สหรัฐดันกฎหมายจัดการศพ “มนุษย์” เปลี่ยนให้เป็น “ปุ๋ย” Lifestyle เพื่อให้ปรับทุกอย่างไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม มากกว่าวิธีการสมัยโบราณที่นำจะไปเผาหรือฝัง และดูเหมือนว่าปัจจุบันแนวทางการนำ ร่างมนุษย์ที่เสียชีวิต แล้วไปทำเป็น “ดินหรือปุ๋ย” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐดันกฎหมายจัดการศพ “มนุษย์” เปลี่ยนให้เป็น “ปุ๋ย” ช่วยลดมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันวิธีการนำร่างมนุษย์ที่หมดลมหายใจไปแล้วไปทำเป็นดินหรือปุ๋ย ได้รับความนิยมขขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้มีบางรัฐในสหรัฐอเมริกา อย่าง วอชิงตัน โคโลราโด ออริกอน เวอร์มอนต์ และแคลิฟอร์เนีย ได้อนุมัติทางเลือกดังกล่าวแบบถูกกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อไม่นานมาที่ผ่านมาทางรัฐนิวยอร์กก็กลายเป็นอีกหนึ่งรัฐที่เข้าร่วม (นับเป็นรัฐที่ 6 ของประเทศสหรัฐฯ) ที่ผ่านกฎหมายอนุญาตการจัดการศพเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าวิธีการโบราณที่ใช้เป็นประจำที่นำจะไปเผาหรือฝัง โดยกระบวนการข้างต้นนี้ เรียกว่าการย่อยสลายอินทรีย์ตามธรรมชาติ (Natural Organic Reduction)
ซึ่งเป็นการนำร่างของคนตายไปใส่ในตู้ container เหล็ก หรือในที่เก็บเฉพาะ พร้อมกับรองด้วยเศษไม้ชิ้นเล็กๆ หญ้า และฟาง อีกทั้งยังมีระบบควบคุมความชื้น รวมถึงสัดส่วนของคาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน ออกซิเจน และความร้อน ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ และแบคทีเรีย
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ร่างกายสลายหายไปเองตามขั้นตอนทางธรรมชาติโดยใช้เวลาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ทั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ทางครอบครัวและญาติก็จะได้รับปุ๋ยที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคต่างๆแล้วกลับคืนไปซึ่งจะนำไปเก็บหรือนำไปใช้ปลูกต้นไม้ดอกไม้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของครอบครัว
ทางบริษัท Recompose ในรัฐ Seattle เมือง Washington state ที่พัฒนาเทคโนโลยีนี้บอกว่า วิธีจัดการร่างของตนตายดังกล่าวนั้นช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 1 ตัน เมื่อเทียบกับวิธีดั้งเดิมอย่างการฉีดน้ำยาศพแล้วใส่โลงฝังดิน ซึ่งต้องใช้ไม้ ที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ
และถ้าหากมองในมุมของคนในยุคสมัยนี้ก็อาจเรียกได้ว่าใช้พลังงานมหาศาลมากๆ ทางบริษัท Recompose จึงประกาศว่าขั้นตอนการจัดการร่างไร้วิญญาณที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณมหาศาลเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก
ทางฝ่ายสนับสนุนการเปลี่ยนร่างไร้วิญญาณให้เป็นปุ๋ยก็บอกเหมือนกันว่า วิธีนี้ไม่ใช่แค่มันจะเป็นหนึ่งวิธีที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้นแต่ยังเหมาะสมในทางปฏิบัติมากกว่า โดยเฉพาะในเขตเมืองซึ่งมีที่ดินฝังศพอย่างจำกัด ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มตัวแทนนักบวชคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในรัฐนิวยอร์กที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว
และพวกเขานั้นก็คัดค้านกฎหมายที่ออกมานี้อยู่เสมอ เพราะพวกเขานั้นมองว่าเป็นทางเลือกในการจัดศพที่ไม่เหมาะสม แม้สุดท้ายกฎหมายจะผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสภา แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้หยุดรณรงค์คัดค้านเลยแม้แต่วันเดียว เดนนิส เพาสต์ (Dennis Poust) หนึ่งในตัวแทนกลุ่มผู้ต่อต้านการทำศพเป็นปุ๋ยบอกว่า
ร่างกายมนุษย์ไม่ใช่ขยะที่มาจากที่ไหนสักแห่ง และเราไม่เชื่อว่ากระบวนดังกล่าวนั้นจะเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อศพของเราจริงๆ นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีอีก 4 รัฐที่กำลังเดินหน้เร่งส่งเสริมให้การทำปุ๋ยจากศพมนุษย์เป็นเรื่องถูกกฎหมายได้แก่รัฐเดลาแวร์อิลลินอยส์แมสซาชูเซตส์และมินนิโซตา
อย่างไรก็ตามการทำปุ๋ยจากร่างกายของมนุษย์นั้นเป็นไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย และถูกหลายๆเมืองนั้นนำมาได้สักพักแล้ว และในประเทศสวีเดนส่วนการฝังศพโดยไม่มีโลงศพ หรือการใช้โลงศพที่ย่อยสลายได้ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในสหราชอาณาจักรเหมือนกันทุกประการ
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์