8 เรื่องราวสุดแสนประหลาด ที่สร้างความฮือฮา ภายในปี 2556 มีเรื่องใดบ้าง มาดูกันเลย

เรื่องลึกลับ ในปีที่ผ่านมาได้มี เรื่องราวสุดแสนประหลาด ที่เป็นข่าวอีกทั้งยังเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย แต่ที่เห็นเด่นๆ ก็จะเป็นเรื่องราวสุดแปลกประหลาดที่หลายๆคนได้ฟังก็ต้องช็อกกันไปตามๆกัน โดยที่ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวเหล่านั้นได้เกิดขึ้นจริงๆ

8 เรื่องราวสุดแสนประหลาด ที่สร้างความฮือฮา

1. เด็กหญิงเม็กซิโก 9 ขวบ คลอดลูกสาว

นี่เป็นอีกคำถามหนึ่งที่ทำให้โลกตะลึง สำหรับเด็กหญิงดาฟเน่ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2556 เด็กสาวเม็กซิโกวัย 9 ขวบ ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรในวันที่ 27 มกราคม 2556 ก่อนที่ทางการจะเริ่มการสอบสวนผู้ต้องสงสัย สันนิษฐานว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัย 17 ปี เป็นกระแสที่มีการถกเถียงกันไปทั่วทุกมุมโลกว่าเด็กวัย 9 ขวบ สามารถที่จะตั้งครรภ์ได้ยังไง เนื่องจากมีร่างกายของสาวน้อยรายนี้ไม่น่าจะอยู่ในสภาพที่เหมาะแก่การตั้งครรภ์

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 แพทย์ชี้แจงว่าเด็กหญิงอายุ 9 ขวบที่คลอดบุตรนั้นแท้จริงแล้วอายุได้ 15 ปี เนื่องจากเหตุผลทางร่างกาย ความจริงก็ปรากฏ มีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างจากผู้เยาว์ ดูจากการพิจารณาแล้วดูเหมือนเด็กสาววัย 15 ปี แท้ที่จริงแล้วเป็นพ่อเลี้ยงที่เป็นคนข่มขืนเธอ

2. เจ้าบ่าว 8 ขวบ แต่งเจ้าสาวคราวยายวัย 61 ทั้งแลกแหวน-จุมพิต

นี่เป็นปัญหาที่ระเบิดไปทั่วโลก สำหรับงานแต่งงานสุดแปลกที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ระหว่าง ซาเนล มาซิเลลา เด็กชายในแอฟริกาใต้ เจ้าบ่าวอายุ 8 ขวบ และเฮเลน ชาบังกู เจ้าสาววัย 61 ปี แม้ว่าเจ้าสาวจะแต่งงานแล้วและมีลูกห้าคนอายุ 27-37 ปี ทั้งสองไม่ได้แต่งงานกันเพราะตกหลุมรักกัน แต่จริงๆ แล้วพวกเขาแต่งงานกันเพื่อแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษของพวกเขา หรือปู่ของ Zanel Masilela เด็กชายที่ไม่เคยมีโอกาสได้แต่งงาน จึงส่งมอบความรับผิดชอบให้หลานชายตัวน้อยและเจ้าสาวก็ได้รับคัดเลือกให้มาดูแล นี่คือ นางเฮเลน เพราะเธอคือคนที่ปู่ชอบ

เจ้าบ่าววัยรุ่นตื่นเต้นมากเกี่ยวกับงานแต่งงานและบอกว่าเขามีความสุขมากที่ได้ทำตามความปรารถนาของปู่ของเขา ในฐานะผู้ใหญ่ เขาจะแต่งงานกับเจ้าสาวในวัยเดียวกันอย่างแน่นอน

3. ฮือฮา ! ทารกประหลาดจมูกคล้ายงวงช้าง ถือกำเนิดในอียิปต์

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2556 หลังจากวิดีโอถูกปล่อยออกมาก็สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก คลิปหนึ่งเผยว่าเด็กทารกเกิดมาพร้อมกับภาวะทุพโภชนาการ ไม่มีปาก ตายื่น ไม่มีคิ้ว จมูกสั้นเหมือนช้าง ซึ่งอยู่ตำแหน่งตรงกลางของตาทั้ง 2 ข้าง ผิวหนังมีลักษณะแห้ง คล้ายกับเด็กดักแด้ แต่เด็กน้อยคนนี้มีแขนขาที่สมบูรณ์เช่นเดียวกับเด็กทั่วไป สายสะดือเด็กทารกรายนี้ยังคงไม่ถูกตัดออก

