รู้ไหมว่า!?? คนทำงานเก่งเขาไม่นอน แต่การฝืนนาฬิกาชีวิตได้ไม่ใช่เรื่องเท่เพราะเสี่ยงโรคสุขภาพ Depression หลังเอาเวลานอนไปแลกรับสิทธิ์ “โรคซึมเศร้า” กลับมาในช่วงที่ไฟทำงานั้นลุกร้อนแรง สำหรับหลายๆคนนั้นมีนิยามผิดๆที่บอกว่า “เวลานอนมีมากมาย เมื่อตายไปแล้ว”
คนทำงานเก่งเขาไม่นอน เพราะเอาเวลานอนไปแลกซื้อสิทธิ์ “โรคซึมเศร้า”
กลุ่มเสี่ยง “โรคซึมเศร้า” มากที่สุดนั้นก็คือกลุ่มคนวัยทำงาน และที่บอกว่ากลุ่มคนวันทำงานนั้นเสี่ยงโรคนี้มากที่สุดนั้นเป็นเพราะว่า พวกเขาเหล่านนั้นเป็นหลุ่มคนที่มีพลังมากมายในการทำงาน แม้จะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการนอนนั้นคือเรื่องที่สำคัญที่เราจะนอนแต่พวกเขานั้นก็ยืนยันว่าจะไม่นอน “ขอทำงานต่อ” อย่างเช่น
ข่าวดีที่บอกว่าคุณนั้นได้สิทธิ์เลื่อนตำแหน่งแน่นอนง่าเมื่อตำแหน่งเลือนขึ้นเงินเดือนของคุณนั้นก็จะเพิ่มสูงขึ้นตาม ที่มาพร้อมกับภาระหน้าที่ที่ใหม่และหนักกว่าเดิมจากที่เคยทำ จากสถานการณ์จริงเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ตำแหน่งของคุณนั้นเลื่อน ความเครียดความวิตกกำลังจากหน้าที่ใหม่ที่คุณได้รับกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาสิงร่างของคุณ เนื่องจากตำแหน่งงานที่ใหม่ส่วนมากแล้วมักเป็นงานหยาบงานหินที่ต้องใช้ความสามารถและความละเอียดแม่นย่ำมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปในการทำออกมาให้มันดูดีที่สุด และเงื่อนไขสุดโหดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลยนั้นก็คืองานชิ้นนี้คืองานที่คุณจะต้องทำเองเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นชีวิตของคุณก็จะเริ่มเคลื่อนออกจากวงโคจรที่เคยเป็นอยู่ชีวิตส่วนตัวที่เคยทำก็จะไม่ได้ทำ เพื่อนคนรักครอบครัวของคุณจะห่างออกไปเรื่อย ๆ เมื่อคุณมุ่งมันไฟแรงอยู่ที่งานของคุณ และเวลาส่วนตัวที่บ้านของคุณก็จะปลี่ยนแปลงไปแบบไม่สามารถคาดเดาได้เลย
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อ “พระอาทิตย์ตกดิน”
กลางคืนคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนหลังจากที่ทำงานเหนื่อยๆหนักๆมาทั้งวันตามแบบฉบับของคนทั่วไป แต่ในทางกลับกันคนที่บ้าพลังในการทำงานนั้นมักมองว่าช่วงเวลากลางคืนนั้นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดและเหมาะที่สุดเลยในการเคลียร์งานที่สะสมเอาไว้ เตียงนุ่มๆหมอนใบใหญ่ที่เคยเป็นที่พักผ่อนที่ดีที่สุดในอดีตนั้นจะกลายเป็นสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคยอีกต่อไป เพราะข้อความที่อยู่ในสมาร์ทโฟนที่มากกว่า 100 ข้อความ จะตามหลอกหลอนคุณไปตั้งแต่ตื่นจนหลับอีกครั้ง แม้ในใจของคุณนั้นทราบดีแค่ไหนว่าการนอนคือสิ่งที่ร่างกายและจิตใจของคุณต้องการ แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องที่ยากในการฝืนทำมันให้ได้เมื่องานที่สะสมของคุณนั้นยังทำไม่เสร็จสักที เมื่อเป็นอย่างนี้ทุกๆวันไม่ต้องบอกเลยว่าตอนเช้าที่ไปทำงานนั้นสภาพของคุณจะเหมือนผีดิบมากขนาดไหน??และเมื่อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนั้นเสี่ยงที่จะเป็นโรค “ซึมเศร้า” จากผลการกระทำที่ตัวของคุณนั้นสร้างขึ้นมาเอง
มีทางลัดไหมนะ?
