เคล็ดลับดูแลเล็บเจล ก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำ เพื่อถนอมเล็บ

เคล็ดลับดูแลเล็บเจล เพื่อสุขภาพที่ดีของเล็บและมือ เหล่าเทคนิคและวิธีการที่จะคอยแนะนำตั้งแต่การเตรียมพร้อมก่อนทำเล็บ การรักษาเล็บเจล และขั้นตอนดูแลหลังทำเล็บเจล

เคล็ดลับดูแลเล็บเจล เพื่อความคุ้มค่าและสุขภาพเล็บและมือที่ดี

เล็บเจลเป็นอะไรที่นิยมกันมากในยุคที่มีความสวยงาม และอิสระในเรื่องแฟชั่น คนที่ทำเล็บเจลส่วนมากมักมีเหตุผลคล้ายกันหนึ่งข้อ คืออยากได้สีเล็บที่ติดทน การทำเล็บเจลจึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ได้มากกว่าการทาสีเล็บธรรมดาทั่วไปที่ต้องรอเวลานานกว่าจะแห้งแล้วค่อยสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้

แต่ถึงเล็บเจลจะค่อนข้างมีความทนทาน แต่ก็มีข้อควรระวัง และขั้นตอนการดูแลรักษาเล็บเจลให้อยู่ติดนานมีสภาพสมบูรณ์มากที่สุด ให้คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เสริมด้วยเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดูแลเล็บทั้งก่อนและหลังทำสีเจล

ขั้นตอนก่อนทาเล็บเจล

1. สังเกตช่างทำเล็บ

หากคุณต้องออกไปทำเล็บกับช่างที่ไม่สนิทใจ ให้สังเกตรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าช่างได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเครื่องมือเป็นอย่างดีแล้ว ห้ามให้ช่างตัดหนังกำพร้าออกเด็ดขาด เพราะหนังกำพร้าจะช่วยปกป้องเล็บให้ปลอดภัย

2. น้ำยาทาเล็บแบบธรรมดาอาจดีกว่าน้ำยาทาเล็บเจล

หากเคยทำเล็บเจลมาก่อนแล้วต้องประสบอาการแพ้ต่าง ๆ จากน้ำยาเล็บเจล หรือน้ำยาเคลือบเล็บ ให้ลองใช้น้ำยาทาเล็บธรรมดาแทน

3. ใช้ครีมกันแดดทามือและนิ้ว

เมื่อต้องทำเล็บเจลสิ่งที่จะต้องเจอแน่นอนก็คือเครื่องอบเล็บ การทำงานของเครื่องนี้คือจะฉายรังสี UV ออกมาเพื่อทำให้สีเล็บนั้นแห้ง โดยมีค่า SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป นั่นอาจทำให้มือไหม้หรือเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ หากไม่สะดวกทากันแดดอาจเปลี่ยนเป็นการสวมถุงมือที่ตัดปลายนิ้วออกก็ได้

ขั้นตอนการรักษาเล็บเจล

1. หลีกเลี่ยงการใช้งานเล็บ

วิธีการรักษาเล็บเจลให้มีอายุยืนที่สุด นั่นคือหลีกเลี่ยงการใช้งานเล็บที่ประกอบไปด้วย การใช้เล็บงัดแงะ การกัด/แกะเล็บ การใช้มีด หรือการใช้เล็บหยิบจับสิ่งของ

2. งด ตัด/ตะไบ เล็บ

หลีกเลี่ยงการ ตัด/ตะไบ เพราะนั่นอาจทำให้เล็บแตกหรือเกิดรอยช่องหว่างระว่างสีเจลกับตัวเล็บ ซึ่งอาทำให้เกิดการหลุดลอกได้ง่ายขึ้น เว้นแต่ว่าเล็บที่ทำสีจะเริ่มยาวเกินไปจนดูเป็นอันตรายกับเล็บที่เหลือ การตัดออกอาจเป็นเรื่องที่ดี คำแนะนำคือให้ตะไบเล็บในทางลงเพื่อรักษาหน้าเล็บ

3. หลีกเลี่ยงความร้อน

น้ำร้อนหรือความร้อนอาจทำให้เล็บเจลหลุดลอก และการถูกความร้อนนาน ๆ อย่างเช่นการตากแดดก็อาจทำให้สีเล็บนั้นซีดได้

4. เช็ดมือหลังมือเปียกทุกครั้ง

อย่าปล่อยให้มือนั้นแห้งเองเมื่อเปียก เพราะการกระทำนั้นจะทให้มือแห้งกร้าน และสูญเสียความชุ่มชื้น อาจทำให้เล๋บมีสีจางและหลุดลบอกได้ง่ายขึ้น

5. เติมความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ

เล็บที่ผ่านการทำสีอาจสูญเสียความมีน้ำมีนวลไปมาก การเติมความชุ่มชื้นจะช่วยให้เล็บได้ฟื้นฟูความแข็งแรงขึ้นมาได้ สามารถใช้เป็นครีมบำรุงเล็บ โลชั่นทามือ น้ำมันบำรุงเล็บ หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ทั่วไป สารบำรุงเหล่านี้จะทำให้เล็บชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และช่วยให้สีเล็บติดทนนานขึ้น

