Wednesday, 1 May 2024

เครียดเรื่องงานรับมือ อย่างไรให้ไม่เสียสุขภาพกายสุขภาพจิตใจและการใช้ชีวิต

04 Jun 2022
220

เครียดเรื่องงานรับมือ อย่างไรให้ไม่เสียสุขภาพกายสุขภาพจิตใจและการใช้ชีวิต จากปริมาณงานที่กองท่วมตัวจนล้นมือของคนวัยทำงาน บอกเลยวันนี้มนุษย์เงินที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินนั้นต้องดูห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะว่าในวันนี้เรามีวิธีจัดการกับความเครียดจากงานจากเพื่อนร่วมงานหรือจากหัวหน้างานมาแนะนำให้ลองไปทำตาม

สล็อต xo Slotxo

เครียดเรื่องงานรับมือ อย่างไรให้สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจดีจากปริมาณงานที่ล้นมือ

เครียดเรื่องงานรับมือ-อย่างไร

เครียดเรื่องงานถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ไม่แปบกสำหรับคนที่คนทำงานเกือบทุกคน 100 เปอร์เซ็นต์คงต้องเคยเจอ!! และความเครียดนั้นสามารถมาได้จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากปริมาณงานที่มีมากจนทำไม่ทัน,ความเครียดจากการเร่งทำงานเพื่อให้ทันกำหนดส่ง หรือแม้กระความเครียดที่มีสาเหตุมาจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน และถ้าหากความเครียดเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ความเครียดสะสมเป็นเวลานาน มันอาจจะเป็นหนึ่งสิ่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ในอนาคต เมื่อสัญญาณทางด้านร่างกายด้านอารมณ์ และด้านพฤติกรรมเตือนกลับขึ้นมาว่าความเครียดส่งเสียในด้านลบต่อชีวิตของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ขอแนะนำว่าคุณควรรีบหาวิธีรับมือกับความเครียดที่มีในตอนนี้ก่อนเลยเพราะมันอาจส่งผลเสียในคุณได้ในระยะยาว

เครียดเรื่องงานมีสาเหตุจากอะไรบ้าง

เครียดเรื่องงานมีสาเหตุจากอะไรบ้าง

ต้องขอบอกก่อนเลยว่าในบางครั้งความเครียดเรื่องงานไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวงานเป็นนนสาเหตุหลัก แต่มันอาจเกิดขึ้นจากบรรยากาศในรูปแบบต่างๆอย่างเช่น งาน และคนที่มีนิสัยเป็นพิษ (Toxic People) ที่ทำงานร่วมกับเรา ซึ่งสาเหตุของความเครียดจากการทำงานที่พบบ่อยมากที่สุดนั้นมีดังนี้

1.ปริมาณงานมากเกินไป

  • งานยากเกินความสามารถ หรือการ
  • ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหลายงาน
  • ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหลายหน้าที่
  • ไม่สามารถทำเสร็จได้ทันกำหนดส่ง

2.ระยะเวลาการทำงานไม่สมดุลกับการใช้ชีวิต

  • ทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพัก
  • ทำงานเป็นกะโดยไม่ได้กำหนดระยะเวลา
  • เวลาเข้างานและเลิกงานไม่แน่นอน
  • การให้ทำงานนอกเวลางาน
  • ทำงานหลังเลิกงาน
  • ทำงานในวันหยุด

3.วัฒนธรรมองค์กร เช่น

  • ไม่มีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็น
  • ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการทำงาน
  • คนในแผนกไม่มีการติดต่อสื่อสาร
  • ไม่มีส่วนร่วมในช่วยเหลือกัน
  • หัวหน้าไม่มีความสามารถในการตัดสินใจ
  • ผลตอบแทนน้อย

4.ไม่มีความก้าวหน้าในสายงาน เช่น

  • ไม่มีการปรับเงินเดือน
  • ไม่มีการปรับเลื่อนตำแหน่ง

5.มีปัญหากับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน เช่น

  • การทะเลาะเบาะแว้ง
  • การเหยียดหยามและ
  • การกีดกัน (Discrimination)
  • การกลั่นแกล้ง (Bully)
  • การคุกคามทางเพศในที่ทำงาน

6.มีปัญหาในสถานที่ทำงาน เช่

  • อุปกรณ์สำนักงานไม่เพียงพอ
  • ที่ทำงานเสียงดัง
  • ที่ทำงานแออัด
  • ที่ทำงานมีมลพิษทางอากาศ

เครียดเรื่องงานรับมือ-สัญญานเตือนว่ากำลังเครียด

สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเครียดเรื่องงาน

ความเครียดเรื่องงานมักส่งผลให้เกิดอาการคล้ายกับความเครียดเหมือนเรื่องอื่น ๆ และมักทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม ดังนี้

ผลกระทบต่อร่างกาย

1.ร่างกายจะมีการตอบสนองต่อความเครียด

  • อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
  • อัตราการหายใจเพิ่มขึ้น
  • ความดันโลหิตสูงขึ้น
  • กล้ามเนื้อตึงตัวเพิ่มขึ้น
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • อ่อนเพลีย

2.ระบบทางเดินอาหารแปรปรวน เช่น

  • ปวดท้อง
  • ท้องผูก
  • ท้องเสีย
  • นอนไม่หลับ
  • เกิดปัญหาเกี่ยวกับผิว

3.ผลเสียระยะยาวอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น

  • ความดันโลหิตสูง
  • เบาหวาน
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal Disorders)
  • โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease)
  • ปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
  • มะเร็ง

