ไขปริศนาคาใจ!?? ทำไมแต่ละคนเหงื่อออก ไม่เท่ากัน!! หรือนี่คือสิ่งที่กำลังบอกเป็นในๆว่าร่างกายของเรากำลังเจอกับบางอย่างที่ดีหรือไม่ดีอยู่ในตอนนั้น “เหงื่อ” คือสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกว่าสุขภาพร่างกายของเรานั้นดีหรือไม่ เหมือนกันกับการปล่อยของเสียอื่นๆอย่างเช่น ปัสสาวะ บอกเลยวันนี้เรื่องราวที่เรานำมาให้ดูในวันนี้น่าสนใจมาก หากอยากรู้ว่ามันคืออะไรเดี่ยวตามมาดูพร้อมกันได้เลย
ทำไมแต่ละคนเหงื่อออก ไม่เท่ากัน!! หรือนี่คือสิ่งที่ร่างกายกำลังบอกอะไรบางอย่าง!!
“เหงื่อ” ที่ไหลออกจากร่างกายของมนุษย์เรานั้นคือเรื่อง “ปกติ” แต่ถ้าเรานั้นเกิดความสงสัยว่าทำไม!?? มันถึงไหลออกมาจากร่างกายของเรา แล้วทำไมมันถึงไหลออกมาเยอะไหลออกมาไม่เท่ากัน บางคนมีเยอะบางคนมีน้อย บางคนไม่ต้องทำอะไรเหงื่อมันก็ไหลออกมาเอง ส่วนบางคนทำทุกอย่างจนเหนื่อยหอบ แต่เหงื่อนั้นออกมาน้อยนิด
ในส่วนนี้เราต้องขออธิบายก่อนนะว่า “เหงื่อ” คือของเสียหนึ่งงชนิดที่ไหลออกมาจากร่างกายในรูปแบบหนึ่ง เช่นเดียวกันกับการถ่ายหนักถ่ายเบาและการปัสสาวะ ที่เราทำเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่เหงื่อที่ไหลออกมานี้นั้นถูกขับถ่ายออกมาผ่านรูขุมขน จากการปฏิบัติหนน้าที่ของต่อมเหงื่อที่แบ่งส่วนอยู่ภายใต้ผิวหนังตามร่างกายรวมแล้วมีประมาณ 4 ล้านต่อม แต่ส่วนมากนั้นรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ส่วนประโยชน์ที่สำคัญของ “เหงื่อ” ก็คือ
- ช่วยระบายความร้อนในร่างกายให้เย็นลง
- รวมถึงสัตว์เลือดอุ่นและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
- เพราะร่างกายของเราจะต้องรักษาระดับอุณหภูมิไว้ที่ 37 องศาเซลเซียส
- แตกต่างจากร่างกายของสัตว์เลือดเย็น
- ซึ่งเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิไปตามสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ได้
สำหรับมนุษย์แล้ว “เหงื่อ” คือเรื่องธรรมดาที่ธรรมชาติของร่างกายมนุษย์เรานำมาใช้ตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เกิดขึ้นรอบข้างอย่างตรงไปตรงมา ส่วนหมายความที่สรุปให้เข้าใจง่ายๆนั้นได้ใจความว่า เมื่อเรารู้สึกว่าร้อนตอนไหน เหงื่อของเรานั้นก็จะไหลออกมาเองอัตโนมัติ และนี้มันก็คือการรักษาสมดุลอุณหภูมิของตัวเราให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และไม่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต โดยปกติแล้วการที่เหงื่อจะไหลออกมาได้ตามรูขุมขนของมนุษย์เรานั้นขึ้นอยู่กับเส้นประสาทที่ถูกซ่อนอยู่ที่ภายใต้ชั้นผิวหนัง เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่แปรเปลี่ยนของร่างกายที่เกิดขึ้นจนจากภาวะต่างๆ เมื่อรับรู้แล้วว่าอุณหภูมิเปลี่ยนมันก็จะส่งต่อไปที่สมองส่วน “ไฮโปทาลามัส (Hypothalamus)” ต้องขอบอกก่อนสักนิดว่าสมองส่วนสำคัญส่วนนี้นั้นคือส่วนที่สำคัญ เพราะสามารถรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือจะพูดว่ามันคือส่วนสำคัญที่ควบคุมอุณหภูมิทุกส่วนนของร่างกายมนุษย์นั้นแหละ สำคัญถึงขั้นที่ว่าควบคุมระบบการทำงานของการเต้นของหัวใจความดันและการนอนหลับและอื่นๆอีกมากมาย
ดังนั้นมันเลยส่งผลให้ในตอนที่เราอยู่ในสภาพอากาศทีร้อนอบอ้าว ที่มีสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆตัวมีอุณหภูมิสูงกว่า 32 องศาเซลเซียส เจ้าสมองส่วน Hypothalamus จะรับรู้และแสดงผลออกมาเป็นความร้อน หลังจากนั้นก็จะเข้าไปกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อของมนุษย์เรานั้นทำงาน สุดท้ายเหงื่อของเรานั้นจะถูกขับออกมาตามรูขุมขนเล็กๆน้อยบนร่างกายของเรา ในขณะเดียวกันกระบวนการเผาผลาญก็จะลดลงและเพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือดตามระบบ เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด
