Friday, 22 November 2024

ทำไมเราถึงจั๊กจี้ตัวเองไม่ได้? แล้วอะไรคือความรู้สึก “จั๊กจี๋”

04 Oct 2022
418

ทำไมเราถึง จั๊กจี้ตัวเองไม่ได้ แล้วทำไมไม่หัวเราะ แล้วทำไมเวลาที่คนอื่นมาจี้มาจับตามส่วนต่างๆบนร่างกายของเราโดยเฉพาะบริเวณ เอว เท้า เราถึงหลุดขำออกมาแบบกลั่นไม่ได้!? ไลฟ์สไตล์ มันเป็นเพราะอะไรกันนะ แล้วอะไรคือความรู้สึก “จั๊กจี้” บอกเลยใครที่สงสัยนั้นต้องมาดูห้ามพลาดเด็ดขาด

สล็อต xo Slotxo

จั๊กจี้ตัวเองไม่ได้ แล้วทำไมเราถึงไม่หัวเราะ แล้วทำไมคนอื่นมาจั๊กจี๋เรา เราถึงหัวเราะ!?มันเป็นเพราะอะไรกันนะ

จั๊กจี้ตัวเองไม่ได้ แล้วทำไมเราถึงไม่หัวเราะ

ทุกคนเคยคิดสงสัยกันไหมว่าทำไมเวลาเราถูกคนอื่นเข้ามาจั๊กจี้หรือมาสัมผัสมาจับร่างกายบริเวณ เอว เท้า รักแร้ ของเราเราถึงหลุดหัวเราะออกมาแบบกลั้นเอาไว้ไม่ได้ แต่ทำไมเวลาที่เรานั้นลองทำตัวเองกลับไม่เป็นเหมือนโดนคนอื่นกระทำ บอกเลยใครที่สงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้นั้นต้องแวะเข้ามาดูก่อน เพราะว่าในวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูว่าทำไมเราถึงไม่สามารถ “จั๊กจี้ตัวของเราเองไม่ได้” ก่อนที่เราจะรู้ว่าทำไมมันเป็นแบบนั้นเราต้องมาทำความรู้จักและทำความเข้าใจก่อนว่า “จั๊กจี้” มันคือความรู้สึกอะไรมันมาจากไหน

ในทาง Evolution ความรู้สึกจั๊กจี้คือลักษณะของสัญญาณประสาทที่เกิดจากการ “โดนสัมผัสแบบไม่รู้สึกตัว” ซึ่งสัญญาณแบบนี้ ในทางวิวัฒนาการมันจะเป็นการบอกให้เรารู้ล่วงหน้าว่า กำลังมีเรื่องจะเกิดขึ้นกับตัวเรา และร่างกายเราก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ สรุปง่ายๆให้เข้าใจได้แบบไม่ต้องอธิบายยาวก็คือ หลังจากที่ร่างกายของเรานั้นโดนจั๊กจี้แล้วส่งเสียหัวเราะออกมานั้นทมันก็คือ ร่างกายของเรานั้นเป็นไปตามกลไกลธรรมชาติของมันตามสัญชาติญาณของการตอบสนองกับภัยที่เข้ามานั่นเอง

สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมมีภัยมีอันตรายแล้วต้องทำเราะคำตอบที่ออกมานั้นอาจจะประหลาดนิดหน่อย แต่จากการศึกษานั้นบอกว่านักวิจัยพบว่า การทดลองกับลิงการหัวเราะคือวิธีขอยอมแพ้ในการต่อสู้ หรือให้เข้าใจมากกว่านั้นก็คือ เวลาที่ลิงสองตัวเจอกันแบบตัวต่อตัวแล้วมีตัวใดตัวหนึ่งหัวเราะออกมา นั้นแสดงว่าลิงตัวนั้นมันยอมแพ้แล้วแล้วมันก็ไม่ขอต้อสู้กับลิงอีกตัวแล้ว และนี่เป็นกลไกที่อยู่ในระดับสัญชาติญาณ

ทำไมเราถึงจั๊กจี้ตัวเองไม่ได้?

สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือสมองส่วนเดียวกันเลยที่มันทำหน้าที่คอยตอบสนองเราให้หัวเราะออกมา ในตอนที่เรานั้นดูหรือฟังเรื่องที่มันตลกๆและเราโดนจั๊กจี๋ ซึ่งว่าทั้งคู่ล้วนเชื่อมโยงกับการหัวเราะ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนนั้นอาจไม่เข้าใจว่าทำไมจั๊กจี้มันหลายเรื่องหลายขั้นตอนแบบนี้ ทั้งเกี่ยวกับการโดนสัมผัสแบบไม่คาดคิด ทั้งการป้องกันภัย และการหัวเราะ

ถ้าสรุปง่ายๆแบบไม่ต้องเล่ายาวๆนั้นก็คือ มนุษย์ทุกคนนั้นมีสัญชาติญาณว่าเราจะหัวเราะกับสิ่งที่คิดไม่ถึง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมมุกตลกเก่าๆจึงไม่สามารถนำกลับมาเล่นให้ตลกได้อีกรอบ คือเล่นอีกรอบก็ไม่มีใครหัวเราเพราะคนที่เคยหังเขารู้แล้ว และที่มันหัวเราะในตอนเราได้ยินครั้งมันก็เป็นเพราะเราไม่รู้

การจั๊กจี้ก็เหมือนกัน มันคือการเล่นกับกับเรื่องที่เรานั้นคิดไม่ถึงจนเรานั้นหลุดขำหลุด “หัวเราะ” ออกมามันไม่ได้ต่างจากการเล่นมุกตลกเลยสักนิด แต่ความต่างของสองอย่างที่ว่านั้นก็คือมันเป็นการเล่นตลกกับ “ร่างกาย” บริเวณผิวหนัง ไม่ใช่การเล่นกับ “สมอง” โดยตรงแบบมุกตลกเรื่องตลก สิ่งที่มันมีร่วมกันคือการเล่นกับเรื่องที่ไม่คิดมาก่อน

ด้วยระบบการทำงานทางชีววิทยาจากเมื่อก่อนนั้นบอกว่าเรื่องที่ไม่ได้คิดมาก่อนนั้นล้วนแล้วแต่คือเรื่อง “อันตราย” ทั้งนั้นและความรู้สึกถึง เรื่องที่ไม่ได้คิด” มันไม่ใช่เรื่องดีๆ เสมอไปเพราะบางครั้งมันคือภัย และบรรพบุรุษมนุษย์ก็รับมือสถานการแบบนี้ด้วยการ “หัวเราะ” และทั้งหมดว่ามานั้นมันก็คือคำอธิบายว่าทำไมเวลาเราโดนจั๊กจี้เราถึงหัวเราะ

แล้วอะไรคือความรู้สึก “จั๊กจี๋”

แล้วทำไมเราถึงจั๊กจี้ตัวเองไม่ได้? ทำแล้วทำไมมันไม่หหัวเราไม่ขำเหมือนโดนคนอื่นทำ คำตอบนี้ไม่ยากสามารถอธิบายได้เลยว่ามันเป็นเพราะ การที่เรานั้นจั๊กจี้ตัวเองไม่ได้เป็นเพราะว่าเรานั้นได้ทำการคิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเรานั้นจะไปจับส่วนไหนของร่างกาย ซึ่งการสัมผัสเหมือนกันกับที่คนอื่นทำเราจะจั๊กจี้จนหัวเราะ แต่เราเอามาทำเองเราไม่จั๊กจี้ เพราะเราคิดเอาไว้ก่อนทั้งหมด

เรื่องเราเล่ามาให้ฟังนั้นมีการทดลองด้วยการให้มนุษยควบคุมหุ่นยนต์โดยสั่งให้จั๊กจี้ตัวเอง โดยมีข้อแม้ว่าหลังจากมนุษย์ป้อนคำสั่งให้หุ่นยนต์จั๊กจี้มันจะมีการดีเลย์ ซึ่งเราจะไม่รู้ว่าดีเลย์นานแค่ไหน ผลวิจัยอธิบายได้อย่างละเอียดเลยว่า คือถ้าหุ่นยนต์ไม่ดีเลย์เลยมนุษย์จะไม่รู้สึกจั๊กจี้แต่ยิ่งดีเลย์นานๆ มนุษย์จะยิ่งรู้สึกจั๊กจี๋

ดังนั้นมันก็กลับมาที่คำอธิบายเดิมคือจะจั๊กจี้หรือไม่จั๊กจี้มันอยู่ที่ว่าเราเรานั้นคอดเอาไว้ว่าการ “สัมผัส” นั้นจะเกิดขึ้นหรือเปล่า จากคนอื่นเราไม่ได้คิดเอาไว้อยู่แล้ว และในกรณีนี้ถึงจะเป็นการจับตัวเองจากตัวเอง แต่เราคาดเดาเวลาของมันไม่ได้ ผลก็เกิดไปในทำนองเดียวกัน คือเราจั๊กจี๋