Friday, 22 November 2024

ยิ่งกินกาแฟยิ่งช้อป วิจัยชี้นี่คือ “แรงกระตุ้น” รูปแบบใหม่ที่กระตุ้นให้เราอยากซื้อของที่ “ไม่จำเป็น” มากขึ้น

23 Jul 2022
290

ไลฟ์สไตล์ ยิ่งกินกาแฟยิ่งช้อป ปิ้งบ่อยมากยิ่งขึ้น วิจัยชี้นี่คือ “แรงกระตุ้น” รูปแบบใหม่ที่กระตุ้นให้เราอยากซื้อของที่ “ไม่จำเป็น” มากขึ้น บอกเลยงานนี้สายช้อปต้องระวัง!ให้ดี การดื่มกาแฟไม่ได้ทำให้สุขภาพแย่แต่มันอาจทำให้เราเสียเงินจำนวนมาก จากการนับปริมาณแก้วกาแฟที่เราซื้อมาดื่มในแต่ละวัน

สล็อต xo Slotxo

ยิ่งกินกาแฟยิ่งช้อป ปิ้งบ่อยมากยิ่งขึ้นงานนี้สายช้อปต้องระวัง!ให้ดี เพราะนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเสียเงินมากขึ้น

ยิ่งกินกาแฟยิ่งช้อป-ปิ้งบ่อยมากยิ่งขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ชีวิตคนทำงานสิ่งที่ไม่สามารถขาดได้ของคนทำงานส่วนใหญ่นั้นมันก็คือ “กาแฟ” บ้างก็ดื่มกาแฟเย็นบ้างก็ดื่มกาแฟร้อนตามความชอบส่วนตัว แต่มีหนึ่งความชอบที่เหมือนกันนั้นก็คือ ต้องดื่มกาแฟในทุกๆวัน ไม่ว่าราคากาแฟนั้นจะถูกหรือจะแพงเราก็ต้องยอมจ่ายไป เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างกระปรี้กระเปร่า ซึ่งบางคนนั้นก็บอกว่ากาแฟนั้นมันช่วยกระตุ้นการทำงานเพราะมีคาเฟอีน ส่วนปริมาณ Caffeine ที่เหมาะสมในแต่ละวันของคนปกติทั่วไปที่ไม่มีโรคประจำตัวนั้นอยู่ที่วันละ 400 มิลิกรัม

กาแฟยิ่งกินยิ่งซื้อ

ปริมาณนี้ถ้านำมาเปรียบเทียบต่อแก้วที่เราดื่มนั้นอยู่ที่ 4 แก้วต่อวัน แน่นอนปริมาณนี้นั้นน่าจะพอดีสำหรับทุกคนที่อยู่ในวัยทำงาน แต่อาจจะมีบางคนที่ดื่มกาแฟมากกว่า 4 แก้วต่อวัน แน่นอนว่าถ้าหากเรานั้นได้รับปริมาณ Caffeine ที่เหมาะสมมันจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพมาก เพราะมันเข้าไปกระตุ้นระบบการทำงานของสมองให้ดีขึ้น เพราะ Caffeine จะเข้าไปกระตุ้นสารที่เรียกว่า “โดปามีน”ในสมองให้มีความทรงพลังมากยิ่งขึ้น แม้มันจะมีส่วนดีแต่ใช่ว่ามันจะไม่ส่งผลร้ายนะเพราะว่าการทำงานที่ดีเกินไปนี้แหละที่ทำให้มนุษย์สูญเสียการควบคุมตัวเองน้อยลงกว่าเดิม

ยิ่งกินกาแฟยิ่งช้อป-จริงหรือไม่จริง

ทีปยัน บิสวาส (Dipayan Biswas) หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว

