นอนกลางวันเห็นภาพหลอน ตอนตื่น Hypnagogic Hallucinations เกิดขึ้นจริงหรือคิดไปเอง???

นอนกลางวันเห็นภาพหลอน เมื่อตื่นขึ้นมามันคือเรื่องที่ “คิดไปเอง” หรือว่า “ผีอำ” Hypnagogic Hallucinations เกิดขึ้นจริงหรือคิดไปเอง??? นักวิจัยชี้มันไม่เป็นปัญหาทางสุขภาพร่างกายแต่มันมีผลกับสุขภาพจิตใจ หากเป็นบ่อยมากไปก็อาจเป็นอันตรายทำให้กลายเป็นโรคนอนไม่หลับได้

นอนกลางวันเห็นภาพหลอน เมื่อตื่นขึ้นมามันคือเรื่องที่ “คิดไปเอง” หรือว่า “ผีอำ”

เคยตื่นจากฝันแล้วอยากจะลุกขึ้นมาทำงานที่คั่งค้างหรือเรื่องที่ทำทิ้งไว้ แต่ไม่สามารถลุกขึ้นมาทำได้บ้างหรือเปล่า?? แล้วเมื่อมีอาการที่ว่าทุกคนนั้นคิดว่ามันคืออาการที่เกิดขึ้นจากอะไร ผีอำหรือว่าฝันจนคิดไปเอง!? สำหรับคนที่คิดว่านี่คือผีอำและวิทยาศาตร์ไม่สามารถช่วยได้บอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะเรื่องนี้วิทยาศาสตร์ช่วยคุณได้

Sleep Paralysisที่มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับ Hypnagogic Hallucinations

ทั้งสองสิ่งที่ว่ามานั้นคือเหตุผลที่ทำให้เรานั้นมองเห็นบางอย่างที่เป็นคนหรือเป็นวัตถุได้ในช่วงที่เรานั้นกหลับๆตื่นๆ สำหรับคนที่มีอาการ Hypnagogic Hallucinations นั้นจะสามารถมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เหมือจริงมากๆ เช่นภาพหลอนที่มาพร้อมเสียง บางครั้งพวกเขาอาจรู้สึกเหมือนว่ามีคนมานอนทับ แต่แท้ที่จริงแล้วมันเกิดขึ้นจากจินตนาการของตัวเองก่อนนอนที่สมองสร้างขึ้นเท่านั้น สำหรับคนที่ตกอยู่ในภาวะ Sleep Paralysis นั้นมักรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นไม่สามารถเคลือนไหวร่างกายได้ ทั้งๆทีรู้สึกตัวแต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่างแม้แต่การพูด

สำหรับนักวิจัยแล้วอาการที่ว่ามานั้นอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยที่พบเจอ แต่ส่วนมากนั้นพบว่ามาจากความเหนื่อยล้าความเครียดและความกังวลที่เข้าควบคุมจิตใต้สำนึกทั้งตอนตื่นและตอนที่หลับ รวมไปถึงเวลานอนที่ไม่ปกติที่เป็นหนึ่งในการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะดังกล่าวที่ว่ามาเมื่อตอนต้น เช่นเปลี่ยนเวลานอนบ่อย แอบหลับบ่อย ถึงแม้ว่าอาการ “Hypnagogic Hallucinations และ Sleep Paralysis” จะไม่ได้ส่งผลเสียร้ายแรงโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เกิดบ่อยและต่อเนื่องมากขึ้น นั้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัญหาสุขภาพเกิดขึ้นตามมาเช่น อาการนอนไม่หลับเรื่อรัง ซึ่งมันไม่ดีต่อระบบประสาทแน่นอน

สำหรับคนที่กำลังเจออยู่กับภาวะดังกล่าวผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้คุณนั้นตั้งสติให้ดี เมื่อนตอนที่คุณรู้สึกตัว และถ้าเป็นไปได้ให้คิดไปเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่จริง จากนั้นทำการผ่อนคลายอารมณ์ลงให้มากที่สุด จากนั้นคุณจะตื่นได้เองตามปกติ เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมความคิดนั้นช่วยให้อาการทีคล้ายว่าผีอำไม่เกิดขึ้น ส่วนคนที่ไม่สามารถจัดการตัวเองในวิธีเบื้องต้นได้แนะนำว่าคุณต้องลองไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อที่จะได้หาทางแก้ไขปัญหานี้ต่อไป