ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ สาววัยรุ่นเคืองตา พลิกดูแทบช็อก ใต้เปลือกตาหินปูนเพียบ!!

เตือนภัยสุขภาพเรื่องราวที่แชร์บนโลกทวิตเตอร์ พลิกดูแทบช็อก “หินปูนใต้เปลือกตา” เหตุเกิดกับสาววัยรุ่นรายหนึ่ง เพราะเธอรู้สึกเคืองที่ตา ก่อนตัดสินใจไปหาหมอ และทำการตรวจพร้อมกับพลิกดูที่บริเวณใต้เปลือกตา..เจ็บมากต้องเขี่ยออกทีละก้อน

สาววัยรุ่นเคืองตา พลิกดูแทบช็อก ตัดสินใจมาพบหมอ ก่อนตรวจพลิกดูใต้เปลือกตา เจอเพียบ “หินปูน” ก้อนสีเหลืองต้องค่อยเขี่ยออกทีละน้อย

พลิกดูแทบช็อก หญิงสาวรายหนึ่งเธอรู้สึกเคืองที่ดวงตาอย่างมาก ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร จนต้องยอมจำใจไปพบแพทย์ เมื่อไปถึงหมอได้ทำการตรวจโดยพลิกสำรวจดูมามีอะไรอยู่ที่ใต้ดวงจากหรือไม่ และก็เป้นตามคาดก้อนเหลืองเด่นชัด “หินปูน” แทบไม่อยากจะเชื่อไม่รู้ว่ามันมาโผล่ที่บริเวณดังกล่าวได้อย่างไร หมอได้อธิบาอย่างละเอียดเพื่อบอกสาเหตุที่ทำให้เกิดหินปูนพร้อมกับวิธีการรักษาอีกด้วย

ในวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อบัญชี @DrSasiYaisawang หรือ แพทย์หญิง ศศิ ใหญ่สว่าง ซึ่งเป็นจักษุแพทย์ ได้นำเอาภาพเคสตัวอย่างมาทวิตเพื่อเตือนภัยและเตือนเป็นอุทาหรณ์ ล่าสุดได้เจอเข้ากับคนไขหญิงที่ยังเป็นวันรุ่น โดยคนไข้นั้นมีอาการเคืองตาเลยมาหาหมอ การเคืองตาอย่างรุนแรง หมอได้มีการตรวจเบื้องต้นส่องดูที่ดวงตาก็พบว่ามีบาดแผลบริเวณกระจกตา

เมื่อมาถึงในจุดนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ กระทั่งหมอได้พลิกเปลือกตาของคนไข้สาวขึ้นมาดู สิ่งที่ปรากฏนั้นคือ “ก้อนหินปูน” ก้อนเล็กๆจำนวนมากพอควร มันขึ้นอยู่ที่บริเวณเยื่อบุใต้เปลือกตา ก้อนนั้นมีสีเหลืองเกาะกันเป้นจุด แพทย์หญิงได้นำอุปกรณ์มาเขี่ยเอาหินปูนออกมาจากใต้เปลือกตาได้เฉพาะก้อนหินปูนที่โผล่พ้นออกมาจากผิว และมากไปกว่านั้นบริเวณดังกล่าวจะเป้นแผลเป้น เมื่อมีการเขี่ยเอาก้อนหินปูนออกมาแล้วคนไข้สาวรู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้แพทย์หญิงและคนไข้มีการพูดคุยเพื่อเตรียมวางแผนในการรักษาอาการเคืองและบาดแผลที่เกิดขึ้นจากสาเหตุหินปูนใต้เปลือกตา การดูแลรักษาต้องใช้เวลาในระยะยาว

สำหรับโรคนี้มันมีสาเหตุเกิดขึ้นมาจากการที่ดวงตาของเรามีการอักเสบมาเป็นระยะเวลานานหรือเรื้องรังนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อทุกสาเหตุมาตั้งแต่อดีต การเป้นภูมิแพ้ขึ้นตาก็มีส่วน บางคนอาจจะเกิดจาไขมันเปลือกตามีการอุดตันมาเป็นระยะเวลานาน และบางรายอาจจะมีการหยอดยาบางชนิดลงไปในดวงตา แพทย์ยิ่งยังเตือนอีกว่าหากมีอาการเจ็บปวดตาเล็กน้อยควรพบแพทย์ดีกว่าสะสมเป็นเวลานานจนเป็นโรคเรื้องรังยากที่จะรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้