Friday, 22 November 2024

งานวิจัยทางการแพทย์ชี้ความเครียดส่งผลให้ “ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพ” ประเภท sildenafil ,vardenafil กลับมาขายดีในอาหรับ

01 Jul 2022
307

ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพ ประเภท sildenafil ,vardenafil กลับมาขายดีในอาหรับงานวิจัยทางการแพทย์ด้านสุขภาพชี้ มันคือผลกระทบที่มาจากความเครียดและกระแสนิยม จากประเทศตะวันตกที่คนทั่วโลกนั้นต่างรู้จักกันดี เพราะนี้คือกลุ่มประเทศที่ตีตลาดโลกเรื่องการค้าขายได้ดีที่สุด

สล็อต xo Slotxo

ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพ เริ่มเป็นกระแสนิยมดึงดูหนุ่มอาหรับให้หันมาใช้งานเพิ่มมากขึ้น

ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพ-เริ่มเป็นที่นิยม

เชื่อว่าหลายคนนั้นทราบกันดีอยู่แล้วว่า “บับ-อัล-ชารีอะห์” ย่านเก่าแก่ในกรุงไคโรขอประเทศงอียิปต์ นั้นคือสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการผลิตยาสมุนไพรโบราณ หรือยาปลุกกำหนัด สิ่งกล่าวมานั้นคือเรื่องในอดีต เพราะในปัจจุบันเภสัชกรผู้ปรุงยาโบราณสูตรดังกล่าวที่เราว่ามานั้น กล่าวว่าในช่วง 2-3 ปีที่โรคระบาดผ่านมา “ราเบีย-อัล-ฮาบาชี” นั้นบอกว่าลูกค้าเพศชายเป็นจำนวนมากที่เคยฝใช้บริการเขานั้นเปลี่ยนใจหันกลับไปใช้ “ยาเม็ดสีฟ้า” ของบริษัทยาแผนปัจจุบันจากประเทศตะวันตกกันหมด อิงจากงานวิจัยทางการแพทย์หลายชิ้นที่ระบุเอาไว้ว่า เด็กหนุ่มอาหรับวัยรุ่นที่อายุยังไม่มากนั้นชื่นชอบการใช้ยาต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นจำนวนมาก (anti-impotence) เช่นยา

sildenafil

  • ไวอากรา

ยา verdenafil

  • เลวิตราหรือ
  • สแต็กซิน

tadalafil

  • ซิอาลิส

หนุ่มอาหรับให้หันมาใช้ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพเพิ่มมากขึ้น

วารสาร Arab Journal of Urology ที่เปิดเผยข้อมูลล่าสุดออกมาให้เราทราบนั้นกล่าวว่า..

มีหนุ่มอาหรับจำนวนมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เคยใช้ยาที่เรานั้นกล่าวมาหนึ่งครั้งในชีวิต ส่วนผลการศึกษาอีกหนึ่งชิ้นที่ถูกเปิดเผยออกมาในช่วงปี 2012 นั้นบอกว่าชายชาวซาอุดีอาระเบียนั้นคือประเทศที่ใช้ยาดังกล่าวที่ว่ามานี้นั้นมากที่สุดในโลกอาหรับ ซึ่งมันคือจำนวนที่มากมายกว่าชายชาวรัสเซียถึง 10 เท่า แม้ว่ารัสเซียจะมีจำนวนประชากรมากกว่า ส่วนจำนวนที่พวกเขาใช้มากที่ว่านั้นก็คือ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เพื่อปลุกนกเขาให้ตื่นในสถานการณ์ต่างๆ

ส่วนอันดับสองรองจากอียิปต์นั้นก็คือชายชาวอียิปต์ จากงานวิจัยเมื่อปี 2021 นั้นพบว่ายอดขายยาที่กล่าวมานั้นมียอดขายที่มากขึ้นถึง 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 2.8% ของส่วนแบ่งการตลาดยาและเวชภัณฑ์ของประเทศอียิปต์ทั้งหมด

