4 โรคที่พบบ่อยในหน้าหนาว พร้อมวิธีดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว หลายคนอาจรู้สึกสดชื่นกับอากาศเย็นที่ไม่ค่อยได้สัมผัสบ่อยนักในประเทศไทย แต่เบื้องหลังอากาศที่เย็นสบาย กลับมี “ภัยเงียบ” ที่ซ่อนอยู่ นั่นคือ โรคที่มักเกิดขึ้นในหน้าหนาว ซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและภูมิคุ้มกันโดยตรง บทความนี้จะพาคุณมารู้จัก 4 โรคที่พบบ่อยในหน้าหนาว พร้อมแนวทางป้องกันง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวัน เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงตลอดฤดูหนาวนี้

ทำไมหน้าหนาวถึงเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย

ในฤดูหนาว อุณหภูมิที่ลดลงทำให้ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ ประกอบกับอากาศแห้งเชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ดีขึ้น และผู้คนมักอยู่ในที่ปิด เช่น ห้องแอร์ หรือสถานที่แออัด ส่งผลให้การติดเชื้อทางเดินหายใจเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ปอดอุดกั้น หรือภูมิแพ้ มักมีอาการกำเริบในช่วงนี้ จึงจำเป็นต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ

โรคที่พบบ่อยในฤดูหนาว

1. โรคไข้หวัด

โรคไข้หวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีเชื้อหลายร้อยสายพันธุ์ ติดต่อได้ง่ายทางอากาศจากการไอหรือจาม รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรค

อาการ: มีไข้ต่ำ ๆ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และระคายคอ โดยทั่วไปจะหายภายใน 7 วัน

วิธีดูแลตนเอง:

• พักผ่อนให้เพียงพอ

• ดื่มน้ำมาก ๆ โดยเฉพาะน้ำอุ่นหรือน้ำผลไม้

• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมากเกินไป

• สวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดการแพร่เชื้อ

ส่วนใหญ่โรคไข้หวัดจะไม่รุนแรง แต่ควรระวังไม่ให้ลุกลามเป็นไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ

2. โรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคที่พบการระบาดมากที่สุดในช่วงอากาศหนาวเย็น เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3 ชนิด ได้แก่ ชนิด A, B และ C โดยชนิด A เป็นชนิดที่แพร่กระจายรุนแรงที่สุด

การติดต่อ:
เชื้อแพร่กระจายทางน้ำมูก น้ำลาย เสมหะจากการไอหรือจาม รวมถึงการสัมผัสสิ่งของปนเปื้อนเชื้อ เช่น ลูกบิดประตู แก้วน้ำ โทรศัพท์ แล้วนำมือมาสัมผัสจมูกหรือปาก

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่:

• มีไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว

• เจ็บคอ คัดจมูก ไอแห้ง

• บางรายอาจมีอาการซึม เหนื่อยล้า หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังคือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สุขภาพ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว

การป้องกัน:

• ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง

• หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด

• หลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ หรือจาม

3. โรคหอบหืดและโรคปอดเรื้อรัง

ในช่วงอากาศเย็น ผู้ป่วยโรคหอบหืดหรือโรคปอดเรื้อรังมักมีอาการกำเริบได้ง่าย เพราะอากาศเย็นทำให้หลอดลมหดตัว และหากติดเชื้อไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ร่วมด้วย อาการจะรุนแรงขึ้น

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย:

• รักษาความอบอุ่นของร่างกาย โดยเฉพาะช่วงอกและลำคอ

• พกยาพ่นหรือยาขยายหลอดลมติดตัวเสมอ

• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในอากาศเย็นจัด

• เข้าพบแพทย์ตามนัดและฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี

4. โรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้เป็นโรคยอดฮิตในฤดูหนาว เพราะอากาศเย็นและแห้งทำให้เยื่อบุจมูกระคายเคืองง่าย อีกทั้งผู้ที่แพ้ไรฝุ่น ขนสัตว์ หรือควันบุหรี่ จะมีอาการมากขึ้นในช่วงอุณหภูมิลดลง

อาการของโรคภูมิแพ้:

• คัดจมูก น้ำมูกใส คันตา คันจมูก

• จามบ่อย หายใจไม่สะดวก

• บางรายอาจมีผื่นแพ้หรือคันตามผิวหนัง

การดูแลตัวเอง:

• ทำความสะอาดที่นอนและผ้าห่มเป็นประจำ

• หลีกเลี่ยงอากาศเย็นจัดและควันบุหรี่

• รักษาความชื้นในห้องให้อยู่ระดับพอดี

• พบแพทย์หากอาการกำเริบหนักหรือมีภาวะแทรกซ้อน

วิธีดูแลสุขภาพในช่วงอากาศหนาว

เพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ ที่มากับหน้าหนาว ควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงตามแนวทางดังนี้ 👇

✅ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
✅ ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
✅ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
✅ อยู่ในที่อากาศถ่ายเทดี ไม่แออัด
✅ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มสุรา เพราะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง
✅ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ 15–20 วินาที เพื่อกำจัดเชื้อโรค
✅ สวมเสื้อกันหนาว หมวก ผ้าพันคอ และถุงมือ เพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกาย

สรุป: หน้าหนาวจะไม่ป่วยถ้าดูแลตัวเองถูกวิธี

อากาศเย็นอาจนำความสุขมาให้หลายคน แต่ก็เป็นช่วงที่ต้องใส่ใจสุขภาพมากที่สุด โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หอบหืด และภูมิแพ้ ล้วนป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ
อย่าลืมว่า “การป้องกันดีกว่าการรักษา” เพียงใส่ใจสุขภาพในทุกวัน คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับฤดูหนาวได้อย่างปลอดภัย

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคหน้าหนาว

Q1: โรคหน้าหนาวคืออะไร?
A: คือกลุ่มโรคที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงอากาศเย็น เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หอบหืด และภูมิแพ้

Q2: ใครเสี่ยงป่วยในฤดูหนาวมากที่สุด?
A: เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจหรือภูมิแพ้

Q3: ควรป้องกันโรคหน้าหนาวอย่างไร?
A: ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี รักษาความอบอุ่น ออกกำลังกาย และล้างมือบ่อย ๆ

Q4: หากมีอาการไข้หวัดควรทำอย่างไร?
A: พักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ และหากมีไข้สูงหรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรพบแพทย์ทันที