รู้หรือไม่ว่า!? การให้ทารกกิน “เนยถั่ว” สามารถสร้างภูมิคุ้มกันการแพ้ถั่วลิสงได้

รู้หรือไม่ว่า!? ให้ทารกกินเนยถั่ว ตั้งแต่อายุได้ 4-5 เดือน ช่วยลดการเกิดปัญหา สุขภาพ “ภูมิคุ้มกันการแพ้ถั่วลิสง และลดการเกิด “ภูมิแพ้ถั่วลิสง” ลงได้มากถึง 77 เปอร์เซ็นต์ บอกเลยบ้านไหนที่มีลูกเล็กเด็กแดงนั้นต้องห้ามพลาดแวะเข้ามาเอเคล็ดลับดีๆที่เรานำมาฝาหในวันนี้ไปใช้กับเด็กๆที่บ้านก่อน

ให้ทารกกินเนยถั่ว ตั้งแต่ 4-5 เดือน ช่วยลด “ภูมิแพ้ถั่วลิสง” ลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

งานวิจัยใน United Kingdom พบหลักฐานบางอย่างที่บอกว่าการให้เด็กอายุระหว่าง 4-5-6 เดือน กินเนยถั่วในแบบที่บดละเอียดแล้วในประมาณเล็กน้อย สามารถลดโอกาสเกิดภาวะภูมิแพ้ถั่วลิสงลงได้ถึง 77 เปอร์เซ็นต์ ทีมนักวิทยาศาสตร์บอกว่านี่คือโอกาสสำคัญมากกับเด็กที่เริ่มห่างนมแม่ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอาการแพ้ถั่ว ซึ่งเด็กบางคนนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ภูมิแพ้อาหารเกิดขึ้นได้อย่างไร

ภาวะแพ้อาหารเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันนั้นทำหน้าที่บกพร่องเลยมองว่าอาหารบางชนิดนั้นมันเป็นอันตรายต่อร่างกายของคนๆนั้น อย่างเช่นคนบางคนที่กินถั่วลิสงไปแค่ไม่เท่าไหร่ก็สามารถแพ้ได้อย่างรุนแรง จนเกือบทำอันตรายให้กับชีวิตได้ อาการภูมิแพ้ถั่วลิสงถึงเป็นสิ่งที่พบเห็นได้เป็นประจำตามสถานที่ต่างๆ และมันก็ส่งผลให้โรงเรียนจำนวนไม่น้อยที่สั่งห้ามใช้ถั่วเป็นส่วนผสมในอาหารที่ปรุงให้แก่เด็กนักเรียน

ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้เราจะได้ยินคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนที่บอกว่าห้ามให้เด็กอ่อนนั้น ทานอาหารที่อาจเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ บางคนนั้นก็บอกเตือนให้ผู้ปกครองพยายามงดและอย่าให้เด็กๆกินถั่วลิสงจนกว่าจะอายุ 3 ขวบ อย่างไรก็ตามหลักฐานจากงานวิจัยจำนวนไม่น้อยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาได้หักล้างความเชื่อดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเริ่มทานถั่วทุกชนิดในช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันกำลังทำหน้าที่ จะทำให้ร่างกายนั้นสามารถทำความเข้าใจได้ว่าอาหารที่กินเข้าไปในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม ที่เป็นสิ่งที่อันตรายและจะช่วยลดการเกิดอาการแพ้ได้ นั้นก็แปลว่าท้องของเรานั้นจะได้ทำความรู้จักกันกับถั่วลิลง แล้วจะยอมรับและจกจำเอาไว้ว่านี่คืออาหาร มากกว่าการสัมผัสผ่านทางผิวหนัง

ซึ่งอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันนั้นคิดว่าถั่วคือสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตราย ที่ประเทศ Israel ซึ่งประชาชนทั่วประเทศนั้นชื่นชอบการนกินขนมที่มีส่วนผสมของถั่วลิสงตั้งแต่เด็ก เลยส่งผลให้มีอัตราการเกิดภาวะแพ้ถั่วต่ำกว่าหลายประเทศ และผลงานวิจัยหลายๆชิ้นนั้นก็พบหลักฐานบ่งชี้ว่า