อย่างไรก็ตาม ทารกมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตในไม่ช้าหลังคลอด ในขณะเดียวกัน ก็ได้รับความสนใจจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย คนส่วนใหญ่รู้สึกสงสารและเห็นใจเด็กน้อยคนนี้ เพราะหากรอดมาได้ เขาจะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นสัตว์ประหลาดไปตลอดชีวิต

4. อึ้ง ! เด็กญี่ปุ่นสุดฮิต เลียลูกตา เผยเป็นการแสดงความรัก

เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ไม่หวือหวาและน่าขนลุก เลียตาเพื่อแสดงความรักต่อเด็กนักเรียนญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ครูประถมคนหนึ่งได้เปิดเผยเรื่องนี้ผ่านบล็อกส่วนตัวของเขา หลังจากที่เธอบังเอิญไปพบกับนักเรียนชั้น ป.6 สองคนที่กำลังเลียตาของกันและกัน ผู้คนเชื่อว่าพฤติกรรมนี้เป็นการแสดงความรักที่ลึกซึ้งกว่าการจูบ แทบไม่น่าเชื่อว่ากระแสนี้เป็นที่นิยมมากจนเด็กตาแดงกระทั่งต้องปิดตามาโรงเรียนกันเลยทีเดียว

สำหรับการเลียตาหรือลูกตาหรือหนอน มันคือรูปแบบหนึ่งของภาพลามกอนาจาร ฉากนี้สามารถเห็นได้ในภาพยนตร์ลามก การ์ตูนลามก หรือการ์ตูนอีโรติกบางเรื่อง

5. ญี่ปุ่นผุดสูตรความงามมาส์กหน้าด้วยหอยทาก-ขี้นก

หอยทาก ครีม หลบไป! หากคุณเคยพบเห็นมาส์กสูตรลับความงามของญี่ปุ่นที่ใช้ “หอยทาก” ที่มีชีวิตคลานบนใบหน้าของคุณเป็นรอยย่น ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะสปานี้เชื่อว่าเมือกหอยทากจะช่วยฟื้นฟูผิวหน้า และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายออกไปนอกจากนี้ยังมีโปรตีน กรดไฮยาลูโรนิกต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2556 เว็บ “The Telegraph” รายงานว่าบริการดังกล่าวเป็นบริการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวที่สปาในเขตโตเกียวของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่จะให้ลูกค้านอนลงยังพื้นที่ ที่ได้เตรียมไว้ จากนั้นจะมีการนำ Snail 3 ตัว หน้าลูกค้า ปล่อยให้คลานช้าๆ บนใบหน้า แล้วปล่อยเมือกเหนียวๆ บนพื้นผิวคลานออกมาประมาณ 60 นาที

สำหรับเชื้อโรคต่างๆ ลูกค้าไม่ต้องกังวลใจไป เพราะหอยทากพวกนี้เป็นหอยทากที่เพาะพันธุ์มาเพื่อการดูแลผิวโดยเฉพาะ พวกเขากินผักเช่นแครอท ผักโขม และผักใบเขียว ราคาค่อนข้างแพง โดยราคาจะอยู่ที่คอร์สละ 8,000 บาท

สปา Snail ในญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ยังมีบริการหน้ากากแบบแปลกๆ อีกด้วย คือบริการมาส์กในชิซูกะ นิวยอร์ก ใจกลางแมนฮัตตัน เรื่องนี้ถูกเปิดโดยผู้หญิงญี่ปุ่นที่แต่งงานกับชายชาวอเมริกัน หน้ากากนี้ใช้อุจจาระไนติงเกลผสมกับรำข้าว ทำให้ใบหน้าดูกระชับและนุ่มขึ้น และช่วยขจัด keratinocytes นี่คือความลับของความงามแบบญี่ปุ่นที่เก็บรักษาไว้มากว่า 400 ปี โดยเฉพาะเกอิชาและนักแสดงชาวญี่ปุ่น ส่วนค่าบริการก็แพงมาก เฉลี่ยเวลา 5,400 บาท

6. สาวจีนถูกงูในโหลยาดองฉก หลังดองนาน 3 เดือน

ถ้าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ งูตัวนี้มีพิษร้ายแรงมาก มันถูกเก็บไว้ในถ้ำเป็นเวลา 3 เดือน แต่มันไม่ตาย นอกจากนี้ยังคว้าตัวหญิงชาวจีนชื่อหลิวจากซวงเฉิงด้วย มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน เมื่อเธอเปิดโถและเทสิ่งของลงไป ตามความเชื่อของจีน ความเจ็บปวดนั้นหายขาดจนกระทั่งเธอได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2556

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้หญิงคนนี้ เธอโชคดี เพราะเธอไม่ได้รับบาดเจ็บถึงตาย อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่งูในโถของย่าตงยังมีชีวิตอยู่และกำลังกัดอยู่ จนบางคนถึงกับเสียชีวิต

7. แพทย์จีนปลูกจมูกคนไข้บนหน้าผาก รอแปะกลับที่เดิมเร็วนี้

ความก้าวหน้าทางการแพทย์ยิ่งนานวันไปยิ่งมีก้าวไกลและทันสมัย จนในขณะนี้เราสามารถที่จะทำการปลูกถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วย ซึ่งเสี่ยวเหลียน หนุ่มจีนวัย 22 ปี จากฝูโจ มณฑลฝูเจี้ยน เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2556 เว็บไซต์ New York Daily News เผยเรื่องราวของเสี่ยวเหลียน ซึ่งได้ประสบอุบัติเหตุ ต่อมาจมูกของเขาติดเชื้อและจะต้องทำการผ่าตัดจมูกออก โดยแพทย์ได้มีการนำเอากระดูกอ่อนตรงซี่โครงมาเพื่อจะทำเป็นทรงจมูกใหม่ พร้อมกับได้มีการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อผัวหนัง ตรงหน้าผาก ก่อนจะมีการดำเนินการผ่าตัดทำจมูกใหม่ให้สมบูรณ์ในเร็ววันนี้

8. ดวงตาศิลปะ หนุ่มอาเจนฯ วาดภาพด้วยการพ่นสีออกมาทางตา !

เมื่อวัน 3 ต.ค. 2556 เว็บไซต์ Daily Mail ได้มีการเปิดเผยเรื่องสุดประหลาดใจของ ลีแอนโดร กรานาโต ชาวอาร์เจนตินา วัย 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้มีการค้นเจอความสามารถพิเศษ ด้วยการสร้างสรรค์ศิลปะขึ้นมาด้วยการพ่นสีปรี๊ด ๆ ให้ออกจากดวงตาได้ ซึ่งเขาได้มีการค้นพบว่าสามารถที่จะทำเช่นนี้ได้ตั้งแต่ยังเด็ก เขามีความรู้สึกว่าจมูกกับดวงตาของเขามีความเชื่อมโยงกัน เมื่อเขาโตขึ้นก็ได้ทราบว่า การที่เขาสูดหายใจเข้าหรือเอาของเหลวเข้าไปภายในจมูก ก็จะทำให้เขาสามารถที่จะพ่นสีปรี๊ด ๆ ออกมาจากดวงตาได้ กระทั่งตอนนี้เขาได้ใช้ความสามารถนี้ในการสร้างสรรค์ศิลปะ

ซึ่งหลายคนต่างตั้งข้อสงสัยว่าเขาสามารถทำเช่นนี้ได้ยังไง ดวงตาเขาจะไม่บอดเหรอ โดยเขาได้มีการออกมายืนยันว่า สีที่เขานำมาใช้นั้นเป็นสีที่มีความพิเศษ ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแน่นอน ตัวเขาเองก็ได้มีการเข้าไปพบแพทย์อยู่เป็นประจำ เขามีความเชื่อมั่นว่าการใช้วิธีนี้ในการสร้างสรรค์ศิลปะจะไม่ส่งผลเสียในอนาคต ตัวเขาเองมีความดีใจเป็นอย่ามาก เนื่องจากเขาจะเป็นเพียงคนเดียวที่ใช้วิธีนี้สร้างสรรค์ศิลปะ