Friday, 13 June 2025

กินโยเกิร์ตทุกวันแต่ไม่ผอม: เช็กด่วน 6 ข้อผิดพลาด ที่หลายคนทำซ้ำซาก

12 Jun 2025
63

กินโยเกิร์ตทุกวันแต่ไม่ผอม: เช็กด่วน 6 ข้อผิดพลาด เพราะโยเกิร์ตไม่ได้ช่วยให้ผอมเสมอไป ถ้าคุณกินผิดวิธี! “โยเกิร์ต” คือหนึ่งในอาหารยอดฮิตของสายสุขภาพ สายคลีน และคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ด้วยความเชื่อที่ว่า โยเกิร์ตไขมันต่ำ แคลอรี่น้อย อุดมด้วยโปรไบโอติกที่ดีต่อระบบขับถ่ายและลำไส้

สล็อต xo Slotxo

เพราะแบบนี้ไง! เช็กด่วน 6 ข้อผิดพลาด เวลากินโยเกิร์ตที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ

6 วิธีกินโยเกิร์ตแบบผิดๆ ก็เพราะแบบนี้ไงล่ะ

แต่ความจริงแล้ว หลายคนกินโยเกิร์ตผิดวิธีโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้ไม่เพียงไม่ผอม แต่บางคนยังน้ำหนักขึ้นอีกด้วย! วันนี้เรามาเช็กกันว่า 6 พฤติกรรมกินโยเกิร์ตแบบผิด ๆ ที่ทำให้คุณไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการมีอะไรบ้าง

❌ 1. เลือกโยเกิร์ตรสหวาน หรือโยเกิร์ตผลไม้สำเร็จรูป

6 วิธีกินโยเกิร์ตแบบผิดๆ (2)

สาเหตุ:

  • โยเกิร์ตสำเร็จรูปในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายยี่ห้อมีน้ำตาลสูงมาก
  • บางถ้วยมีน้ำตาลเกิน 20-25 กรัม เท่ากับน้ำตาล 4-5 ช้อนชา
  • ส่งผลให้แคลอรี่รวมสูงเกินความจำเป็นสำหรับการลดน้ำหนัก

ทางแก้:

  • เลือกโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ (Plain Yogurt) หรือ Greek Yogurt แบบไม่มีน้ำตาล
  • เพิ่มความหวานเองด้วยผลไม้สดเล็กน้อย

❌ 2. กินปริมาณมากเกินไปในแต่ละมื้อ

สาเหตุ:

  • แม้โยเกิร์ตจะมีประโยชน์ แต่ก็ยังให้พลังงานเฉลี่ย 80-150 kcal ต่อถ้วย
  • การกินหลายถ้วยต่อวันโดยไม่ควบคุมปริมาณ ทำให้ได้รับพลังงานเกิน

ทางแก้:

  • จำกัดปริมาณ 1 ถ้วย (ประมาณ 150-200 กรัม) ต่อครั้ง
  • หากต้องการเพิ่มความอิ่ม ควรเสริมด้วยธัญพืชหรือผลไม้ไฟเบอร์สูง
❌ 3. เติมท็อปปิ้งหวานจัด เช่น น้ำผึ้ง ซีเรียล ขนมกรุบกรอบ

สาเหตุ:

  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา มีน้ำตาลประมาณ 5-6 กรัม
  • ซีเรียลหรือกราโนลาบางยี่ห้อมีน้ำตาลแฝงสูง
  • ท็อปปิ้งหวาน ๆ เหล่านี้ทำให้โยเกิร์ตแคลอรี่สูงโดยไม่รู้ตัว

ทางแก้:

  • เติมผลไม้สดไม่หวานจัด เช่น เบอร์รี่ กีวี แอปเปิ้ล
  • หลีกเลี่ยงท็อปปิ้งแปรรูปสำเร็จรูปที่ผ่านกระบวนการขัดสี
❌ 4. กินโยเกิร์ตแทนมื้ออาหารหลัก

สาเหตุ:

  • โยเกิร์ตให้พลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอสำหรับมื้อหลัก
  • เสี่ยงขาดสารอาหาร และทำให้ระบบเผาผลาญรวนในระยะยาว

ทางแก้:

  • ใช้โยเกิร์ตเป็นมื้อว่างหรือเสริมมื้ออาหาร
  • ควบคู่กับอาหารหลักที่มีโปรตีน ไขมันดี และผักครบหมู่

❌ 5. เลือกโยเกิร์ตไขมัน 0% ตลอดเวลา

สาเหตุ:

  • ไขมันในโยเกิร์ตช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
  • ไขมันดีช่วยดูดซึมวิตามินสำคัญ เช่น วิตามิน A, D, E, K
  • โยเกิร์ต 0% บางสูตรเติมน้ำตาลเพิ่มเพื่อชดเชยรสชาติ

ทางแก้:

  • เลือกโยเกิร์ตไขมันต่ำ (Low Fat) หรือ Full Fat แบบธรรมชาติในปริมาณเหมาะสม

❌ 6. กินโยเกิร์ตเย็นจัดทันทีจากตู้เย็น

สาเหตุ:

  • ระบบย่อยอาหารต้องปรับอุณหภูมิอาหารก่อนดูดซึม
  • ในบางคนอาจทำให้ท้องอืด หรือปวดท้องโดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหากรดไหลย้อน

ทางแก้:

  • นำโยเกิร์ตออกมาวางทิ้งไว้ 10-15 นาที ก่อนรับประทาน
  • ให้โยเกิร์ตคลายความเย็นลงเล็กน้อย

สรุป: กินโยเกิร์ตอย่างไรให้ช่วยลดน้ำหนักได้จริง?

  • ✅ เลือกโยเกิร์ตธรรมชาติ ไขมันต่ำ-ไม่มีน้ำตาล
  • ✅ ควบคุมปริมาณ 1 ถ้วยต่อครั้ง
  • ✅ เลือกท็อปปิ้งที่มีไฟเบอร์สูง
  • ✅ ไม่ใช้โยเกิร์ตแทนอาหารหลัก
  • ✅ กินโยเกิร์ตแบบคลายเย็นเล็กน้อยเพื่อช่วยระบบย่อยอาหาร
  • ✅ เน้นความหลากหลายทางโภชนาการควบคู่กับการออกกำลังกาย

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่