ลดอาการปวดหลัง จากการแก้ไขวิถีชีวิตประจำวัน

ลดอาการปวดหลัง ปัญหาสุขภาพ สำหรับชาวหน้าคอม คนทำงาน หรือผู้สูงวัย การแก้ไขอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังมีอยู่มากมาย แบบมาตรฐาน ได้แก่ การใช้ ‘ยา’ , ‘กายภาพบำบัด’ และ ‘การฉีดสเตียรอยด์’ แต่การฉีดอาจไม่ได้ผลหรือยาวนานสำหรับอาการปวดเรื้อรังและมีความเสี่ยง

ลดอาการปวดหลัง เริ่มต้นด้วยปรับการใช้ชีวิต

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเพื่อลดอาการปวดหลัง

อาการปวดหลังมีแนวโน้มมากขึ้นตามอายุ การดำเนินชีวิตอยู่ประจำ โภชนาการที่ไม่ดี โรคอ้วน และความเครียด การปรับวิถีชีวิตของคุณเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการจัดการอาการปวดหลังเรื้อรัง

การแก้ไขอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังแบบมาตรฐาน ได้แก่ การใช้ ‘ยา’ , ‘กายภาพบำบัด’ และ ‘การฉีดสเตียรอยด์’ แต่การฉีดอาจไม่ได้ผลหรือยาวนานสำหรับอาการปวดเรื้อรังและมีความเสี่ยง

การใช้ NSAIDs เป็นเวลานาน (ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) สามารถทำลายไตและตับของคุณ และทำให้ทางเดินอาหารมีเลือดออกหรือลำไส้รั่วได้ Acetaminophen สามารถทำลายตับและล้างพิษในตับได้ช้า ฝิ่นอาจทำให้เกิดความว้าวุ่น ปัญหาต่อมไร้ท่อ การพึ่งพาอาศัยกัน และการเสพติด ยาลดความตึงกล้ามเนื้อมักจะทำให้ใจเย็น แล้วจะเหลือทางเลือกอะไร?

ใช้อาหารเป็นยา

การอักเสบเป็นสาเหตุของอาการปวดเรื้อรังหลายประเภท การรับประทานน้ำตาลจำนวนมาก การทานคาร์โบไฮเดรตที่ขัดสีอย่างแป้งและอาหารแปรรูปจะเพิ่มการอักเสบและความเจ็บปวด

• หลีกหนีจากอาหารที่มีแคลสูงและสารอาหารรองต่ำ รับประทานอาหารที่มากไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟโตนิวเทรียนท์แทน
• กินสี ๆ สีที่ต่างกันบ่งบอกถึงสารอาหารที่หลากหลาย ทำให้ผักเป็นส่วนหลักของมื้ออาหาร
• รับโปรตีนในปริมาณปานกลาง หลีกเลี่ยงเนื้อแดงและทดแทนปลาและไก่ไร้หนัง อาจลองกินโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลือง
• คาร์โบไฮเดรตธรรมดา ๆ อย่างน้ำตาลและแป้งนั้นสร้างปัญหาได้มาก หลีกเลี่ยงเค้ก พาย ลูกอม และคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ เช่น พาสต้าและขนมปัง
• ลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ไข่ ชีส และผลิตภัณฑ์จากนม
• กินไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ปลาแซลมอนป่าและปลาป่าขนาดเล็กอื่น ๆ น้ำมันมะกอก ถั่ว เมล็ดพืช และอะโวคาโดล้วนมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ

จัดการความเครียดในชีวิต

ความเจ็บปวดส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนความกังวลที่ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ คุณไม่อาจหลีกเลี่ยงความเครียดได้ แต่เลือกเรียนรู้ที่จะจัดการกับมันได้ การบำบัดพฤติกรรมทางปัญญาและการทำสมาธิเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม นักบำบัดที่มีทักษะสามารถเปลี่ยนวิธีรับรู้ความเครียดของคุณได้ การทำสมาธิสามารถลดความวิตกกังวล ทำให้มีสมาธิ และลดความเจ็บปวดได้

อย่าทำให้การนอนของคุณสั้นลง

การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญมาก การอดนอนทำให้ฮอร์โมนความเครียดลดลง ลดความทนทานต่อความเจ็บปวด และทำให้ความเจ็บปวดที่มีอยู่แย่ลง การสูญเสียการนอนหลับอาจทำให้ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ซับซ้อน ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ยากขึ้นเมื่อคุณเป็นเบาหวาน เป็นต้น

ดังนั้นจงฝึกสุขอนามัยการนอนหลับที่ดี หลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟนหรือทีวีเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนนอน จงเข้านอนเวลาเดิมทุกคืนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้าเพื่อให้นาฬิกาภายในของคุณเป็นปกติ อาหารเสริมเช่นเมลาโทนินสามารถช่วยให้คุณนอนหลับตอนกลางคืนได้

การทำสมาธิเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการนอนหลับที่ดีขึ้น มีแอพการทำสมาธิมากมาย เขาแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการทำสมาธิ 5-10 นาทีก่อนนอน หากต้องการ คุณสามารถเพิ่มเป็น 20 หรือ 30 นาทีต่อคืนได้หากต้องการ

ทำให้การออกกำลังกายเป็นนิสัย

การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีสุขภาพที่ดี แต่ยังเป็นวิธีลดความเจ็บปวดอีกด้วย แม้ในขณะที่คุณเจ็บปวดเป็นสิ่งสำคัญต่อการฟื้นตัว เริ่มต้นด้วยกิจกรรมที่คุณชอบ แล้วค่อย ๆ เห็นว่าตัวเองค่อย ๆ ก้าวหน้าจากไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉงน้อยลงไปสู่การใช้ชีวิตที่กระฉับกระเฉงมากขึ้น

หากคุณเคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก ให้ลองใช้เก้าอี้โยคะ เดิน ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ แม้แต่กิจกรรมประจำวันที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้

การฝังเข็ม

การฝังเข็มสามารถช่วยให้คุณกลับมาทำกิจกรรมที่มีอาการปวดหลังได้อย่างจำกัด ใช้มานานนับพันปีในประเทศจีนสำหรับทุกอย่างตั้งแต่การบรรเทาอาการปวดไปจนถึงการฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมอง ปัจจุบันการฝังเข็มถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย สำหรับอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