Sunday, 5 October 2025

โรคไข้เลือดออก อาการ การรักษา และวิธีป้องกัน

03 Oct 2025
2038

เมื่อพูดถึงโรคที่คนไทยคุ้นเคยและได้ยินกันบ่อยทุกหน้าฝน หนึ่งในนั้นคือ โรคไข้เลือดออก ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงไข้ธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วโรคนี้อันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที บทความนี้จะพาไปสรุปแบบง่าย ๆ ว่าโรคไข้เลือดออกคืออะไร อาการมีแบบไหน รักษาอย่างไร และเราจะป้องกันได้อย่างไร

สล็อต xo Slotxo

โรคไข้เลือดออกคืออะไร

โรคไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) ที่มียุงลายเป็นพาหะ เมื่อยุงที่มีเชื้อไปกัดคน เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ สุขภาพ เกิดไข้สูงและอาการต่าง ๆ ตามมา โรคนี้พบได้บ่อยในประเทศเขตร้อนอย่างไทย โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ยุงลายขยายพันธุ์ได้ดี

โรคไข้เลือดออก

อาการของโรคไข้เลือดออก

โรคนี้มีการแบ่งอาการออกเป็น 3 ระยะสำคัญ ซึ่งควรสังเกตอย่างใกล้ชิด

1. ระยะไข้

  • ไข้สูงเฉียบพลัน 38–40 องศา 
  • ปวดหัว ปวดกระบอกตา 
  • ปวดเมื่อยตามตัว คล้ายไข้หวัดใหญ่ 
  • อาจมีผื่นแดงขึ้นตามตัว 

2. ระยะวิกฤต

  • ช่วงนี้อันตรายที่สุด เพราะอาจเกิดการรั่วของพลาสมาในเส้นเลือด 
  • ผู้ป่วยอาจมีอาการอาเจียน ปวดท้องมาก เลือดออกง่าย เช่น เลือดกำเดาออก จุดเลือดออกตามผิวหนัง 
  • ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาจเข้าสู่ภาวะช็อก 

3. ระยะฟื้นตัว

  • อาการจะเริ่มดีขึ้น ไข้ลดลง 
  • ความอยากอาหารกลับมา 
  • ต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงต่อเนื่องเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน 

การวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก

แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อ โดยเฉพาะการตรวจเกล็ดเลือดและค่าการทำงานของตับ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหรือไม่

การรักษาไข้เลือดออก

ปัจจุบันยัง ไม่มีตัวยารักษาโดยตรง แต่เป็นการรักษาตามอาการ ได้แก่

  • ให้ผู้ป่วยพักผ่อนมาก ๆ 
  • ดื่มน้ำหรือเกลือแร่เพื่อลดการขาดน้ำ 
  • เช็ดตัวเพื่อลดไข้ (ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน เพราะเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก) 
  • ถ้าอาการรุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 

การวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก

ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง

  • ภาวะเลือดออกผิดปกติ 
  • ตับอักเสบ 
  • ภาวะช็อก (Dengue Shock Syndrome) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต 

ดังนั้น หากมีอาการไข้สูงต่อเนื่อง ปวดท้อง อาเจียน หรือมีจุดเลือดออก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

การป้องกันไข้เลือดออกและยุงลาย

การป้องกันทำได้ง่าย แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น น้ำขังในถัง แจกัน กระถางต้นไม้ 
  • ใช้มุ้งลวด นอนกางมุ้ง หรือใช้ยากันยุง 
  • สวมเสื้อผ้าแขนยาวเมื่อต้องออกนอกบ้านในพื้นที่ที่มียุงชุม 
  • รณรงค์ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ได้แก่ เก็บบ้าน เก็บขยะ และเก็บน้ำ 

วัคซีนไข้เลือดออก – สิ่งที่ควรรู้

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกที่ผ่านการรับรองแล้ว แต่การใช้ยังต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับภูมิหลังการติดเชื้อของแต่ละคน ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะสมกับการฉีดวัคซีน

สรุปและข้อควรระวัง

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคใกล้ตัวที่อันตรายกว่าที่คิด ถึงแม้ส่วนใหญ่สามารถรักษาหายได้ แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลอย่างถูกต้องก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ ดังนั้น การสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ การรีบพบแพทย์ และการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัดคือสิ่งสำคัญที่สุด

FAQ คำถามที่พบบ่อย

โรคไข้เลือดออกอันตรายไหม?
– อันตรายได้ โดยเฉพาะถ้ามีภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออกหรือช็อก

เด็กเป็นไข้เลือดออกต้องดูแลอย่างไร?
– ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เช็ดตัวลดไข้ หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน และรีบพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น

ทุกคนที่โดนยุงลายกัดจะเป็นไข้เลือดออกหรือไม่?
– ไม่ใช่ทุกคน แต่ถ้ายุงตัวนั้นมีเชื้อไวรัสเดงกี โอกาสติดโรคก็สูง

วัคซีนไข้เลือดออกป้องกันได้จริงหรือไม่?
– ป้องกันได้บางส่วน ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเพื่อประเมินความเหมาะสม