รู้ไหมว่ากิน “เผ็ด” เสี่ยงโรคมากกว่าให้ประโยชน์แก่สุขภาพร่างกาย

รู้ไหมว่า กินเผ็ดเสี่ยงโรค เสี่ยงโรคมากกว่าให้ประโยชน์แก่สุขภาพร่างกาย พร้อมเผยวิธีกินยังไงให้ “ไม่เสี่ยง” โรค สำหรับคนที่ชอบกินอาหารรสชาติเผ็ดจัดสุดซี๊ด บอกเลยวันนี้ใครที่ชอบทานอาหารรสเผ็ดต้องไม่พลาดแวะเข้ามารับชมมาเอาข้อมูลที่เรานำมาให้ดูในวันนี้ไปดูก่อน

กินเผ็ดเสี่ยงโรค อะไรบ้าง!? พร้อมเผยวิธีกินยังไงให้ “ไม่เสี่ยง” โรค สำหรับคนที่ชอบกินอาหารรสชาติเผ็ดจัดสุดซี๊ด

“อาหารเผ็ด” นั้นถือว่าเป็นอาหารที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างช้านาน แม้มันจะไม่มีรสชาติแต่มันคือรสสัมผัสที่เราสามารถรับรู้ได้หากใส่พริกลงไปในเมนูอาหารนั้นๆ แน่นอนว่ามันเป็นรสชาติที่หลายๆคนติดใจโดยเฉพาะคนไทยที่ใส่มันลงไปในอาหารเกือบทุกเมนูเพื่อเพิ่มอรรถรสในการกิน แม้ว่ารสชาติเผ็ดนั้นมันจะทำให้เราฟินและอร่อยกับอาหารมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็อย่าได้ลืมนึกถึงนะว่ามันมีโทษมากกว่าให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเรา แถมว่ามันยังทำให้เรานั้นเสี่ยงโรคเรื้อรังและโรคบางอย่างได้อีกต่างหาก ว่าแต่การ “กินเผ็ด” บ่เป็นประจำเสี่ยงโรคอะไรบ้างเดี่ยวตามมาดูพร้อมกันได้เลย

ท้องเสีย

เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วในพริกมีสาร Capsaicin ทำให้เรารู้สึกร้อน จนเราดื่มน้ำมากขึ้น ร่างกายจะพยายามขับเอาสาร Capsaicin ออกจากร่างกาย กระเพาะอาหารและลำไส้จึงบีบตัวมากขึ้น เร็วขึ้น ลำไส้ใช้เวลาในการดูดซึมสารอาหารน้อยลง เพราะต้องการขับสาร Capsaicin ออกให้เร็วที่สุด จึงทำให้เรามีมักอาการถ่ายท้อง ท้องเสียในช่วงเวลาไม่นานนักหลังจากที่เรากินอาหารเผ็ด

กระเพาะอาหารอักเสบ

ข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโลเขียนเอาไว้ว่านอกจากการติดเชื้อ Helicobacter Pylori จากการปนเปื้อนของ bacteria ในอาหารหรือน้ำที่ดื่มเข้าไป ที่อาจทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรังได้แล้ว กินอาหารรสเผ็ดจัดเป็นเวลานานๆ ก็อาจทำให้เยื่อเมือกบุในกระเพาะอาหารเกิดการอักเสบ บวม แดงได้เช่นกัน

แถมว่าการกินอาหารรสชาติจัดหรือเผ็ดมากๆมันจะเข้าไปสร้างกรดและเข้าไปกัดเยื่อบุกระเพาะ intestinal mucosa ส่งผลให้เรารู้สึกปวดแสบท้องทันทีที่ทานอาหารรสชาติที่เผ็ดอีกด้วย ดังนั้นหากไม่อยากมีปัญหาเรื่องนี้ก็ลดปริมาณการกินพริกหรืออาหารรสเผ็ดให้น้อยลงเพื่อสุขภาพที่ดี

โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง

การรับประทานอาหารรสชาติที่เผ็ดมากๆบ่อยๆอาจเป็นการทำร้าย intestinal mucosa ได้โดยไม่รู้ตัว และมันก็จะทำให้อักเสบและเป็นแผล หากมีการอักเสบเรื้อรังนานนับปี จะทำให้มีอาการท้องเสียและปวดท้องเป็นช่วงๆ ได้ แม้ว่าส่วนมากโรคลำไส้อักเสบฉับพลันจะเกิดจากการกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน

ติดเชื้อไวรัสและมีอาการท้องเสีย diarrhea ท้องร่วง diarrhea ร่วมกับปวดท้องรุนแรง แต่การกินเผ็ดจัดอาจเพิ่มอาการอักเสบให้กับ intestinal mucosa เพิ่มมากขึ้นไปอีก และอาจเสี่ยงมะเร็งลำไส้ในอนาคตได้ ดังนั้นถ้ายังรักสุขภาพยังอยากกินอาหารที่อร่อยๆอยู่ก็ควรเลี่ยงอาหารรสเผ็ดลงบ้าง

กรดไหลย้อน

acid reflux ย้อนคือหนึ่งในผลกระทบที่มาจากการรับประทานอาหารโดยตรง โดยเฉพาะอาหารรสชาติเผ็ดจัดจ้านที่เป็นภาวะมาจากน้ำย่อย gastric juice จากกระเพาะอาหารมันตีกลับขึ้นมาที่หลอดอาหาร ส่งผลให้เรานั้นมีอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่ เกิดได้ทั้งจากมีกรดเกินในกระเพาะอาหารจนตีกลับขึ้นมา

และหูรูดของหลอดอาหารส่วนสุดท้ายก็จะทำหน้าที่ได้ไม่ดี ดังนั้นคนที่เป็นกรดไหลย้อนจึงไม่ควรกินอะไรที่เป็นพวกอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้กรดเกิด ทั้งอาหารรสเผ็ด รสเปรี้ยว ไปจนถึงอาหารที่มีแก๊สมาก เพราะจะยิ่งทำให้เกิดกรดและตีกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนมากยิ่งขึ้น

และถ้าหากอาการกรดไหลย้อนมันเกิดขึ้นจนกลายเป็นภาวะเรื้อรังอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหูรูดหลอดอาหาร เพื่อป้องกันการกลายพันนธุ์ไปเป็นโรคร้าย esophageal cancer ที่ไม่มีใครอยากจะเป็นอย่างแน่นอน และใครที่ไม่อยากป่วยเป็นโรคร้ายก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดและอาหารที่มีกรดให้ได้

กินเผ็ดอย่างไรไม่ให้เป็นโรค

1.พยายามไม่กินรสเผ็ดจัดจนเกินไป

2.ไม่กินอาหารเผ็ดทุกมื้อ

3.ควรสลับเลือกอาหารรสชาติอื่นๆ

4.หากรับประทานพริก เครื่องปรุงอื่นๆ ที่มีรสเผ็ดแล้วรู้สึก

• ทรมาน
• แสบปาก
• แสบท้อง
• ควรหยุดทานแล้วดื่มน้ำตามเพื่อลดอาการระคายเคือง

5.หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น

• กระเพาะอาหารอักเสบ
• ลำไส้อักเสบ
• ท้องเสียท้องร่วง
• อาหารเป็นพิษ
• ไม่ควรกินเผ็ด
• เพราะอาจทำให้อาการของโรคแย่ลง

6.ผู้ป่วยที่มีไข้ เพิ่งผ่าตัด

• ควรงดการรับประทานอาหารเผ็ดชั่วคราว