เปิดภาพสถาปัตยกรรม สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธา ตั้งอยู่ริมผาสูง “อารามซูเมลา” อายุ 1.6 พันปี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด หากคุณได้ไปเยือนตุรกี “อารามซูเมลา” สถานที่ความเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างอยู่บนหน้าผาสูงตั้งตระหง่าน ทั้งหมดที่ถูกจัดสรรขึ้นเกิดจากแรงศรัทธาและความเชื่อ เพราะสถานที่ตั้งนั้นยากที่จะสร้างขึ้นมาได้ง่าย เนื่องจากเป็นหน้าผาสูงสถานที่ไม่อำนวย แต่สุดท้ายอาคารก็ถูกวางอย่างสวยงาม

เปิดภาพสถาปัตยกรรม “อารามซูเมลา” อายุ 1.6 พันปี สถานที่ซึ่งถูกสร้างจากแรงศรัทธา ตั้งอยู่ริมหน้าผาสูง 1 กิโลเมตร

อารามซูเมลา หรือ Sumela Monastry ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมหน้าผาชื่อ “การสกัด” มันถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Black Mountain” และยังเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาพอนทิก โดยทั้งหมดอยู่พื้นที่ของ “อุทยานแห่งชาติอลินเดเร” จ.ทรับซอน เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตุรกี พื้นที่ดังกล่าวมีอายุมากกว่า 1,636 ปี และนับว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในสมัยประวัติศาสตร์ และสถานที่แห่งนี้ก็ไม่พ้นถูกยกเป็น “มรดกโลก”

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ มีการบันทึกเอาไว้ว่า ในช่วงปี 386 นักบวชจากคริสตจักร ที่มาจากนิกายออร์โธด็อก จำนวน 2 รูป ได้แก่ 1.บาร์นาบัส 2.โซโฟรนิออส นักบวชทั้งสองได้ตัดสินใจสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาบนหน้าผาสูง ทั้งหมดล้วนแล้วเกิดขึ้นด้วยแรงศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตามอารามแห่งนี้โด่งดังเพราะมากเนื่องจากภาพเขียนของพระแม่มารีอา “Panagin Gorgoepekoos” จากข้อมูลบอกว่าคนที่เขียนขึ้นคือ “Luke the Evangelist” โดยเขาคนนี้ก็เป็นคนเดียวกันกับที่เขียนพระวรสาร

ในช่วงที่รุ่งเรืองอำนาจของจักรพรรดิออตโตมัน ได้มีการทนุบำรุงรักษาอารามแห่งนี้ไว้เป็นอย่างดี ทั้งยังอนุญาตให้คิดจะชนเข้าไปสักการะตามความเชื่อความศรัทธา แต่ด้วยเวลาที่ผ่านมายาวนานอารามแห่งนี้ก็ค่อยๆเสื่อมโทรมไปตามสภาพ ทำให้ในเวลาต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18 อารามซูเมลา ได้ถูกบูรณะปรับปรุงขึ้นครั้งใหญ่ ซึ่งในครั้งนี้มีการสร้างปรับเปลี่ยนเพิ่มเพื่อความยิ่งใหญ่ต่อการตา

นอกจากนี้อารามซูเมลา ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 1,200 เมตร ความสูงจากระดับน้ำทะเล นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่ผ่านเรื่องราวในอดีตมาหลายช่วงไม่ว่าจะเป็นสงคราม หินถล่ม ไฟไหม้ ล้วนแล้วก็เป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังองอาจผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้ ทางรัฐบาลของตุรกีได้นำงบ 57 ล้านลีรา หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อเอามาทุ่มปรับปรุงยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ที่มีการสักการะมายาวนานตั้งแต่อดีตหลายพันปี

ในปัจจุบันอารามแห่งนี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสำคัญของประเทศตุรกี สถานที่ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง ความงดงาม ศิลปะแบบกรีกออร์โธดอกซ์  ทั้งหมดคือความสวยงามที่เริ่มต้นมาจากความเชื่อและความศรัทธาอันแรงกล้าของนักบวชและประชาชนพี่ศรัทธาในคริสตจักร หากใครได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนหรือเที่ยวในตุรกี ห้ามพลาดที่จะมาที่สถานที่แห่งนี้เพื่อขอพรสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คงอยู่มานับพันปี