ในทางกลับกันสมมุติว่าในวันนี้ร่างกายของเรานั้นกำลังเผชิญหน้ากับลมหนาวและอากาศเย็นเยือก นั้นมันสจะส่งผลให้หลอดเลือดของเรานั้นหดตัวลงพร้อมกันกับกล้ามเนื้อยึดเส้นขนบริเวณผิวหนัง เมื่อเป็นเชานั้นร่างกายของเราจะตอบสนองส่งผลทำให้ขนของเรานั้นลุกตั้งลุกชัน และนี่คือการตอบสนองของกลไกลร่างกาย แถมยังช่วยป้องกันความเย็นจากข้างนอกไม่ให้เข้ามาปะทะหรือสัมผัสผิวของเราโดยตรง และนั้นแปลว่ามันป้องกันไม่ให้ความร้อนจากภายในร่างกายของมนุษย์เรานั้นถ่ายเทสู่สภาพแวดล้อมภายนอก และร่างกายของเรานั้นจะอบอุ่นเหมือนเดิม เพราะต้องรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่ไว้ได้
ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เหงื่อออกได้ง่ายขึ้นกว่าปกติอย่างเช่น
อย่างเช่นเวลาที่เรานั้นกำลังรู้สึกโกรธที่ความโกรธนั้นเดือดดาลพลุพลาน และนั้นมันส่งผลให้สมองส่วน Hypothalamus หลั่งฮอร์โมนความเครียดมากระตุ้นที่รอบๆหัวใจให้เต้นแรง และนั้นมันจะส่งผลให้ความดันในเลือดสูงและและไปทำให้หลอดเลือดขยายตัวตาม จากนั้นอุณหภูมิของร่างกายเรานั้นจึงเพิ่มขึ้นตาม และนั้นเป็นเหตุให้เลือดขึ้นหน้าและเหงื่อออกอย่างมากมาย ส่วนปัจจัยอื่นๆก็สามารถทำให้เหงื่ออกได้อย่างเช่น
- ความตื่นเต้น
- ความรัก ซึ่งเป็น
- ความรู้สึกทางบวก
- ความรู้สึกดี
- ความไม่สบายใจ
- วิตกกังวล
- ประหม่า
- อับอาย
อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้นั้นส่งผลทำให้เหงื่อออกได้มาก โดยเฉพาะบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ที่เรานั้นสามารถสังเกตเห็นได้อย่างง่ายๆ อีกหนึ่งอย่างที่ลืมไม่ได้นั้นก็คือพฤติกรรมและความเคยชินที่เรานั้นเคยทำในชีวิตประจำวัน ก็สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เหงื่อของเราออกมาได้อย่างเช่น
- การออกกำลังกายทุกๆวัน
- การเล่นกีฬา
- ใช้แรงกายหนักๆ
- กินอาหารเผ็ดร้อน
- สูบบุหรี่
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีอลกอฮอล์
- ยารักษาโรคบางตัว
***เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ไปกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อของเราทำงานได้ผิดปกติ
อีกหนึ่งปัจจัยนั้นก็คือรูปร่างและสุขภาพของแต่ละคนนั้นขับเหงื่อแตกต่างกันบางคนมีเยอะบางคนมีน้อย สำหรับคนที่ป่วยเป็นไข้ อุณหภูมิของร่างกายจะสูงเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส เพิ่มขึ้นเพื่อไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่อยู่ในร่างกาย ภายหลังจากที่อาการไข้หายอุณหภูมิร่างกายของเรานั้นจะเริ่มปรับลดลงมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้ง และในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ร่างกายของมนุษย์เรานั้นรู้สึกร้อน และอาจมีเหงื่อออกมาท่วมตัว สำหรับผู้หญิงที่ตั้งท้องกับผู้หญิงวัยทองที่หมดประจำเดือน นั้นจะมีปริมาณเหงื่อจะออกง่ายกว่าและเยอะกว่าคนทั่วไป เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
ปัญจัยที่เป็นสิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ไม่พูดไม่ได้นั้นก็คือ “ความอ้วนความผอม” ต้องขอบบอกก่อนนะว่าสองสิ่งนนี้มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับปริมาณเหงื่อที่ร่างกายมนุษย์เรานั้ยขับออกมาจากรูขุมขน และถ้ายิ่งเราอ้วนและมีไขมันมากเท่าไหร่ ร่างกายของเรานั้นก็จะยิ่งพยายามเก็บพลังงาน หรือสะสมความร้อนไว้เอาไว้ไปสร้างความอบอุ่นมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเราเจอกับอากาศรอบๆตัวที่สูงขึ้น ร่างกายของเรานั้นก็จะระบายความร้อนออกมาทันที ดังนั้นคนอ้วนจึงรู้สึกร้อนง่ายและเหงื่อออกมากกว่าคนผอมแบบไม่มีข้อแม้
ดังนั้นอาจจะสรุปได้ว่าเหตุผลที่แต่ละคนเหงื่อออกไม่เท่ากันนั้นอาจมาจากหลายปัจจัย และมันอาจจะขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ และลักษณะพื้นฐานของร่างกายแต่ละบุคคล อีกทั้งยังรวมไปถึงกิจกรรมที่ทำพฤติกรรมที่เราเคยชินในทุกๆวัน สภาพแวดล้อมที่อยู่ และสภาวะอารมณ์และความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้น
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์