโหว่จะปลดพส.ให้ได้ สังคมดัดจริตคิดวิเคราะห์ไม่เป็น”
“โอ้ววว พระทำไมกราบคนไม่ใช่พระ แล้วจะเป็นพระเพื่อ??”
“สำนักงานพุทธ ว่าไงค่ะ ฮัลโหล”
เมื่อย้อนกลับไป อดีตพระยันตระที่นับว่าเป็นพระรูปงามหนึ่งรูปไปไม่มีสัมพันธ์กับสีกาจนฝ่ายผู้หญิงท้อง แต่เมื่อกลายเป็นข่าวดังพระยันตระก็ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด และครั้งนั้นก็ได้เดินทางไปอยู่ที่อเมริกา ขณะเดียวกันนั้นก็มีนักข่าวจากช่องดังตามไปทำข่าวพระยันตระถึงอเมริกา จนสุดท้ายตามไปเจออดีตพระยันตระเข้าไปรับบริการสถานบริการและเหตุนี้ทำให้อดีตพระยันตระไม่ปฏิเสธเพราะถูกจำนนด้วยหลักฐาน
ในอดีต ยันตระถูกรู้จักกันในนาม “จิ้งเขียว” เพราะจะมีการสวมใส่จีวรสีเขียวมาโดยตลอด และในการเดินทางกลับไทยในครั้งนี้ยันตระได้เดินทางไปพักอาศัยที่อาศรมเกพลิตาโพธิวิหาร ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 64 ซึ่งมีกำหนดการมาพักเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ทั้งนี้ได้มีบรรดาเหล่าลูกศิษย์ห่มขาวหุงขาวมาต้อนรับ พระยันตระได้ขึ้นเทศสอนลูกศิษย์ที่มาต้อนรับซึ่งยังสั่งสอนตามหลักศาสนาพร้อมแจกจ่ายหนังสือธรรมะและยาหม่อง และมีกำหนดกลับอเมริกาในวันที่ 27 ต.ค. 64
คำพูดช่วงหนึ่งของยันตระขณะที่เทศน์สั่งสอนลูกศิษย์ “เสียดสีกันต่อเนื่อง ไฟก็ลุกเป็นประกายเกิดขึ้น เราสามารถได้เชื้อเพลิงจากไฟที่สีกัน ความเพียรที่เราเพียรต่อเนื่องก็จะเกิดผลในที่สุด แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่ใช่ทำๆหยุดๆ ทำอยู่เสมอบ่อยๆ ถ้าสีๆหยุดๆมันก็ไม่เกิดประกายไฟและในขณะนั้นก็ขอให้เราได้มีกำลังกายกำลังใจ มีความเพียรมีความอดทนไปจนถึงที่สุด ”
หนึ่งในลูกศิษย์ของอดีตพระยันตระ นายวี ได้ออกมากล่าวว่า ตนในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งของพระอาจารย์ยันตระยังเคารพนับถือท่านเหมือนเดิมมาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว สำหรับตนแล้วท่านคือพระสงฆ์รูปหนึ่งเพียงแต่ท่านมีการแต่งกายที่ต่างออกไปเท่านั้น สังคมควรเปิดใจให้กว้างกว่านี้และมองเพียงธรรมะของท่านที่สอนเป็นธรรมชาติ พระอาจารย์มีการแสดงธรรมะสอนทั้งคนไทยและต่างชาติให้เข้าใจได้โดยง่าย ส่วนเรื่องในอดีตคิดว่าสื่อมวลชนอาจจะมีการนำเสนอข่าวไม่ครบทุกด้านทำให้เกิดความเข้าใจผิด ตนอยากให้มีความเป็นธรรมกับพระอาจารย์ยันตระมากกว่านี้
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์