แม้ว่าหลักฐานในการใช้ยาเพื่อปลุกนกเขาจะเป็นที่นิยมและมากมายมากถึงขั้นทุบสถิติ แต่ชายหนุ่มชาวอาหรับบางคนนั้นก็ยังปฏิเสธว่าพวกเขานั้นไม่เคยใช้และไม่เคยรู้จักยาจำพวกนี้ ส่วนบางคนนั้นก็ไม่ขอตอบคำถามนี้เลยเพราะ “ขัดกับหลักศีลธรรมอันดีงามของสังคม”

ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพ-แรงกดดันต่อความเป็นชาย

แรงกดดันต่อความเป็นชาย

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 Al-Fankoush ที่มีลักษณะเหมือนช็อกโกแลตแท่ง นั้นได้เคยถูกจัดมาจำหน่ายเอาไว้ตามร้านยาที่สามารถหาซื้อขายได้ตามร้านค้าในกรุงไคโร ส่วนราคาที่วางขายนั้นก็คือไชว่าไม่แรงประมาณ 2 บาทไทย แต่เมื่อวางขายได้ไม่นาน ผู้ผลิตก็ถูกจับกุมเนื่องจากเขานั้นแอบขายให้เด็กด้วย แม้ในความเป็นจริงแล้วยาชนิดนี้นั้นจะจัดจำหน่ายให้เฉพาะชายยสูงวัยเท่านั้น แต่ในทางกลับกันสถิติจากของประเทศเยอรมันนั้นกลับเปิดเผยตัวเลขออกมาว่า ชายที่ใช้ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพทางเพศส่วนใหญ่คือชายวัย 20-45 ปี เนื่องจาดว่าหลังเกิดสงครามกลางเมืองในปี 2015 ผู้คนนั้นเริ่มหันมานิยมใช้ไวอากราหรือซิอาลิส มากขึ้นในงานเลี้ยงงานเฉลิมฉลองต่างๆ

ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพ-ประเภท sildenafil ,vardenafil

ศาสตราจารย์โมฮัมเหม็ด สฟาซี บอกว่า

“ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไม่ใช่ยาที่มีสรรพคุณกระตุ้นให้เกิดความอยาก แต่เป็นยาที่ช่วยในการรักษาอาการน้องชายไม่ตื่นสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากเสียมากกว่า”

ผลสำรวจของสหประชาชาติเมื่อปี 2012 ว่าด้วยเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในตะวันออกกลาง นั้นเปิดเผยออกมาว่าผู้ชายส่วนมากในประเทศนั้นหวาดกลัวความไม่มั่นคงในอนาคต เนื่องจากว่าความกลัวเหล่านั้นอาจส่งผลเรื่องการหาเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งพวกเขายังถูกแรงกดดันจากคำพูด เรื่องบทบาททางเพศอย่างหนักหน่วง ที่เพศตรงข้ามนั้นคาดหวังเอาไว้ เพราะผู้หญิงอาหรับยุคใหม่นิยมพูดกันว่า “ผู้ชายสมัยนี้ไม่มีความเป็นชายเหมือนเดิม”

“วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่นั้นมุ่งเน้นเรื่องของสมรรถภาพทางเพศเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นหนุ่มอาหรับสมัยใหม่จึงต้องพบเจอกับแรงกดดันที่สูงมากจากความคาดหวังของสังคม เอล-เฟกี กล่าว”

ยาต้านเสื่อมสมรรถภาพ-ถูกดึงดูดให้นำกลับมาใช้งาน

ความเข้าใจผิดจากการได้เห็นภาพและคลิปโป๊เปลือยที่มีมากจนเกินไปในสมัยนี้นั้น อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หนุ่มอาหรับ มีทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากว่าพวกเขานั้นอาจไม่เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ถือว่าปกติในเรื่องสมรรถภาพทางเพศ

“วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมานานในประวัติศาสตร์ของโลกอาหรับ นั้นบอกเอาไว้ว่าเพศหญิงคือเพศที่มีความต้องการทางเพศสูงและรุนแรงมากกว่าเพศชาย และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเพศชายจึงต้องรักษาและปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของผู้หญิงได้อย่างเต็มที เอล-เฟกี กล่าวสรุป”