Friday, 3 May 2024

นวัตกรรมใหม่สุดล้ำ!! ฟื้นฟูผิวหนังได้ 30 ปี วิทยาการใหม่ย้อนวัยเซลล์ผิวให้กลับไปเป็นเด็กวัยละอ่อนอีกครั้ง

12 Apr 2022
241

นวัตกรรมใหม่สุดล้ำ!! ฟื้นฟูผิวหนังได้ 30 ปี วิทยาการใหม่ย้อนวัยเซลล์ผิวให้กลับไปเป็นเด็กวัยละอ่อนอีกครั้ง แถมว่ายังรักษาปัญหาสุขภาพอย่างโรคอัลไซเมอร์และโรคอื่นๆได้ บอกเลยวันนี้สาวๆและหนุ่มๆคนไหนที่อยากมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์อยู่ตลอกเวลานั้นต้องดูห้ามพลาดเด็ดขาด

สล็อต xo Slotxo

ฟื้นฟูผิวหนังได้ 30 ปี สุดล้ำ!!วิทยาการใหม่ย้อนวัยเซลล์ผิวให้กลับไปเป็นเด็กวัยละอ่อนอีกครั้ง

ฟื้นฟูผิวหนังได้ 30 ปี-สุดล้ำ

การกลับไปเป็นหนุ่มเป็นสาวที่หลายคนใฝ่ฝันอาจไม่ใช่แค่ฝันแล้วก็ได้จากการรายงานของนักวิทยาศาสตร์ประเทศอังกฤษและประเทศโปรตุเกส ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนผู้คนนั้นก็ต่างตามหาความงามและความอ่อนเยาว์อยู่ตลอดเวลาโดยแฉพาะยุคปัจจุบันที่มีนวัตกรมมและวิทยาการใหม่ๆที่ล้ำหน้าอย่างเช่นงานวิจัยที่เรานำมาให้ดูในวันนี้ และพวกเขานั้นได้รายงานผลที่ทำได้ออกว่า

วิทยาการใหม่ย้อนวัยเซลล์ผิว

พวกเขานั้นได้เลื่อนขั้นพบกับความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งในรอบหลายปีของเวชศาสตร์ฟื้นฟูอายุจากเซลล์ผิวหนังที่ทำการทดลองลดอายุในมนุษย์ช่วงอายุ 38 – 53 ปี ให้ดูอ่อนเยาว์วัยลง “Yamanaka factors” นี้คือส่วนผสมสารเคมีที่มีการศึกษาต่อยอดการทดลอง ซึ่งมันคือสารเคมีที่ทำให้นักวิจัย ชินยะ ยามานากะ ชนะรางวัลเลิศและได้รับรางวัลโนเบลในปี 2007 ที่ผ่านมา และมันก็สามารถเปลี่ยนเซลล์ที่โตเต็มที่กลับเป็นสเต็มเซลล์ได้ โดยการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าสารตัวนี้ทำให้เซลล์สูญเสียอัตลักษณ์ ซึ่งมันคือปัญหาใหญ่และปัญหาหลัก แต่ถ้าว่าในการทดลองศึกษาล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้แก้ปัญหาใหญ่นี้ด้วยวิธีการปรับการใช้งานสารให้ถูกและเหมาะสม ด้วยการเปลี่ยนให้สารนั้นกลับไปเป็นสเต็มเซลล์เลย และมันจะแค่ลดอายุของสารกลับไปเป็นตอนหนุ่มเท่านั้น

 

วิทยาการใหม่ย้อนวัยเซลล์ผิวให้กลับไปเป็นเด็กวัยละอ่อนอีกครั้ง

แต่ถ้าว่าสรรพคุณของมันยังไม่หมดเท่านั้นทีมนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ามันอาจสามารถนำไปใช้รักษาโรคเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของเซลล์อาทิอัลไซเมอร์ และต้อกระจก นั้นแปลว่ามันไม่ได้ทำให้เพียงแค่ผิวอ่อนเยาว์วัยแต่ยังรักษาโรคได้ด้วยนั้นเอง แต่ถ้าว่ามันก็มีเรื่องที่น่าเสียดายอยู่กับผลข้างเคียงของ Yamanaka factors และผลข้างเคียงที่ว่านั้นก็คือมันทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ มันจึงไม่สามารถนำมาใช้ในการรักษาและการดูแลได้ในยุคปัจจุบัน อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ยังคงต้องหาความเป็นไปได้เกี่ยวกับอันตรายนี้อยู่ บอกเลยว่าความเชื่อของทีมนักวิจัยนั้นยังเชื่อมั่นอยู่ไม่น้อยว่ามนุษย์นั้นอาจทำให้กระบวนการศึกษาปลอดภัยขึ้นได้อย่างแน่นอนในอนาคต และเมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆความใฝ่ฝันของหลายๆคนที่อยากกลับไปเป็นเด็กที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นคงไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน