งานวิจัยเผย สมองเด็กออทิสติกหญิง มีลักษณะสมองแตกต่างกันไปจากสมองของเด็กผู้ชาย นักวิจัยคาดผลดีนำไปสู่ การวินิจฉัยที่ดีขึ้น

งานวิจัยเผย สมองเด็กออทิสติกหญิง มีลักษณะสมองแตกต่างกันไปจากสมองของเด็กผู้ชาย นักวิจัยคาดผลดีนำไปสู่การวินิจฉัยเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในอนาคตในการ บอกเลยว่างานวิจัยที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ทำออกมาครั้งนี้นั้นน่าสนใจมาก และถ้าหากประสบความสำเสร็จเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อการรักษาโรคออทิสติกแน่นอนในอนาคต

สมองเด็กออทิสติกหญิง มีลักษณะแตกต่างกันไปจากสมองของเด็กผู้ชาย นักวิจัยคาดนี้การวินิจฉัยที่ดีขึ้น

โรคออทิสติกนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถพบได้มากจากงานวิจัย บอกเลยวันนี้ใครที่ไม่เข้าใจเรื่องโอกาสในการเกิดโรคโรคออทิสติกของเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายนั้นต้องดู เพราะในวันนี้เรามีหนึ่งงานวิจัยที่พึ่งทดลองล่าสุดเกี่ยวกับอาการของโรคออทิสติกที่เกิดขึ้นกับเด็กมาให้ทุกคนได้ไปติดตาม ส่วนเรื่องราวที่เรานำมาให้ดูจะน่าติดตามและน่าสนใจขนาดไหนเดี่ยวตามมาดูพร้อมกันเลย

ในทางสถิติพบว่า “โรคออทิสติก” นั้นเกิดขึ้นกับเพศชายวัยเด็กมากกว่าจะเกิดขึ้นกับเพศหญิงวัยเด็ก ถึงแม้ผลจะออกมาว่าเช่นนั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ยังคงเชื่อว่าความเสี่ยงของการเกิดโรคออทิสติกของผู้หญิงจะน้อยกว่าผู้ชายเสมอไป เพราะว่าอาการออทิสติกที่เกิดขึ้นในหมู่ของผู้เด็กผู้หญิงนั้นถือว่าเป็นอะไรที่วินิจฉัยได้ยากมากๆตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน และข้อมูลที่อยู่ก็มีน้อยมากกว่า ดังนั้นการวินิจฉัยโรคออทิสติกในเด็กผู้หญิงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาโรคออทิสติกในอนาคตได้จากผลงานล่าสุดของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่ได้ทำการทดลองสร้าง AI ขึ้นมา เพื่อใช้สแกนสมองในการวินิจฉัยอาการออทิสติกดูซึ่งการทดลองนี้นั้นอยู่ภายใต้ความหวังว่ามันจะสามารถวินิจฉัยอาการออทิสติกที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้เด็กผู้หญิงได้ดีกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ในการทดลองครั้งนี้ได้ทำการจัดเก็บรวบรวรูปภาพ MRI มาใช้ฝึก AI จากเด็กจำนวน 733 คน และแบ่งออกเป็นรูปถ่ายของเด็กผู้หญิงจำนวน 136 รูป ส่วนรูปภาพถ่ายของเด็กผู้ชายนั้นมีจำนวน 637 รูป หลังจากการทดลองกลับพบเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นมากว่า AI นั้นสามารถแยกภาพ MRI สมองของเด็กผู้หญิงออกจากสมองของเด็กผู้ชายได้แม่นยำมากถึง 86% เพราะว่าความน่าจะเป็นไปได้ในการตรวจสอบรูปภาพถ่ายจากการสแกนสมองนั้นแทบจะแยกความต่างของรูปไม่ออกเลยด้วยซ่ำ แต่ถ้าว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ทีมวิจัยในครั้งนี้นต่างพากันสรุปเอาได้ว่าสมองของเด็กเพศหญิงที่เป็นออทิสติกนั้น น่าจะมีลักษณะที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิ่งกับจากเด็กเพศชายที่เป็นออทิสติกอย่างมีนัยที่สำคัญ ส่วนภาวะที่แตกต่างกันนี้อาจจะเป็นหนึ่งสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการแสดงออกของพฤติกรรมออทิสติกที่แตกต่างกันไป

ดังนั้นการวิจัยนี้จึงสรุปได้ว่าการมดลองครั้งนี้อาจมีศักยภาพอย่างมากในอนาคตที่จะนำไปสู่ขั้นตอนการปรับปรุงวิธีวินิจฉัยโรคออทิสติกในสตรีต่อไปในอนาคต และถ้าหากวันใดวันหนึ่งโชคดีเกิดขึ้นในการรักษาของแพทย์ ก็อาจจะสามารถวินิจฉัยโรคออทิสติกในเด็กหญิงและเด็กชายได้อย่างเท่าเทียมกัน และมันก็อาจจะมาถึงในเร็วๆ นี้ก็ได้