ในการทดลองงานวิจัยชิ้นนี้ของพวกเขานั้นจำเป็นจะต้องให้อาสาสมัครดื่มกาแฟก่อนที่จะเดินเข้าไปช้อปปิ้ง เพื่อดูว่ากาแฟนั้นมันส่งผลต่อพฤติกรรมในการช้อปปิ้งจริงแท้มากแค่ไหน เพราะสารโดปามีนที่หลั่งออกมานั้นมันส่งผลให้มนุษย์สูญเสียการควบคุมตัวเอง เจ้าสิ่งนี้นั้นมันก็หมายความว่าเราอาจเลือกหยิบของไปเรื่อยโดยไม่ได้คิดนั่นเอง

ในส่วนการทดลองนั้นนักวิจัยได้ให้อาสาสมัครจำนวน 300 คน เลือกเครื่องดื่มดื่มฟรีจำนวน 2 ชนิด โดยเครื่องดื่มชนิดแรกนั้นคือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ส่วนอีกหนึ่งเครื่องดื่มนั้นคือเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน หลังจากที่อาสาสมัครนั้นเข้าไปซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางนักวิจัยก็จะขอดูใบเสร็จอาสาสมัครทุกคนเพื่อดูปริมาณในการซื้อของ

ส่วนผลการทดลองที่ออกมานั้นพบว่า อาสาสมัครที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนั้นมีอันตราการใช้จ่ายเงิน และซื้อสิ่งของสินค้าที่มากกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งอาสาสมัครกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนั้นยังมีแนวโน้มที่จะซื้อของที่ไม่จำเป็น เช่น เทียนไขหรือน้ำหอมมากกว่าอีกกลุ่ม ส่วนการซื้อของใช้ที่จำเป็นนั้นทั้งสองกลุ่มนั้นสามารถเลือกซื้อของได้ในปริมาณที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของที่ร้านค้าหรือช้อปของออนไลน์ ผลลัพธ์ในการวิจัยก็ออกมาในรูปแบบเดียวกัน

กินกาแฟแล้วทำให้ไร้สติในการซื้อของ

และถ้าหากเราสังเกตดีๆเราจะเห็นได้ว่าทุกที่ที่มีร้านค้ามีที่ขายของนั้นมักจะมีร้านน้ำร้านขายเครื่องดื่มประเภท กาแฟชานมอยู่ข้างๆ ซึ่งเรื่องแบบนี้นั้นมันน่าจะเป็นกลยุทธ์ในทางการตลาดที่หลักแหลม เพราะผู้ประกอบการทั้งหลายนั้นน่าจะตั้งใจให้ร้านกาแฟตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของห้างสรรพสินค้าเสมอแทบทุกห้าง เพื่อคาดหวังว่ากาแฟอาจจะเป็นช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพให้การค้าขายดียิ่งขึ้นมากกว่าที่เคยเป็น แม้ว่าเรานั้นจะมีสิ่งที่ต้องการอยากซื้อของแล้วในใจก็ตาม เราก็ยังนอกลู่นอกทางแอบไปยิบไปจับของไร้สาระของที่ไม่จำเป็นกลับมาบ้านด้วยเสมอ แม้ว่าวันนั้นเราจะวางแผนซื้อของมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม บิสวาสเตือนว่า

 “ในฐานะของผู้บริโภคเหมือนกันแนะนำว่าเราควรเก็บ “คาเฟอีน” เอาไว้ดื่มหลังซื้อของเสร็จหมดทุกอย่างน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีและประหยัดกว่ามากกว่ากกินมันก่อนช้อป”

ยิ่งกินกาแฟยิ่งช้อป-เพราะคาเฟอีน

แล้วทุกคนคิดว่ายังไงกันบ้าง? เกี่ยวกับประเด็นนี้คิดว่าการตั้งร้านกาแฟบริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไปเป็นการเพิ่มยอดขายให้พวกเขาหรือเปล่า และพวกคุณคิดว่ากาแฟมีผลต่อการซื้อของที่ไร้ประโยชน์มากขึ้นจริงหรือไม่จริง และถ้าหากใครมีประสบการณ์ดังกล่าวที่อาสาสมัครไปทดลอง หรือลองสังเกตพฤติกรรมตัวเองดูแล้วแล้วพบว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็สามารถมาเล่าสู่กันฟังได้นะ