คนวัยทำงานที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ถึง 30 ปีในปัจจุบันนี้พบว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความต้องการพึ่งพายารักษาอาการซึมเศร้า (Antidepressant Drugs) เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากสถิติภายใน 5 ปี เนื่องจากภายใน 10 ปีที่ผ่านมานั้นพบว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้านั้นมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นมากเรื่อย ๆ และพวกเขาเหล่านั้นจำเป็นจะต้องใช้ยาในการรักษาอย่างมากมาย จนหน่วยงารัฐที่เกี่ยวข้องนั้นได้ออกมาประกาศเตือนการจ่ายยาให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะจำนวนผู้ป่วยที่คิดสั้นฆ่าตัวตายนั้นมีจำนวนสูงขึ้นมากเรื่อย ๆ เพราะบริษัทที่ผลิตยานั้นไม่รายงานผลข้างเคียงของยาที่ใช้ในการรักษาโรค ดังนั้นแพทย์สมัยใหม่จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาใหม่ โดยวิธีการรักษานั้นจะต้องใช้ยาในปริมาณที่น้อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมุ่งเน้นไปที่กการนอนเนื่องจากสืบพบว่าการนอนนนั้นคือหนึ่งกุนแจหนึ่งดอกที่สำคัญที่ผู้คนไม่เห็นความสำคัญ แถมยังมีนิยามแปลกกล่าวเอาไว้ว่า “เวลานอนนั้นมีมากมาย เมื่อเรานั้นตายไปแล้ว” และนิยามที่ว่ามานี้นั้นมันเป็นความคิดที่สวนทางกับความเป็นจริงของมนุษย์
เศร้าแล้วไม่นอน แต่ไม่นอนก็เพราะเศร้า
อารมณ์ความโศกเศร้าเสียใจนั้นคืออาการพื้นฐานที่มนุษย์นั้นสามารถรู้สึกได้ แม้กระทั้งในตอนที่รับประทานอาหารไม่จำเป็นว่าจะรู้สึกเพียงแค่ตอนที่หลับตานอนเท่านั้น ความรู้สึกพื้นฐานที่ว่าบางครั้งนั้นมันก็ส่งผลร้ายแรงให้เรากินไม่ได้นอนไม่หลับ แม้นั่งอยู่ใจกลางเมืองแต่จิตใจกลับลอยเข้าป่าดงพงไพรไปแล้ว เมื่อความเศร้าและการนอนไม่หลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันไม่ต้องบอกเลยว่าผลเสียที่เกิดขึ้นตามมามันจะร้ายแรงมากขนาดไหน
“โรคนอนไม่หลับ หรือหลับยาก (Insomnia) นั้นถือว่าเป็นโรคที่สามารถพบเจอได้กับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า แต่ถ้าคนทั่วไปมีอาการเหล่านี้นั้นบอกเลยว่ามันสามารถพัฒนาให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรังได้อย่างแน่นอน”
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนนี้ล้วนแต่ต้องการเวลานอน เพราะนาฬิกาชีวิตของเราที่อยู่มานานมากกว่า 100 ล้านปีนั้นวิวัฒนาการมาจากแสงสว่างและความมืดมนส่วน Circadian Rhythm ที่เป็นการบอกว่าเราควรนอนเวลาไหนและควรตื่นเวลาไหน เมื่อมันทำงานไม่ปกติจังหวะนาฬิกาของร่างกายจะสับสนในการตอบสนองต่อเวลา
อาการซึมเศร้าแสดงออกมาแตกต่างไปในแต่ละคน โดยมีอาการพื้นฐานบางอย่างร่วมกัน เช่น
- รู้สึกไร้ความหวัง
- เหนื่อยอ่อน
- เศร้าใจ
- ทำงานประสิทธิภาพลดลง
- ไม่ต้องการความช่วยเหลือ
- อยากฆ่าตัวตายบ่อยครั้ง
- คิดถึงความตายบ่อยๆ
- หมดความสนอกสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งไป
- โฟกัสไปที่ปัญหา
- พูดถึงปัญหาออกมาบ่อยๆ
- ขี้หลงขี้ลืม
- สัญญาอะไรไว้มักรักษาสัญญาไม่ได้
- หมดความต้องการทางเพศ
- น้ำหนักตัวขึ้นมากหรือลงมาก
- รสนิยมการกินอาหารเปลี่ยนไป
- ไร้เรี่ยวแรง
- หมดพลังงาน
- นอนไม่หลับเรื้อรัง
อาการเหล่านี้จริงๆแล้วนั้นสามารถสังเกตเห็นได้อย่าง่ายดายกับคนรอบตัวที่มีอาการที่แปลกประหลาด แต่ในความเป็นจริงแล้งคนส่วนมากนั้นไม่เคยมองเห็นปัญหาเหล่านี้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคิดว่ามันคือการเรียกร้องความสนใจหรือการส้รางปัญหาขึ้นมาเอง มากกว่าจะคิดว่าคนๆนั้นต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
ส่วนวิธีการรักษานั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดด้วยยาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมันคือวิธีรักษาแบบงูกินหางหายแล้วเป็นอีก ดังนั้นวิธีการรักษาแบบยาเข้าร่วมกับการบำบัดจิตใจจึงเป็นวิธียอดนิยมที่สามารถปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมให้ดีขึ้นได้ สำหรับผู้ป่วยบางรายนั้นรักษาควบคู่ไปกับการนอนก็จะดีขึ้น ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ไฟแรงสุดร้อนแรงนั้นจำเป็นจะต้องนอน!! เพราะทุกสิ่งที่มีชีวิตบนโลกใบนี้นั้นต้องนอนการฝืนนาฬิกาชีวิตได้ไม่ใช่เรื่องเท่แต่เป็นเรื่องที่อันตรายที่ไม่ควรทำ เช่นทำงามหามรุ่งหามค่ำเพราะพลังในการทำงานนั้นมีมากมายมหาศาล
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์