การให้เด็กเริ่มทานอาหารที่มีความเกี่ยวข้องกันกับการแพ้อาหารบางชนิด เช่น eggs, milk, และ wheat flourตั้งแต่ยังเป็นทารกนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงแพ้อาหารเหล่านี้ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ผู้ผปกครองหลายๆคนที่ลบ้านมีเด็กนั้นควรจะเริ่มสอนให้เด็กชิมของพวกนั้นที่กล่าวมา

ข้อแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์

งานวิจัยล่าสุดที่เผยแพร่ลงในวารสารโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยาคลินิก เป็นของทีมนักวิทยาศาสตร์จาก University of Southampton , King’s College London  และ National Institute for Health and Care Research  (National Health Service หรือ NHS) ซึ่งนักวิจัยนั้นได้คำนวณช่วงอายุที่พอดีที่สุดในการเริ่มให้เด็กกินเนยถั่วก็ คือ เด็กที่อยู่ในช่วงวัย 4-6 เดือน

เป็นช่วงที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และลดโอกาสเกิดภูมิแพ้ถั่วได้ถึง 77 เปอร์เซ็นต์ นี่มันมีผลดีเหมือนกันกับการสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ถั่วได้มากถึงปีละมากกว่าหนึ่งหมื่นคน จากทั้งหมดหนึ่งหมื่นสามพันคน เพราะการให้เด็กหัดเริ่มอาหารที่มีถั่วที่ช้าเกินไป จนกระทั่งเด็กมีอายุ 1 ขวบ จะสร้างภูมิคุ้มกันต้านการแพ้ถั่วได้ 33 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ส่วนเด็กที่มีผื่นขึ้นตามผิวหนังและทำให้อักเสบ เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิด anaphylaxis นั้น ทีมนักวิจัยแนะนำให้เริ่มกินเนยถั่วตอนอายุ 4 เดือน หรือต่อเมื่อเด็กคนนั้นมีความพร้อมในการทานอาหารประเภทนั้น โดยผู้ปกครองควรจะเริ่มต้นด้วยการให้เด็กกินผักและผลไม้ในปริมาณที่ไม่มาก

และเมื่อเด็กเริ่มทานผลไม้ได้แล้วก็สามารถให้เด็กรับประทานเนยถั่วที่บดละเอียดได้เลย โดยจะกินในปริมาณประมาณ 3 ช้อนชาต่อหนึ่งอาทิตย์ และให้เด็กกินต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากว่าเนยถั่วอาจมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแห้ง พ่อแม่อาจใช้วิธีผสมกับน้ำนมแม่ได้

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอย่าให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี กินถั่วหรือถั่วลิสงที่ไม่ได้บดอย่างละเอียดเด็ดขาด เพราะว่ามันอาจเข้าไปทำอันตรายถึงชีวิตได้ ด้วยการลงไปติดอยู่ที่คอ คำแนะนำล่าสุดของ NHS บอกว่าผู้ปกครองนั้นหัดให้เด็กกกินของพวกเนยถั่วที่ไม่ได้เป็นเม็ดหรือแบบที่ทำให้ติดคอได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป

สัญญาณบ่งชี้ว่าทารกพร้อมทานอาหารคือ

1.สามารถตั้งคอ

• สามารถนั่งได้เองอย่างมั่นคง

2.มีสายตา มือ และปากสอดประสานกัน

• ทำให้เด็กสามารถมองดูอาหาร
• ทำให้เด็กสามารหยิบเข้าปากได้

3.สามารถกลืนอาหารได้

• ไม่ใช่คายออกมา

สามารถติดตามข่าวสารใหม่สดทุกวันที่ได้ที่นี่