เครียดเรื่องงานรับมือ-ผลกระทบต่อจิตใจ

ผลกระทบต่อจิตใจ

1.ความเครียดเรื่องงานอาจส่งผลเสียให้เรารู้สึกถึง

  • อาการหงุดหงิดที่เกิดขึ้นได้ง่าย
  • อาการไม่มีสมาธิ
  • ความจำและการตัดสินใจแย่ลง
  • ไม่สามารถจัดการปัญหาที่รุมเร้าได้
  • หมดกำลังใจ
  • มองโลกในแง่ร้าย
  • วิตกกังวล

2.ระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะทางจิต เช่น

  • หมดไฟในการทำงาน(Burnout)
  • โรควิตกกังวล
  • โรคซึมเศร้า
  • การฆ่าตัวตาย

ผลกระทบต่อพฤติกรรม

1.มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป เช่น

  • ลางานบ่อย
  • ขาดงานบ่อย
  • อารมณ์แปรปรวน
  • หงุดหงิดใส่คนรอบข้าง
  • ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
  • ความคิดสร้างสรรค์มีน้อยกว่าปกติ
  • การนำเสนอความคิดใหม่ๆมีน้อยกว่าปกติ
  • มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน
  • เกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน
  • เมินเฉยต่อสิ่งรอบข้าง
  • ลาออกจากงาน
  • หลีกหนีจากสังคม

2.พฤติกรรมการดูแลสุขภาพแย่ลง เช่น

  • การรับประทานอาหาร
  • การออกกำลังกาย และ
  • การนอนหลับ

เทคนิครับมือความเครียดเรื่องงาน

เทคนิครับมือความเครียดเรื่องงาน

ความเครียดเรื่องงานเป็นสิ่งหนึ่งที่มนุษย์วัยทำงานหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าหากรู้วิธีรับมือกับความเครียดจะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ดี และมันก็จะส่งผลให้สามารถทำงานต่อไปได้อย่างมีความสุข และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยวิธีรับมือความเครียดง่าย ๆ ด้วยตัวเอง มีดังนี้

1.หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด

  • จดบันทึกเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด
  • เพื่อให้รู้สาเหตุเละต้นตอของความเครียด
  • เพื่อที่จะรับมือกับความเครียดได้ตรงจุด

2.กำหนดเวลาในการทำงานให้ชัดเจน

  • หลีกเลี่ยงการทำงานนอกเวลางาน
  • ไม่รับโทรศัพท์หลังเลิกงาน
  • ตอบกลับอีเมลหลังเลิกงาน

3.บริหารเวลาให้เหมาะสม

  • จัดลำดับความสำคัญในการทำงาน
  • จัดตารางเวลาในการทำงานในแต่ละวัน
  • เพื่อให้ทำงานได้ทันตามที่กำหนด

4.ปรับนิสัยรักความสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)

  • ตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง
  • หากเกิดข้อผิดพลาดก็ไม่ควรโทษตัวเอง
  • เรียนรู้จากความผิดพลาดเพื่อปรับปรุง

5.ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้คนที่ชวนทะเลาะและ

  • คนที่มีปัญหาอยู่ตลอดเวลา
  • เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อกัน

6.หากเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจและคุกคามทางเพศ

  • แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฝ่ายบุคคลรับทราบ
  • แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้หัวหน้างานรับทราบ
  • แจ้งความดำเนินคดี

7.หาเวลาพักเติมพลังกายและใจหลังเลิกงาน เช่น

  • แช่น้ำอุ่น
  • ฟังเพลงสบาย ๆ
  • อ่านหนังสือที่ชอบ

8.ทำกิจกรรมที่ชอบกับเพื่อนและครอบครัวในวันหยุด เช่น

  • ทำอาหาร
  • รับประทานอาหารนอกบ้าน
  • ชมภาพยนตร์

9.หลีกเลี่ยงการผ่อนคลายความเครียดด้วยการพึ่งพา

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • สูบบุหรี่
  • สารเสพติด

10.ทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียดที่ดีต่อสุขภาพ เช่น

  • การนั่งสมาธิ
  • การฝึกหายใจ
  • การเล่นโยคะ

11.ดูแลสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และ

12.ดูแลสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

13.หากไม่มีเวลาให้เริ่มจาก

  • การออกกำลังกายกับเก้าอี้ทำงาน
  • เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
  • หรือแจ้งหัวหน้างานหรือหัวหน้าฝ่ายบุคคลให้ช่วยหาทางแก้ไขปัญหา

14.หากเกิดความเครียดเรื่องงานในรูปแบบรุณแรงและไม่สามารถรับมือได้ด้วยตัวเองแถมมันยังส่งผลเสียต่อการทำงานและหารใช้ชีวิตประจำวัน

เครียดเรื่องงานรับมือ-าควรไปปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์

แนะนำว่าควรไปปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ หรือไปพบผู้เชี่ยวชาญเฉพสะด้านเพื่อหาสาเหตุและให้คำปรึกษาในการปรับความคิดและพฤติกรรมให้เหมาะสมเพื่อบรรเทาความเครียดที่รวมอยู่ในหัว อีกทั้งยังจะได้รับคำแนะนำในการดูแลตัวเองเมื่อเกิดความเครียดอย่างเหมาะสม