6. ทำสปาเล็บอาทิตย์ละครั้ง

สปาเล็บแสนง่ายและทำได้เองที่บ้าน โดยมีส่วนผสมเพียงอย่างเดียวคือน้ำอุ่น ๆ สักชาม ให้นำนมอุ่น ๆ มาใส่ชามไว้ จากนั้นนำเล็บลงไปแช่ ประมาณ 4-5 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง วิธีนี้จะทำให้เล็บดูกระจ่างใสขึ้น ลดครายสีและความสกปรกอื่น ๆ พร้อมช่วยให้เล็บแข็งแรงขึ้นจากสารอาหารในนม

7. ใช้ถุงมือหากจำเป็น

หากมีความจำเป็นที่ต้องใช้มือหรือเล็บในการทำกิจจกรรมที่แสนจะหนักหน่วง การเลือกสวมถุงมือก็เป็นตัวเลือกในการักษเล็บที่ดี เพราะเล็บอาจไปโดนพวกสารเคมีเข้าโดยไม่ตั้งใจ หมายความว่าต่อให้เป็นคนที่ทำเล็บหรือไม่ ก็ควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันสารอันตราย

8. ห้ามแกะเล็บเจลออกเองเด็ดขาด

การแกะลอกเล็บเจลออกเองโดยไม่มีพื้นฐาน จะทำให้หน้าเล็บแห้ง เล็บบาง และหน้าเล็บพังได้ ดังนั้นควรให้ผู้เชี่ยวชาญทำการถอดเล็บออกให้จะดีที่สุด

ขั้นตอนหลังลอกเล็บเจล

1. ควรถอดเล็บเจลออกหลังทำเล็บมานานกว่า 2 อาทิตย์

การดูและรักษาเล็บเจลให้คงสภาพสวยงามเหมือนทำเสร็จใหม่ ๆ นับเป็นเรื่องดี แต่แม้ว่าจะรักษาไว้ดีเพียงใด ก็มีช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการถอดออกเช่นกัน การทำเล็บเจลมานานส่งผลต่อตัวเล็บและหนังกำพร้า ทำให้เล็บอ่อนแอหรือถึงขั้นอาจมีเชื้อราหรือเชื้อโรคสะสมอยู่ในเล็บ จงจำไว้ว่าเมื่อใดที่มีช่องว่างระหว่างเล็บกับเจลถือเป็นแหล่งเจริญเติบโตที่ยอดเยี่ยมของแบคทีเรีย

2. จำเป็นต้องถอดเล็บเอง

กรณีจำเป็นหากไม่สะดวกไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อถอดเล็บ สามารถดำเนินการถอดเล็บเองได้ด้วยความระมัดระวัง คำแนะนำคือให้ค่อย ๆ ตะไบเล็บในส่วนที่เคลือบเงาเพื่อเป็นการเปิดชั้นสีเล็บ จากนั้นให้นำสำลีไปชุบสารอะซิโตน (สารเคมีที่ใช้ในการล้างเล็บเจล) แล้วนำมาแปะไว้บนเล็บที่ต้องการถอด ก่อนนำแผ่นฟอยล์ ทิ้งไว้ 10-15 นาที พอถึงเวลาให้เอาไม้สำหรับดันหนังกำพร้ามาค่อย ๆ แซะสีเจลออก หลังเสร็จครบทุกนิ้ว ให้ทำการขัดหน้าเล็บเบา ๆ ก่อนจะทำเล็บทั้งหมดที่อ่อนล้าจากกิจกรรมการถอดมาทาน้ำมันบำรุงเล็บเพื่อเติมความชุ่มชื้น เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ

3. บำรุงเล็บเป็นประจำ

หลังผ่านศึกใหญ่มา เล็บก็ต้องประสบกับความเหนื่อยล้าและเปราะบาง สิ่งที่ควรจะทำเป็นประจำคือการเติมสารบำรุงเพื่อให้เล็บคืนสภาพความแข็งแรง และความชุ่มชื้นที่ควรได้รับ สามารถใช้พวกผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บที่ใช้เคยเมื่อตอนทำเล็บเจลมาบำรุงเล็บธรรมชาติต่อได้เลย

4. พักเล็บยาว ๆ

เพราะการทำสีและการถอดสีเจลออกนั้นทำให้หน้าเล็บเสียหายอย่างหนัก เช่น เล็บบาง เล็บแห้ง หรือเล็บแตกหัก จึงเป็นการเหมาะสมที่จะทำการพักรักษามือและเล็บจนกว่าจะมาชุ่มชื้นและแข็งแรงดี หรือจนกว่าช่างผู้เชี่ยวชาญจะอนุญาติให้กลับมาทำได้อีกครั้ง

ถือเป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนที่รักการทำเล็บ ใครที่ชอบทำก็อย่าลืมดูแลรักษาเล็บให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อเตรียมพร้อมต่อการทำสีต่อ ๆ ไป