ลมหายใจเหม็น!! กลิ่นปากเรื้อรัง ไม่ใช่เรื่องตลกอีกต่อไป

วันนี้แอดมาแชร์เรื่องราวข่าวสุขภาพ สำหรับใครที่กำลังกังวลใจ และมั่นใจในตัวเองเมื่อได้ออกไปพบปะผู้คนจำนวนมากด้วยตัวเราเองนั้นมี กลิ่นปาก เป็นปัญหาสุขอนามัยในช่องปากที่หลายคนต้องพบเจอ และมาพร้อมกับความรู้สึกไม่ดี ที่ทำให้ขาดความมั่นใจเวลาออกไปพบเจอใคร แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า กลิ่นปาก ไม่ได้เกิดจากปัญหาในช่องปากเพียงอย่างเดียว อาจเป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ที่ควรรีบเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี

กลิ่นปากเรื้อรัง สัญญาณเตือนของโรคทางเดินอาหาร

เรามาทราบถึงสาเหตุส่วนใหญ่ในการเกิดกลิ่นปากประมาณ 90% มาจากภายในช่องปากโดยส่วนใหญ่เลย เช่น แผลในช่องปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ ส่วนอีก 10% มีสาเหตุมาจากภายนอกช่องปาก คือ ระบบทางเดินหายใจ ไซนัส โพรงจมูกที่ทำให้มีการอักเสบ หรือระบบทางเดินอาหาร ที่เกิดจากการมีแบคทีเรียส่วนเกินในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ซึ่งมักจะมีอาการท้องอืด แน่น เรอมีกลิ่นเหม็น และมีกลิ่นปาก

สำหรับการตรวจรักษาด้วยเครื่องตรวจลมหายใจ (Hydrogen Breath Test) ที่ทันสมัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น จะใช้หลักการตรวจหาก๊าซที่ผลิตจากแบคทีเรียในทางเดินอาหารซึ่งจะซึมผ่านเข้ากระแสเลือดและปล่อยออกทางลมหายใจ โดยก๊าซที่ตรวจนั้น ได้แก่ ก๊าซไฮโดรเจน และก๊าซมีเทน

ขั้นตอนการตรวจเริ่มด้วยงดอาหารและน้ำก่อน 12 ชั่วโมง จากนั้นให้รับประทานสารที่ใช้ในการตรวจแยกโรค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แพทย์สงสัย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสงสัยภาวะแบคทีเรียในลำไส้มากเกิน ก็จะให้รับประทานน้ำตาลกลูโคสหรือสารแลคตูโลสจากนั้นจะให้ผู้ป่วยเป่าลมหายใจใส่ในถุงตรวจ ทุกๆ 15 นาที จนครบ 120 นาที แล้วนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ต่อไป

แน่นอนเลยว่าหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง แพทย์ก็จะได้ทำการรักษาอย่างตรงจุด เช่น เกิดปัญหากลิ่นปากจากภาวะแบคทีเรียเกินในลำไส้ก็สามารถรักษาให้หายได้ โดยการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อลดปริมาณเชื้อในลำไส้ ร่วมกับการให้ยาปรับการเคลื่อนไหวลำไส้ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่ส่งเสริมให้เกิดแบคทีเรียในลำไส้เติบโต (FODMAPS) ได้แก่ อาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมได้น้อยในลำไส้เล็กและผ่านเข้าสู่ลำไส้ใหญ่จนกลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย เช่น กระเทียม หอม ถั่ว กะหล่ำ น้ำเชื่อมเข้มข้น แอปเปิ้ล มะม่วง พรุน และน้ำตาลเทียม เป็นต้น

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่