ข่าวต่างประเทศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 จากการรายงานทำให้ญี่ปุ่น อึ้งทั้งประเทศ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ หลังจากมารู้ความจริงของการใช้น้ำในชีวิตประจำวันที่ผ่านมาตลอดหลายสิบปีเป็นน้ำที่ต่อท่อน้ำสำหรับใช้กับส้วม
อึ้งทั้งประเทศ คนเจอเรื่องจริงตลอด 28 ปีที่ผ่านมา คนให้โรงพยาบาล ดื่ม-กิน-ใช้ น้ำที่ต่อท่อที่ต้องใช้ในส้วม ทั้งนี้ได้ จนท.ชี้น้ำดังกล่าวปลอดภัย
นับเป็นอีกเรื่องที่ฮือฮาเป็นวงกว้างในญี่ปุ่น อึ้งทั้งประเทศ เนื่องจากโรงพยาบาลดังแห่งหนึ่งต่อท่อผิด โดยปกติน้ำใช้ดื่มกินและน้ำที่ใช้สำหรับห้องส้วมต้องแยกท่อกันชัดเจน ทั้งนี้เรื่องราวไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นคือท่อที่ควรต่อน้ำสำหรับดื่มช่างดันไปต่อผิดไปเชื่อมยังน้ำที่ต้องให้สำหรับห้องส้วม แต่น้ำที่ใช้สำหรับห้องส้วมก็ไม่ควรที่จะนำมาดื่มกิน หรือ แปรงฟัน บ้วนปาก
จากการรายงานของสำนักข่าวโนมิอุริ ชิมบุน ได้ออกมารายงานตั้งแต่เมื่อ 20 ต.ค. 64 เดือนที่ผ่านมา ทางด้านผู้บริหาร ม.โอซาก้า ได้ออกมาแถลงเพื่อเป็นการยืนยันว่าท่อน้ำที่ถูกเชื่อต่อผิดจนทำให้คนในโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในโรงพยาบาลต้องใช้จ่ายน้ำสำหรับห้องส้วมกินดื่มในชีวิตประจำวัน ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา จากการตรวจสอบในเบื้องต้นมีก๊อกน้ำที่เชื่อมต่อผิดเป็นจำนวน 120 ตัว
เมื่อปี 2536 โรงพยาบาลได้เปิดให้บริการเป็นครั้งแรก ซึ่งการวางระบบน้ำตามปกติแล้ว สำหรับน้ำที่ใช้ดื่มกินแต่สลับเชื่อมต่อผิดเป็นน้ำที่ใช้ในห้องสุขา ทำให้ประชาชนและเจ้าพนักงานใช้น้ำผิดท่อเรื่อยมาเป็นเวลา 28 ปี
ทั้งนี้ ระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าเจ้าหน้าที่หรือผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาล ต้องมีการใช้น้ำที่ควรจะใช้ในห้องน้ำแทนน้ำที่เหมาะกับการใช้ดื่มกินเพราะเกิดขึ้นจากสาเหตุมาตั้งแต่การก่อสร้างโดยช่างผู้รับเหมา
ล่าสุด หลังจากเรื่องราวได้ถูกเปิดเผยขึ้นเจ้าหน้าที่ของมหาลัยได้เร่งตรวจสอบเกี่ยวกับคุณภาพน้ำทั้งหมด เช่น กลิ่น รสชาติ โดยการตรวจสอบจะทำเป็นประจำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และให้การยืนยันสำหรับการใช้น้ำในช่วงที่ผ่านมาที่มาจากน้ำที่สลับท่อผิดนั้นจะไม่ส่งผลที่เป้นอันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามผู้อำนวยการของ ม.โอซาก้า พร้อมคณะได้ออกมาแถลงข่าวและได้ทำการโค้งคำนับเพื่อเป็นการขอโทษโดยพร้อมเพียงกัน และได้กล่าวต่อสื่อสารมวลชนไว้ว่า ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เกิดขึ้นไม่คาดฝันนี้ขึ้น รพ.ของ ม.โอซาก้า แม้เรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นทำให้ต้องมีการตรวจสอบน้ำ แต่ก็ต้องยอมรับโดยตรงว่าน้ำที่ผู้ป่วยและพนักงานดื่มนั้นแม้จะปลอดภัยก็ไม่สามารถที่จะพูดได้เต็มปาก
ผู้อำนวยการยังได้บอกอีกว่า อาคารจำนวนกว่า 105 แห่ง ที่ตั้งอยู่ภายในมหาลัย ทั้งหมดที่การวางระบบการวางท่อน้ำบาดาลเพื่อใช้งานต่อเชื่อมกับก๊อกน้ำใช้ดื่มกิน ในตึกอาคารอื่นก็จะดำเนินการตรวจสอบโดยละเอียดในระยะต่อไป
ในส่วนของประชาชนก็ได้มีการออกมาแชร์และแสดงความคิดเห็นเป็นส่วนใหญ่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความผิดที่เกิดจากการทำงานของมหาลัยหรือโรงพยาบาล แต่เรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดขึ้นจากช่างที่มารับเหมาก่อสร้าง
ขอบคุณที่มา: ladbible
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์