Friday, 19 April 2024

แจกเคล็ดลับ “ควบคุม” น้ำตาลในเลือดและน้ำหนักตัวของผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยการ “ควบคุมอาหาร”

แจก เคล็ดลับควบคุมน้ำตาล “ในเลือด” blood sugar และน้ำหนักตัวของผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว ให้พวกเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี ด้วยวิธี “กำหนดปริมาณอาหาร” และปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันที่ควรได้รับ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากกรมอนามัย

สล็อต xo Slotxo

เคล็ดลับควบคุมน้ำตาล “ในเลือด” เกี่ยวกับการกินอาหาร สำหรับผู้ป่วย “เบาหวาน”

เคล็ดลับควบคุมน้ำตาล ในเลือด

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี department of health Thailand นั้นให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าถึงแม้ว่าโรคเบาหวานนั้นเป็นโรคที่แพทย์นั้นยังคงหาวิธีการรักษาให้หายขาดสำเร็จ แต่มันก็เป็นโรคที่ยังคงมีวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและโรคแทรกซ้อนเกิดตามมาได้

ถ้าหากว่าเรานั้นสามารถคุมระดับน้ำตาลและน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี และมันก็จะส่งผลทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้นั้นสามารถใช้ชีวิตอยู่ไปต่อได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุขเหมือนคนทั่วไป คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานส่วนมากนั้นไม่ค่อยรู้ตัวว่าป่วยในระยะเริ่มต้น จะมารู้ตัวอีกทีก็ต้องที่โรคมันแสดงอาการออกมาอย่างเช่น

แจกเคล็ดลับ “ควบคุม” น้ำตาลในเลือดและน้ำหนักตัวของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

น้ำหนักตัวลดลง เข้าห้องน้ำบ่อย ต้องการน้ำตลอดเวลา แผลหายยาก มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกชาที่ตามมือตามเท้า การมองเห็นผิดปกติ ซึ่งอาการทั้งหมดที่ว่ามานั้นเกิดจากน้ำตาลในเลือดสูง แล้วถ้าหากปล่อยไว้นานวันอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนและมีโรคมากมายตามมา อย่างเช่น หลอดเลือดหัวใจอุดตันที่จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจของเรานั้นขาดเลือด

หากมีอาการเบาหวานขึ้นที่ตาก็อาจจะทำให้ตาบอด โปรตีนรั่วในปัสสาวะที่อาจทำให้โรคไตเสื่อม หลอดเลือดสมองอุดตันหรือแตก A blocked or ruptured blood vessel in the brain ส่งผลให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และถ้าหากผู้หญิงที่ตั้งท้องมีอาการที่เป็นโรคนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ อาจเกิดการแท้งลูกได้

ควบคุมอาหาร ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้

ควบคุมอาหาร ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้

การควบคุมอาหารนั้นคือการทำความรู้จักว่าอาหารที่เรานั้นจะทานนั้นเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับร่างกายของเรา และต้องรู้ด้วยว่าร่างกายของเรานั้นต้องการอาหารในปริมาณเท่าไหร่ เพราะยาเบาหวานทั่วไปที่ผู้ป่วยได้รับนั้นมีประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำตาลจากอาหารได้เพียง 45–60 กรัมต่อมื้อ

หากนำมากินเป็นปริมาณข้าวสวยที่ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้นั้นอยู่ที่ 3-4 ทัพพี หากเราได้ทานข้าวในปริมาณนี้ยาก็สามารถควบคุมได้ แต่ถ้าเราได้ทานข้าวนอกบ้านแล้ววได้ข้าวสวยมากถึง 4-5 ทัพพี ยาก็ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะมันเกินปริมาณที่ยานำกำหนดขึ้นมา

วิธีควบคุมน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วย “เบาหวาน”

วิธีควบคุมน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วย “เบาหวาน”

1.เลือกเปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้องให้เป็น

  • ขนมปังโฮลวีท
  • ธัญพืชไม่ขัดสี

เพราะข้าวพวกนี้นั้นมีส่วนช่วยให้ได้รับใยอาหารเพิ่มขึ้น และมันจะส่งผลให้ร่างกายของคนป่วยนั้นดูดซึมน้ำตาลช้าลง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

2.ควบคุมปริมาณข้าวที่รับประทานในแต่ละวัน เช่น

  • ไม่ควรกินธัญพืชเพิ่มจากข้าว
  • ไม่ควรกินข้าวกับผัดฟักทอง
  • ไม่ควรกินข้าวกับผัดวุ้นเส้น

3.งดกินน้ำตาลเกินจำเป็น

  • เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง
  • เลี่ยงผลไม้หวานจัด
  • เลี่ยงน้ำหวาน
  • เลี่ยงน้ำอัดลม

4.เลือกผลไม้ชนิดที่ไม่หวานมากเกินไปมาทานในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายของเรา เช่น

  • กล้วย
  • แอปเปิลเขียว
  • ฝรั่ง

5.ไม่ควรดื่มนมจืดเกิน 1 แก้วต่อวัน

เพราะว่านมวัวมีน้ำตาลตามธรรมชาติอยู่ในตัวที่สูงมาก คล้ายๆกันกับนม Low-fat or skim milk  ที่มันลดแค่เพียงปริมาณไขมันแต่ยังคงมีน้ำตาลผสมอยู่เหมือนเดิม

6.นมเปรี้ยวแทบทุกประเภทนั้นถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในปริมาณสูง จึงไม่ควรดื่มทุกวัน

7.ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอในทุกๆวัน

เคล็ดลับควบคุมน้ำตาล สำหรับคนป่วย

เพราะการออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด แถมสามารถลดปริมาณการใช้ยาหรือการฉีด Insulinได้ ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้แรงกระแทกหนัก หรือมีแรงกระแทกต่ำ เช่น เดิน ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ หรือเลือกความหนักของการออกกำลังกายที่เหมาะสม

ถ้ามีอาการเหนื่อยให้ลดความเร็วในการออกกำลังกายลงหรือให้พักแล้วค่อยเดินต่อ ไม่ควรเปลี่ยนท่าทางการออกกำลังกายอย่างรวดเร็ว ห้ามเดินเท้าเปล่าควรเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับการออกกำลังกาย หมั่นตรวจดูแลสุขภาพเท้าเป็นประจำ ไม่ให้เกิดแผล ไม่ควรออกกำลังกายในที่ร้อนจัดหรือที่ชื้นและให้ดื่มน้ำเป็นระยะ ทุกๆ 10 – 15 นาที

เคล็ดลับควบคุมน้ำตาลใยเลือดให้อยู่ในเกรณ์ที่ดี

ที่สำคัญควรระวังระดับน้ำตาลในเลือดโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเบาหวานที่ใช้ยาฉีด Insulin โดยคนที่ป่วยนั้นควรมีระดับน้ำตาลอยู่ที่ 100-250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร สำหรับคนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือมีบุญาติพี่น้องคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง หรือผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย ให้คิดทบทวนบ่อยๆให้บ่อยให้ดีว่าตัวเองนั้นคือกลุ่มเสี่งที่อาจจะเป็นโรคเบาหวานได้ ดังนั้นจึงควรเข้าไปรับการจรวจเช็คสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ถือเป็นการเฝ้าระวังสุขภาพตนเองอีกทางหนึ่งด้วย